ศูนย์ทนายฯ เผยรายงาน “สถานการณ์สิทธิของพลเรือนไทยภายใต้ศาลทหารและกฎอัยการศึกปี 2557” ชี้ประชาชนขาดสิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม
24 พ.ค. 2557 สนามเป้า กรุงเทพฯ
แฟ้มภาพ: ประชาไท
23 ม.ค. 2558 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดรายงาน “สถานการณ์สิทธิของพลเรือนไทยภายใต้ศาลทหารและกฎอัยการศึกปี 2557” ชี้ประชาชนทยอยถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร กระบวนการภายในศาลละเมิดสิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม ไม่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ส่งผลให้การพิจารณาพิพากษาคดีไม่เป็นไปตามความยุติธรรม และเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก การนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร
ทั้งนี้ มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 จนปัจจุบัน
ในรายงานได้ชี้ให้เห็นว่า การประกาศใช้ศาลทหารภายใต้กฎอัยการศึก ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดและละเลยสิทธิของประชาชนหลายอย่าง กระทบต่อประชาชนในหลายส่วน ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือ
1. พลเรือนทยอยขึ้นศาลทหาร ทั้งคดีที่เกี่ยวกับการเมืองและคดีที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง
2. เจ้าหน้าที่ใช้กฎอัยการศึกในฐานะต้นธารของกระบวนการยุติธรรม โดยเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมประชาชนตามกฎอัยการศึกและนำข้อมูลที่ได้ระหว่างนั้นไปแจ้งความ ดำเนินคดีต่อพลเรือนและขอฝากขังต่อศาล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อาจรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นผลดีต่อผู้ต้องหาได้
3. กระบวนการพิจารณาคดีที่แตกต่างจากกระบวนพิจารณาคดีทั่วไป โดยตุลาการขาดความอิสระและเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ขาดทนายขอแรง ห้ามจดบันทึก มีการพิจาณาคดีลับในหลายคดี และประชาชนเข้าถึงศาลทหารได้ยาก
4. สิทธิในการได้รับการประกันตัว ซึ่งศาลทหารยากที่จะให้การประกันตัวในคดีการเมือง ส่งผลกระทบต่อผู้ต้องขังที่มีปัญหาสุขภาพที่ขาดโอกาสมารักษาตัวข้างนอก
5. คำพิพากษา ศาลทหารปราศจาการอุทธรณ์ ฎีกาและมีแนวโน้มลงโทษหนักกว่าศาลพลเรือน ส่งผลให้จำเลยเลือกที่จะรับสารภาพแทนการสู้คดี นอกจากนี้ยังไม่มีการสืบเสาะประวัติจำเลยซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาลดโทษ ซึ่งจะนำไปสู่การลี้ภัยทางการเมือง
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เห็นว่าการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม ถือเป็นหลักสำคัญในการอำนวยความยุติธรรมหากคณะรักษาความสงบแห่งชาติจงใจละเลยหลักการดังกล่าวด้วยการประกาศใช้กฎอัยการศึก บัญญัติให้การกระทำบางอย่างเป็นความผิด และนำพลเรือนขึ้นสู่ศาลทหาร จะเป็นการทำให้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งที่ “ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม"
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จึงเรียกร้องต่อสังคมไทยในประเด็นดังต่อไปนี้
1. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อพลเรือนในศาลทหาร และให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
2. ยุติการจับกุมและควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก
3. ขอให้ศาลและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ตีความกฎหมายให้เป็นไปตามหลักการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาและจำเลย และยึดหลักสิทธิที่จะได้รับการประกันตัวเป็นหลัก การไม่อนุญาตให้ประกันตัวเป็นกรณียกเว้น
4. ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ให้พลเรือนขึ้นศาลทหารทุกฉบับ และให้พลเรือนขึ้นศาลพลเรือนตามปกติ
5. ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่กำหนดให้การกระทำบางประเภทเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา
6. ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยเร็ว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)