ชาวซีเรีย 3 คน ที่เคยร่วมประท้วงรัฐบาลซีเรียตั้งแต่ปี 2554 ก่อนเกิดสงครามกลางเมือง เห็นเพื่อนของพวกตนถูกล่อลวงให้ไปเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงอย่าง 'ไอซิส' ทำให้พวกเขาต่อสู้ด้วยการทำภาพยนตร์ล้อเลียนการโฆษณาชวนเชื่อของไอซิส และยืนยันจะทำต่อไปแม้ถูกข่มขู่คุกคาม

4 ก.พ. 2558 สำนักข่าววอลล์สตรีทเจอนัลรายงานว่ากลุ่มนักกิจกรรมในซีเรียทำภาพยนตร์ล้อเลียนกลุ่มติดอาวุธไอซิส (ISIS) หรือที่ในภาษาอาหรับเรียกว่า 'ดาอิซ' (Daesh) แต่ในเวลาต่อมาก็ถูกกลุ่มไอซิสข่มขู่คุกคาม

ยูสเซฟ เฮลาลี, เมน วัตฟ์ และมูฮัมหมัด ดัมลากี ร่วมกันทำภาพยนตร์ล้อเลียนการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอซิส ซึ่งกลายเป็นการต่อสู้กับไอซิสได้อีกทางหนึ่งเพราะกลุ่มติดอาวุธไอซิสมีการใช้สื่อโฆษณาชวนเชื่อให้คนเข้าร่วมกองกำลังของตน

เฮลาลีและเพื่อนของเขาที่เป็นผู้ทำภาพยนตร์ต้านไอซิสเคยเป็นผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลซีเรียมาก่อนตั้งแต่แรก แต่ในเวลาต่อมาสถานการณ์ในซีเรียกลายเป็นสงครามกลางเมือง เฮลาลีเห็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเขาหันไปเข้าร่วมกับไอซิสเพราะหลงเชื่อคำโฆษณาหลอกลวง ทำให้เขาคิดว่าควรจะตอบโต้กลุ่มหัวรุนแรงที่เติบโตจากการสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนด้วยการล้อเลียนพวกเขา

เฮลาลีบอกว่าเขามีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่สนับสนุนกลุ่มไอซิสและการนำเสนอของพวกเขาได้ผลมากเพราะชาวซีเรียชอบเรื่องตลก ภาพยนตร์ของเฮลาลีเป็นภาพยนตร์ทุนต่ำที่ใช้ปืนของเล่นและหนวดปลอมจากร้านของเล่นและมีการใช้เพลงประกอบในเชิงขบขันไม่จริงจัง

อย่างไรก็ตามพวกไอซิสไม่ตลกด้วย เมื่อมีการปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์ออกสู่โซเชียลมีเดีย ผู้สนับสนุนกลุ่มไอซิสก็ประกาศขู่ผู้จัดทำภาพยนตร์ว่าจะลงโทษพวกเขาถึงตาย เช่นเดียวกับที่ 'ชาร์ลี เอ็บโด' นิตยสารแนวเสียดสีเคยโดนมาก่อน

"พวกดาอิซอ้างศาสนาบังหน้าแต่พวกเขาเป็นแค่ฆาตกร เรื่องตลกของพวกเราทำให้ดาอิซโกรธ ถือว่าพวกเราประสบความสำเร็จ" เฮลาลีกล่าว

วีดิโอภาพยนตร์ตัวอย่างของพวกเขาถูกอัปโหลดขึ้นยูทูบและถูกนำไปเผยแพร่ต่อโดยกลุ่มกบฏฟรีซีเรียนอาร์มี (FSA) ซึ่งเป็นกลุ่มที่สหรัฐฯ หนุนหลังอยู่ ภาพยนตร์ตัวอย่างเผยให้เห็นผู้นำของกลุ่มไอซิสคือ อาบู บัคร์ อัลบักดาดี กำลังดื่มไวน์และสูบบุหรี่ในขณะที่แลกเปลี่ยนภาพถ่ายเซลฟี่ในโปรแกรมวอทแอพ (WhatsApp) กับผู้หญิง

ภาพยนตร์ตัวอย่างนำเสนอต่อไปว่า หลังจากนั้นนักรบจากประเทศโมร็อกโกก็เข้ามาในฉากทำให้บักดาดีรีบซ่อนไวน์แล้วเปลี่ยนจากเพลงป๊อบที่กำลังเปิดอยู่เป็นบทสวดที่พูดเกี่ยวกับการสละชีพอุทิศตน จากนั้นเขาจึงนำนักรบไปยังที่มั่นของกลุ่มฟรีซีเรียนอาร์มีและบอกว่ากลุ่มกบฏสายกลางอย่างฟรีซีเรียนอาร์มีเป็นพวกนอกรีตทางศาสนา หลังจากที่นักรบชาวโมร็อกโกออกไปปฏิบัติการระเบิดพลีชีพแล้วบักดาดีก็กลับมาเปิดเพลงป๊อบแล้วนำไวน์ที่ซ่อนอยู่ออกมา

วัตฟ์ ผู้กำกับคลิปตัวอย่างภาพยนตร์กล่าวว่า เขาทำคลิปขึ้นมาเพื่อต้องการจะบอกว่า "ศาสนาอิสลามคือสันติ ไม่ใช่การก่อการร้ายหรือการตัดคอนักข่าว"

ผู้จัดทำภาพยนตร์ทั้ง 3 คนตกเป็นเหยื่อของสงครามกลางเมืองในซีเรียจนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นเช่นเดียวกับชาวซีเรียอีกนับล้านคน พวกเขามาจากเมืองอเลปโปที่อยู่ภายใต้การปกครองของทางการแต่ไม่สามารถกลับไปที่บ้านได้เพราะถูกทางการซีเรียตามล่าหลังจากที่เข้าร่วมประท้วงตั้งแต่ปี 2554 ในปัจจุบันพวกเขาอยู่ในประเทศตุรกี

ผู้สร้างภาพยนตร์ทั้ง 3 คนใช้สตูดิโอชั่วคราวในเมืองกาเซียนเท็ปเป็นที่จัดทำภาพยนตร์โดยจะแบ่งเผยแพร่เป็นตอนๆ ทุกวันศุกร์ หนึ่งคลิปต่อสัปดาห์

พวกเขาเคยถูกกลุ่มชาวซีเรียตามตัวครั้งหนึ่งในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มชาวซีเรียบุกเข้าไปในสตูดิโอของพวกเขาในช่วงที่พวกเขาไม่อยู่แล้วเรียกร้องให้เจ้าของสถานที่ซึ่งเป็นชาวตุรกีบอกว่าพวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นพวกเขาก็คอยสอดส่องระวังตัวในละแวกที่พักและย้ายสตูดิโอไปที่อื่น พวกเขาไม่กล้าแจ้งตำรวจตุรกีเพราะกลัวว่าเจ้าหน้าที่ทางการตุรกีจะรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มไอซิส

อย่างไรก็ตามแม้จะมีชีวิตอยู่ภายใต้ความเสี่ยง แต่ผู้สร้างภาพยนตร์กลุ่มนี้ก็ไม่คิดจะหยุดล้อเลียนกลุ่มไอซิส

"พวกเราไม่กลัว" ดัมลากี หนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์กล่าว

เรียบเรียงจาก

Syrian Filmmakers Mock Islamic State in Satirical Videos, Wall Street Journal, 02-02-2015
http://www.wsj.com/articles/syrian-filmmakers-mock-islamic-state-in-satirical-videos-1422910097