สกต. ห่วงถูกทหารกล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล ขณะที่ชุมชนถูกไล่รื้อต่อเนื่อง

ล่าสุด ‘ชุมชนทุ่งทับควาย’ ถูกให้ออกจากพื้นที่สวนป่าบางขัน ภายใน 15 เม.ย.2558 แกนนำชาวบ้านเร่งยื่นหนังสือขอชะลอ ด้าน ‘ชุมชนเพิ่มทรัพย์’ และสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ถูกกล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล

30 มี.ค. 2558 เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พ.อ.ทวี เกิดสมบูรณ์ รอง ผบ.จทบ.ส.ฎ. เป็น ผู้แทน ผบ.จทบ.ส.ฎ. เข้าชี้แจงรายละเอียดต่ออธิบดีกรมองค์การต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กรณี สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษย์ชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ให้ชี้แจงกรณี การปฏิบัติการของ จนท.บก.ควบคุม.จทบ.ส.ฎ. ต่อชุมชนเพิ่มทรัพย์ สหกรณ์การเกษตร สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) จ.สุราษฎร์ธานี 

หน่วยข่าวทหารระบุว่า เกิดการร้องเรียนโดยการบิดเบือนข้อมูลนำไปสู่ความสับสนที่เกิดขึ้นใน ปัจจุบันจนมีการนำข้อมูลยกระดับเป็นปัญหาระดับประเทศ และดึงสหประชาชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งที่โดยแท้จริงแล้ว เป็นเรื่องของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่ใช้ความเดือดร้อนของพี่น้องประชามาเป็นหนทางในการแสวงหาประโยชน์ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานความมั่นคงทราบถึงพฤติกรรมของแกนนำคนดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ การประชุมเสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. โดยจากการประชุม กระทรวงการต่างประเทศจะสรุปรายละเอียดนำเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบและ พิจารณาดำเนินการต่อไป 

ด้านตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่า การกล่าวหาว่าชาวบ้านเป็นผู้มีอิทธิพลทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็น ห่วงอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัย เพราะถูกใส่ร้ายทำให้สังคมโดยเฉพาะในภาครัฐเข้าใจผิด และอาจเป็นการคิดกำจัดให้พ้นทางผลประโยชน์ของนายทุนและกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ 

“การใส่ร้ายป้ายสี การปรักปรำ การบิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นกลยุทธ์ ที่ชนชั้นปกครองใช้ทำลายนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคมมาทุกยุคทุกสมัยคราวนี้ก็เช่นกัน” ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้กล่าว พร้อมระบุด้วยว่า การทำลายชื่อเสียง ทำลายความน่าเชื่อถือ หวังผลให้ชาวบ้านสูญเสียความชอบธรรมทางสังคม และจะกระทบกับการต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกินของชาวบ้านซึ่งไม่ใช่เพียง แค่เพียงชุมชนเพิ่มทรัพย์ แต่ยังมีที่อื่นๆ ด้วย

ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ให้ข้อมูลด้วยว่า ล่าสุดชุมชนทุ่งทับควาย อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราชถูกปักป้ายไล่รื้อ และวันนี้ (30 มี.ค. 2558) ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้และแกนนำชาวบ้านได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้ยุติการไล่รื้อชุมชนบ้านทุ่งทับควายไว้ก่อน ทั้งนี้ ชุมชนทับควายอยู่ในพื้นที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ที่ตั้งชุมชนด้านหน้าติดถนนลาดยาง ห่างที่ว่าการ อ.บางขัน ประมาณ 5-7 กิโลเมตร 

สืบเนื่องจาก มีหนังสือลงนามโดยผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดนครศรีธรรมราช ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงวันที่ 20 ม.ค.2558 ซึ่งระบุว่าชาวบ้านเป็นผู้บุกรุก และให้รื้อถอนสิ่งที่ปลูกสร้าง พืชผลอาสิน ออกไปให้พ้นจากพื้นที่สวนป่าบางขัน ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งทับควายฯ ให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 15 เม.ย.2558

สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ชี้แจงเหตุผลไว้ในหนังสือที่ยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดดังนี้

