ทนายยิ่งลักษณ์ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ขอให้ อสส.ทบทวนการสั่งฟ้อง และกรณีการสอบสวนเพิ่มเติมข้อไม่สมบูรณ์ใน 3 ประเด็น ขณะอัยการเผยเตรียมส่งสำนวนฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 19 ก.พ.นี้ แม้ยิ่งลักษณ์ไม่มาตามนัด

12 ก.พ. 2558 โพสต์ทูเดย์รายงานว่า นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทีมทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ายื่นหนังขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงคดี เพื่อขอให้ทบทวนการสั่งฟ้องและการสอบสวนเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น โดยมีนายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นรับหนังสือร้องเรียนแทน

นายนรวิชญ์ กล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า การเดินทางมาวันนี้เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังอัยการมีคำสั่งฟ้องในคดีทุจริตโครงรับจำนำข้าว ซึ่งวันนี้มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ1.ต้องการให้ทบทวนการไต่สวนคำสั่ง 2. ตามที่ อสส.ชี้ข้อไม่สมบูรณ์ ซึ่งต่อมาอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะทำงานที่มีนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และคณะทำงานได้สรุปข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจากสำนวนป.ป.ช. แล้วอัยการสูงสุดได้ชี้ข้อไม่สมบูรณ์รวม 3 ประเด็น อาทิ คดีนี้ไม่มีหลักฐานทุจริต มีเพียงปกรายงาน TDRI ให้สั่งสอบว่ามีการทุจริตในขั้นตอนใด เป็นต้น ซึ่งการสอบสวนยังเสร็จสิ้น

“สำหรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ของการเดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านไม่เคยรับทราบว่าได้รับการพิจารณาจากอัยการสูงสุดหรือมีคำตอบอย่างไร จึงไม่มั่นใจว่าการยื่นหนังทุกครั้งที่ผ่านมาถึงมือผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ จะยกหรือรับคำร้องก็ขอให้แจ้งทีมทนายทราบด้วยเพราะเราต้องมีคำตอบกลับไป” ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

นายนรวิชญ์ กล่าวอีกว่า  ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือที่ทาง ปปช. ส่งมา จึงไม่ทราบว่าหนังสือดังหกล่าวจะเป็นการแจ้งให้ทราบหรือให้ไปรายงานตัว และทางปปช.ใช้อำนาจอะไรในการดำเนินการสั่งให้ไปรายงานตัว โดยในข้อกฎหมายทางทีมทนายความเห็นตรงกันว่า ในวันดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่จำเป็นจะต้องไปรายงานตัว  อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการสอบบถามน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าพร้อมที่จะเดินทางไปรายงานตัวหรือไม่ โดยยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากเรื่องนี้เพิ่งเป็นข่าวมาได้เพียง 2 วัน และน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังติดภารกิจที่เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางอัยการสูงสุดเคยพิจารณาหนังสือขอความเป็นธรรมก่อนที่มีคำสั่งฟ้อง การยื่นครั้งนี้จะเป็นการซื้อเวลาหรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า อย่ามองว่าเป็นการซื้อเวลาเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมายังไม่มีคำตอบออกมาอย่างจริงจังและทางคณะทำงานยังไม่มีการสอบข้อที่ไม่สมบูรณ์ โดยนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน เคยให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่มีการสอบข้อไม่สมบูรณ์

“การต่อสู้ครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อแย่งอำนาจ แต่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเพื่อให้เห็นว่าการแจ้งข้อกล่าวหาไม่เป็นธรรม”นายนรวิชญ์ กล่าว

ทีมทนายความ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการเดินทางออกไปนอกประเทศนั้นยืนยันไม่มีการเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนที่ทาง คสช. ระบุว่า อัยการสูงสุดได้ทำหนังสือประสาน คสช.เห็นควรห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศนั้น ตนเห็นว่าทางอัยการสูงสุดคงไม่ได้ห้าม เนื่องจากอัยการสูงสุดได้บอกเองว่าไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ ส่วนกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะข้อลี้ภัยไปต่างประเทศนั้น ยืนยันว่าไม่มีการายงานมาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนตั้งข้อสังเกตว่าคนพูดมีเจตนาไม่หวังดีเพื่อต้องการเข้าตรวจค้นเมื่อวานก่อน

ขณะที่ นายกิตินันท์ กล่าวว่า  ในฐานะคณะทำงานฟ้องคดีโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ จะมีการส่งสำนวนฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างแน่นอน  แม้น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่เดินทางมาตามที่ ปปช.ส่งหนังสือนัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากในวันนั้นทีมทนายน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการขอเลื่อนนัด  นายกิตินันท์ กล่าวว่า หากมีการขอเลื่อนทางคณะทำงานจะมีกาประชุมในวันนั้นทันที  ถามต่อสำหรับหนังสือที่ทางอัยการทำถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศหรือไม่ นายกิตินันท์ กล่าวยอมรับว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดยอมรับว่าหนังสือนั้นออกจากทางอัยการสูงสุดจริง แต่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้หารือมาทางสำนักงานอัยการสูงสุดว่าควรให้เดินทางออกไปต่างประเทศหรือไม่ ก่อนทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะทำหนังสือตอบกลับยัง คสช.