Skip to main content
sharethis

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบข้อเสนองบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2559 ตามข้อเสนอของอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง หลังจากนี้จะมีการเตรียมนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตร(ครม.) ต่อไป ซึ่งในส่วนของงบเหมาจ่ายรายหัวนั้น ในอัตรา 3,222.97 บาทต่อประชากร หรือ 177,743.86 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน 327.88 บาทต่อประชากร คิดเป็นร้อยละ 16.1 หรือ 24,592 ล้านบาท       

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า การปรับเพิ่มงบประมาณนี้นอกจากเป็นการปรับตามอัตราเงินเฟ้อและต้นทุนเฉลี่ยการบริการที่เพิ่มขึ้นตามปกติแล้ว ยังได้มีการปรับการบริหารและสิทธิประโยชน์เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลรักษาพยาบาลประชาชนยิ่งขึ้น โดยรายละเอียดงบประมาณที่ได้มีการปรับเพิ่ม อาทิ การปรับเพิ่มงบประมาณในส่วนของการบริการอุบัติเหตุและฉุกเฉิน การปรับค่าบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพิ่มค่าบริการดูแลผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง

ส่วนของดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในปี 2559 นี้ นอกจากการปรับเพิ่มค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีแล้ว ยังได้มีการเพิ่มเติมค่าบริการการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการเอดส์ชาติที่ผ่านมา โดยเป็นการสนับสนุนบริการและส่งเสริมบริการ จำนวน 400.29 ล้านบาท, การบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ซึ่งได้ปรับต้นทุนบริการตามผลการใช้บริการ เฉลี่ยปี 2556-2557 ซึ่งต้นทุนจะปรับเพิ่มเฉลี่ยร้อยละ 9.4 รวมถึงได้มีการเพิ่มจำนวนน้ำยาล้างไตจาก 3.65 ถุงต่อวัน เป็น 3.99 ถุงต่อวัน การเพิ่มจำนวนครั้งล้างไตด้วยเครื่อง จาก 9 ครั้งต่อเดือน เป็น 10 ครั้งต่อเดือน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2559 นี้ สปสช. ยังได้เพิ่มเติมรายการใหม่คือค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลภาวะพึ่งพิงอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นไปตาแผนบูรณาการผู้สูงอายุ โดยงบประมาณส่วนนี้จะเข้าไปสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ที่บ้านของผู้บริบาล นอกจากนี้ยังได้เพิ่มค่าบริการสาธารณสุขในระดับท้องถิ่น เป็น 48.99 บาทต่อคน ที่เป็นการดำเนินงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยในปีนี้ได้กำหนดการดำเนินงานเพิ่มเติม 2 รายการ คือ การตรวจพัฒนาการและสายตาในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน และการชะลอผู้สูงอายุที่จะเข้าสู่ภาวะพึ่งพิง

นอกจากนี้ในงบดังกล่าวนี้ สปสช.ยังได้เสนอขอเพิ่มเติมในหมวดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการที่จำเป็นต้องให้บริการในพื้นที่ทุรกันดารและเสี่ยงภัย (หน่วยบริการกระทรวงสาธารณสุข) โดยขอปรับเพิ่มค่าบริการที่ได้รับลดลงจากการปรับเพิ่มเงินเดือนแบบก้าวกระโดดของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของการเพิ่มพยาบาล 3,000 อัตราตามนโยบายของรัฐบาลก่อนหน้านี้ จำนวน 624.275 ล้านบาท

“จากข้อมูลงบประมาณในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่ามีการปรับเพิ่มขึ้นน้อยมาก โดยในปี 2555-2556 และปี 2557-2558 มีการคงอัตราเหมาจ่ายคงที่ ส่งผลให้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมามีการปรับเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 140 บาท หรือเพียงแค่ร้อยละ 5 เท่านั้น ขณะที่ค่าเงินเดือนตอบแทน และค่ายาและเวชภัณฑ์มีการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงส่งผลต่อการบริหารงบประมาณในระบบ และกระทบต่อการดำเนินการของหน่วยบริการในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นในปี 2559 นี้ จำเป็นที่ต้องได้รับการปรับเพิ่มงบประมาณ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อหน่วยบริการและยังทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น” ศ.นพ.รัชตะ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net