Skip to main content
sharethis

18 ก.พ.2558 บีบีซีไทย - BBC Thai เผยแพร่บทสัมภาษณ์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงการทำงานของรัฐบาลทหารภายใต้คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งดำเนินมา 8 เดือนแล้วว่า ภารกิจในการรักษาความสงบเรียบร้อยดูจะเป็นรูปธรรมที่สุด แต่ในแง่การบริหารเศรษฐกิจและการปฏิรูปทั้งระบบราชการ ระบบยุติธรรม ตำรวจ รวมทั้งด้านพลังงาน ยังน่าเป็นห่วงว่ารัฐบาลทหารจะทำได้ตามที่ประชาชนคาดหวังหรือไม่

อภิสิทธิ์ เห็นว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย หรือการที่ไทยถูกมองจากต่างชาติว่าไม่เคารพสิทธิ์เสรีภาพตามหลักสากล กลายเป็นต้นทุนทางสังคมที่เกิดขึ้นซึ่งรัฐบาลและ คสช.คงปฏิเสธไม่ได้

“การยังคงมีกฎอัยการศึกนั้นกระทบการท่องเที่ยว คนที่ซื้อประกันการเดินทางไม่ได้เขาก็ไม่อยากมาเมืองไทย หรือนักลงทุนที่จะลงทุนระยะยาวก็คิดว่า ขอรอเวลาจนกว่าจะมีความชัดเจน รอดูว่าหลังจาก คสช.แล้ว ไทยจะเดินไปในทิศทางไหน ถามว่าประชาชนจะยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน ผมเชื่อว่าในภาวะที่ไม่มีความชัดเจนว่าประเทศจะเดินต่อไปอย่างไร ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่อาจเป็นปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายรัฐบาล และคสช.มากขึ้น และคงมีคนออกมาแสดงออกไม่ยอมรับข้อจำกัดเรื่องสิทธิเสรีภาพมากขึ้น ทุกฝ่ายต้องการกรอบเวลาที่ชัดเจนในระดับหนึ่ง เชื่อว่าหัวหน้า คสช.ก็เห็นว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะดำรงไปได้เรื่อยๆ ”

อภิสิทธิ์ เลี่ยงที่จะตอบตรง ๆ เมื่อถูกถามว่าห่วงเรื่องการ “อยู่ยาว” ของรัฐบาลทหารหรือไม่ โดยบอกว่าห่วงความไม่เป็นประชาธิปไตย หรือการไม่มีประชาธิปไตยที่ยั่งยืนมากกว่า เขาย้ำว่าร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจัดทำอยู่นั้น จำเป็นจะต้องมีการลงประชามติ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มีความชอบธรรม

“ในที่สุดต้องดูกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่จะเป็นจุดที่ทุกคนตัดสินชี้วัดการทำงานของ คสช. ว่าหลังออกไปแล้วระบบการเมืองจะเป็นประชาธิปไตยแท้จริงหรือไม่”

อภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการปรองดองและความจำเป็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องร่วมอยู่ในกระบวนการว่า ต้องดำเนินการเยียวยา ดูแลผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและกำหนดกติกาเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณและผู้สนับสนุนจะต้องยอมรับว่าการจะให้ปรองดองโดยสนองความต้องการส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ต้องการรับผิดในคดีความที่มีอยู่นั้นคงลำบาก

สำหรับบทบาทของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะนี้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นบุคคลที่อยู่ในรายชื่อผู้ที่มีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นเดียวกับตน ห้ามประชุมทางการเมือง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ สำหรับการให้สัมภาษณ์นักข่าวนั้นเป็นสิ่งที่ ยิ่งลักษณ์ ยังทำได้

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ตอบคำถามที่ว่าจะมีโอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ แต่มองอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ว่าน่าจะมีโอกาสชนะ เพราะหากดูผลการเลือกตั้งสองครั้งสุดท้ายจะเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเสียงสนับสนุนราว 11-12 ล้านเสียง ขณะที่พรรคเพื่อไทยอยู่ที่ 12-15 ล้านเสียง เขาเห็นว่าการจะบอกว่าประชาธิปัตย์ไม่มีโอกาสชนะนั้นเป็นไปไม่ได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net