คดีแสดงละคร "เจ้าสาวหมาป่า" ศาลตัดสินผิด ม.112 จำคุกจำเลย 2 รายรวม 5 ปี แต่รับสารภาพจึงลดโทษเหลือ 2 ปี 6 เดือน โดยศาลอ่านคำพิพากษาย่อ ขณะที่มีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรระหว่างประเทศร่วมฟังแน่นห้อง ด้านอัลจาซีร่าระบุตำรวจตามจับกุมอีก 6 ราย
23 ก.พ. 2558 เวลาประมาณ 11.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลอาญา รัชดา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ. 3528/2557 ที่พนักงานอัยการ ฟ้องนายปติวัฒน์ (สงวนนามสกุล) และนางสาวภรณ์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการแสดงละครเรื่องเจ้าสาวหมาป่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2556 ในงานรำลึก 40 ปี 14 ตุลา ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน ในระหว่างการพิจารณาคดี มีการสืบเสาะพฤติการณ์ของจำเลย พบว่าแม้ว่าจำเลยทั้งสองไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน แต่จำเลยทั้งสองร่วมกันแสดงละครล้อเลียน จาบจ้วงสถาบัน ในหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะทางอินเทอร์เน็ต พฤติการณ์ถือว่าร้ายแรง จึงไม่รอการลงโทษจำคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลไม่ได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม อ่านเพียงโทษเท่านั้น ทั้งนี้ มีผู้ร่วมสังเกตการณ์กว่า 50 คนจนล้นห้องพิจารณาคดี โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ สถานทูตประเทศต่างๆ อาทิ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป เข้าร่วมฟังด้วย
ด้านนายอัยการ พ่อของปติวัฒน์ซึ่งมีอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถมาฟังคำตัดสินได้ทัน เนื่องจากเขาต้องนั่งรถโดยสารมาจาก จ.ฉะเชิงเทรา เพราะเดิมเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2557 ศาลได้นัดไว้เวลาฟังคำพิพากษาไว้ว่าคือ 13.30 น.
อนึ่ง ศาลได้เลื่อนเวลาการอ่านขึ้นมาเป็นเวลา 9.00 น. โดยที่นายอัยการหรือทนายความของนายปติวัฒน์ไม่ได้ทราบล่วงหน้า
แม่ของภรณ์ทิพย์ ซึ่งประกอบอาชีพทำไร่มันสำปะหลัง และเดินทางจากพิษณุโลกเพื่อมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำพิพากษาว่า "ภูมิใจในความกล้าหาญของเขา เขาตัดสินใจด้วยตัวเองมาตั้งแต่แรก"
"แม่เคารพการตัดสินใจทั้งของศาลและของลูก" แม่ของภรณ์ทิพย์กล่าวและว่า "เป็นห่วงอย่างเดียวคืออนาคตของเขา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อนๆ หลายสิบคนมาให้กำลังใจภรณ์ทิพย์และปติวัฒน์ที่ห้องขังใต้ถุนศาล ร้องเพลงบทเพลงของสามัญชน ให้กำลังใจ ขณะที่เพื่อนๆ ฝั่งห้องคุมขังผู้ต้องขังชายร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำทั้งสองกลับเรือนจำทันที ทั้งที่ตามปกติจะมีการนำผู้ต้องขังกลับเรือนจำพร้อมกันในตอนเย็น
หลังจากนั้นกลุ่มเพื่อนๆ ได้รวมตัวกันร้องเพลงบทเพลงของสามัญชนอีกครั้งที่หน้าป้ายศาลอาญา ถนนรัชดา
ในรายงานของอัลจาซีร่า ซึ่งอ้างจากเอเอฟพี ระบุว่า ในคดี "เจ้าสาวหมาป่า" ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามจับกุมบุคคลอื่นอย่างน้อย 6 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแสดงดังกล่าว โดยจะดำเนินคดีฐานความผิดในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ด้านนายวีรนันท์ ฮวดศรี แฟนหนุ่มของภรณ์ทิพย์กล่าวว่า หลังการฟังคำพิพากษาเขาได้ติดตามไปเยี่ยมภรณ์ทิพย์ที่เรือนจำในวันเดียวกันด้วย และภรณ์ทิยพ์ฝากขอบคุณทุกๆ กำลังใจ
"กอล์ฟฝากบอกว่าขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคน ยังไม่ทันจะได้ร่ำลากันเลย ขอบคุณทุกกำลังใจซึ่งกำลังใจเหล่านี้มากจนหนูหอบมันไปจากศาลเพื่อแบ่งให้เพื่อนในเรือนจำได้เลย ตอนออกมาทางพัสดีบอกไม่ให้หนูยิ้ม เพราะมันดูเป็นการไม่สำนึกแต่หนูอดที่จะยิ้มไม่ได้เพราะ 1.หนูดีใจที่มีเพื่อนมิตรมามากมาย ดีใจมากๆ 2.โทษถึงแม้มันจะลงกับหนูและแบงก์หนักแต่ไม่ได้มากกว่าที่หนูกังวล ยิ่งเขาทำอะไรกับเรา ยิ่งบิดพริ้วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการประจานตัวเองของผู้ดีมีอำนาจ ไม่รู้จะขอบคุณทุกคนยังไง อย่าลืมหนูนะ แล้วเจอกันในวันที่มีเสรีค่ะ" แฟนของภรณ์ทิพย์ระบุ
แม่ของภรณ์ทิพย์กับผู้มาให้กำลังใจ
กลุ่มเพื่อนร่วมร้องเพลงหน้าศาล