Skip to main content
sharethis

เว็บ ‘ภูเก็ตหวาน’ เตรียมยื่นหนังสือ ร้องนายกฯ ดำเนินการให้กองทัพเรือถอนฟ้องถอนฟ้องคดีอาญา-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ชี้เข้าข่ายละเมิดสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน พรุ่งนี้ (ศ.23)

22 ม.ค. 2558 สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ระบุในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ชุติมา สีดาเสถียร ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวภูเก็ตหวาน (www.phuketwan.com) จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียนให้ดำเนินการให้กองทัพเรือถอนคำร้องทุกข์และฟ้องคดี ในคดีที่กองทัพเรือยื่นฟ้องสำนักข่าวภูเก็ตหวานต่อศาลจังหวัดภูเก็ตในข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและร่วมกันเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ เหตุจากการที่สำนักข่าวภูเก็ตหวานเผยแพร่รายงานพิเศษของสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเจ้าหน้าที่ทางการไทยมีส่วนร่วมรับประโยชน์จากลักลอบค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา

คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2556 ชุติมา สีดาเสถียร และนายอลัน มอริสัน ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวภูเก็ตหวานได้นำเสนอรายงานข่าว โดยอ้างอิงข้อความ ตามรายงานพิเศษของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.reuters.com มีเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของทางการไทยเข้าไปมีส่วนร่วมรับประโยชน์จากขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา เผยแพร่ข่าวดังกล่าวทางเว็บไซต์ www.phuketwan.com มีข้อความว่า “Thai Military Profiting from Trade in Boatpeople, Says Special Report” และ “The Thai naval Forces usually earn about 2000 baht per Rohinya for spotting a boat or turning blind eyes, said the smuggler, who works in the southern Thai region of Pang Nga north of Phuket and deals directly with the navy and police."

ต่อมาวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2556 กองทัพเรือได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีกับผู้สื่อข่าวทั้งสอง เนื่องจากการนำเสนอข่าวเผยแพร่ข้อความดังกล่าว ต่อมาพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิตได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันหมิ่นประมาท, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  และร่วมกันเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” ตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1)  ซึ่งศาลจังหวัดภูเก็ตนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2558

ในกรณีนี้ผู้สื่อข่าวภูเก็ตหวานทั้งสองคนเห็นว่า การนำเสนอข่าวดังกล่าวเป็นการกระทำในบทบาทหน้าที่ของสื่อสารมวลชน โดยมีกฎหมายบัญญัติรับรองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนดังกล่าวเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ให้การคุ้มครองเอาไว้โดยมาตรา 45 และมาตรา 46  ซึ่งรัฐจะจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชนมิได้ เว้นแต่เพื่อความมั่นคงของประเทศ กระทบกระเทือนต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทบสิทธิของบุคคลอื่น และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ จะต้องไม่กระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมที่เป็นการขัดขวาง หรือแทรกแซง การเสนอข่าว หรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะของสื่อมวลชน หากกระทำการดังกล่าวถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและไม่มีผลใช้บังคับ เหตุผลเพราะสื่อมวลเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารที่ตีแผ่ความจริงเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร  การจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของสื่อมวลชนเท่ากับการปิดหูปิดตาประชาชน

เนื้อหาหนังสือร้องเรียนดังกล่าวที่จะยื่นต่อนายกรัฐมนตรีสำนักข่าวภูเก็ตหวาน (www.phuketwan.com) มีข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำเนินการเพื่อให้กองทัพเรือดำเนินการถอนฟ้องคดีอาญา ที่เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชน ซึ่งผู้สื่อข่าวทั้งสองได้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน มีบทบาทหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร การศึกษา ความคิดเห็น ความบันเทิง โดยการนำเสนอข้อมูลหรือรายงานเหตุการณ์ต่างๆ นั้น เพื่อให้สังคมมีการรับรู้ ติดตามข่าวสาร ตลอดจนมีการสอดส่อง ตรวจสอบ เฝ้าระวัง แล้วนำมาเสนอให้สังคมได้ทราบเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา การที่กองทัพเรือร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญากับผู้สื่อข่าวทั้งสองคนไม่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและสังคมแต่อย่างใด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net