หมายเหตุ : การให้รางวัลบุคลเกียรติยศ ของมูลนิธิโกมลคีมทอง ประจำปี2558 ประกอบด้วย วัชระ เกตุชู ด้านการศึกษา กลุ่มละครมะขามปอม ด้านศิลปวัฒนธรรม และเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการจัดงานมอบรางวัล และงานปาฐกถาประจำปีของมูลนิธิโกมลคีมทอง ที่ห้องประกอบ หุตะสิงห์ ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2558 ทั้งนี้เลิศศักดิ์ เป็นผู้ประสานงานโครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านทรัพยากรแร่ ที่เข้าไปทำงานในพื้นที่ภาคอีสานในประเด็นเรื่องเหมืองแร่ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของชุมชน และสิทธิชุมชน

เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ : แด่การปฏิรูปจอมปลอม

ขอบคุณสำหรับรางวัลนี้ที่จะทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีค่ามากขึ้น ให้สมกับที่ได้รับรางวัลเกียรติยศนี้ เพราะเป็นรางวัลของผู้ที่เป็นต้นแบบให้กับหนุ่มสาวในยุคต่อๆ มา ซึ่งมีผมคนหนึ่งที่ในวัยหนุ่มได้อ่านศึกษาเรื่องราวของครูในวัยหนุ่ม ครูโกมล คีมทอง ที่ถูกทำให้เสียชีวิตไปนานมากแล้ว

แรงบันดาลใจในการอ่านงานของบุคคลต้นแบบหลายคน ซึ่งมีครูโกมลอยู่ในนั้นด้วย ทำให้ผมได้งานมาทำงาน สัมผัส คลุกคลีอยู่กับปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ที่ต่อต้านคัดค้านการพัฒนาขนาดใหญ่หลายพื้นที่ในประเทศนี้

ณ สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน เราพบว่าขบวนการประชาชนได้สร้างกระแสธารการปฏิรูปที่ก้าวหน้ามานานแล้ว ก่อนการรัฐประหาร และก้าวหน้ากว่าโครงสร้างอำนาจยุคใดๆ โดยเฉพาะก้าวหน้ากว่าการปฏิรูปตามโครงสร้างและกลไกของ คสช. ที่เขาจัดวางและออกแบบไว้

ด้วยเหตุนี้ ประชาชนเป็นได้แค่แมวเชื่องๆ ของการปฏิรูปของ คสช.

ขอบันทึกไว้ตรงนี้ว่าความอ่อนแอในขบวนการประชาชนในยุคปฏิรูปของ คสช. นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หรือทำให้อ่อนแอได้หรอก ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้นำความคิด นักศึกษา เอ็นจีโอ นักวิชาการ องค์กรอิสระที่ผลาญภาษีของประชาชน หรือปัญญาชนสาธารณะที่สนับสนุนรัฐประหาร กวาดต้อนประชาชนให้เข้าร่วมการปฏิรูปของ คสช. แทนที่จะสร้างพลังของปัจเจกชนและขบวนการประชาชนเพื่อต่อต้าน ตรวจสอบ การใช้อำนาจของ คสช.

ตลอดเก้าเดือนของรัฐประหารนี้ ที่เริ่มปฏิรูปกันมา เราจะเห็นได้ว่ายิ่งการปฏิรูปมากเท่าไหร่ ประชาชนยิ่งอ่อนแอมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าการปฏิรูปของ คสช. ที่ไม่เห็นหัวประชาชน และการกดหัวประชาชนไว้ คือการต่อต้านเผด็จการ

ขอให้รางวัลโกมลคีมทองทุกๆ ปี จากนี้ไปจงเป็นแรงบันดาลใจให้กับประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านเผด็จการทหารมากยิ่งขึ้น เพื่อปักหลักลงไปให้ชัดว่ารัฐประหาร คือความสามานย์ของชนชั้นนำที่กดหัวประชาชน

สุดท้ายนี้ แด่เสรีชนและคนหนุ่มสาวผู้ร้าวราน รวมทั้งผู้ใหญ่บางท่านที่กลับตัวกลับใจ จากการกระทำของผู้ใหญ่ในขบวนการประชาชนที่หากิน เพื่อสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กับตัวเอง ด้วยการรับใช้เผด็จการทหารทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ด้วยการกดหัวและกวาดต้อนประชาชนเข้าสู่การปฏิรูปของ คสช. จงออกมาร่วมกันต่อต้านเผด็จการกันเถอะครับ

ประชาชน=ประชาธิปไตย

นอกเหนืออื่นใดไม่สามารถแทนที่

แม้แต่เผด็จการใช้อัยการศึกราวี

ก็มิอาจกดขี่ย่ำยีเสรีชน