1.กระบวนการตรวจสอบพื้นที่สวนป่าบางขันฯ ยังไม่อาจกล่าวได้ว่าสิ้นเสร็จครบถ้วน เนื่องจากยังมิได้รายงานผลการตรวจสอบไปยังคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่ อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( แต่งตั้งภายใต้ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 15/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม สั่งเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2555 โดย นาวสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) ซึ่งการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดนี้ได้หยุดชะงักลงเนื่องจากความผันผวนและ การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องยุติการบริหารราชการแผ่นดิน 

2. ต่อมารัฐบาล คสช. โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 216/2557 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยมอบหมายให้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

3. ต่อมามี คำสั่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 1/ 2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (อ้างถึงลำดับที่ 7) 

4. ต่อมาหม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล จึงได้มี คำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่ 1/2558 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (อ้างถึงลำดับที่ 3)

“กระบวนการตรวจสอบพื้นที่สวนป่าบางขันฯ ควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไร จะสรุปเป็นประการใด และการจะไล่รื้อราษฎรออกจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งทับควาย หรือไม่ อย่างไร จะต้องผ่านการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และต้องผ่านกระบวนการไต่สวนรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน และพิจารณาโดยรอบคอบ เพื่อให้ได้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อราษฎรน้อยที่สุด” จดหมายระบุ

 

29 มีนาคม 2558

เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาชุมชนทุ่งทับควาย

เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช

สำเนาถึง

1. ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช

2. หัวหน้างานสวนป่าอ่าวตง – บางขัน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้

3. นายอำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช

อ้างถึง

1. แผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้, การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

2. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 216/2557 ลงวันที่  20  พฤศจิกายน  2557    เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม

3. คำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่ 1/2558 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2558 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามโดย หม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

4.หนังสือที่ นศ 0013.3/1342 ลงวันที่ 20 มกราคม 2558  เรื่องการเข้าอยู่ในพื้นที่สวนป่าทุ่งทับควาย  ของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ลงนามโดย นายสวัสดิ์ อั้นเต้ง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช

5.หนังสือที่ นศ 1718/153 ลงวันที่ 30 มกราคม 2558 เรื่องขอรายงานผลการประชุมคณะทำงานตรวจสอบและรังวัดพื้นที่บริเวณที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เข้าทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งทับควาย ตำบลวังหิน อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงนามโดย นายวิรัช แก้วเมือง ปลัดอำเภอบางขัน

6.ประกาศองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เรื่องให้ผู้เข้าอยู่อาศัยในเขตพื้นที่สวนป่าบางขัน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทุ่งทับควาย ตำบลวังหิน อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงนามโดย นายปริญญา เกตุแก้ว หัวหน้างานสวนป่าอ่าวตง – บางขัน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้

7.คำสั่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 1/ 2558 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน สั่ง ณ วันที่ 29 มกราคม 2558 ลงนามโดย หม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ตามหนังสือที่อ้างถึงลำดับที่ 4 ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พิจารณาและ ลงความเห็นว่าการเข้าอยู่ในพื้นที่สวนป่าทุ่งทับควายของสหพันธ์เกษตรกรภาค ใต้ชุมชนบ้านทุ่งทับควายเชื่อได้ว่าเป็นการบุกรุกทรัพยากรของรัฐ และในหนังสือดังกล่าวจึงได้สั่งการให้สวนป่าทุ่งทับควายต้องดำเนินการตามกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ และนำไปสู่การออกประกาศขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ตามหนังสือที่อ้างถึงลำดับที่ 6 ซึ่งมีใจความสำคัญ สองประการ ดังนี้

1.คณะทำงานตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เข้าทำประโยชน์ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งทับควาย ตำบลวังหิน อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช เสร็จแล้ว

2. สวนป่าบางขัน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่สวนป่าฯ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งทับควาย ตำบลวังหิน อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงขอให้สมาชิกชุมชนบ้านทุ่งทับควาย รื้อถอนสิ่งที่ปลูกสร้าง พืชอาสินหรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากเดิม ออกไปให้พ้นจากพื้นที่สวนป่าบางขัน ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งทับควายฯ ให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 15 เมษายน 2558 ฯลฯ

เกี่ยวกับกรณีข้างต้น สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) มีประเด็นขอเรียนชี้แจง และขอให้ยุติการไล่รื้อชุมชนบ้านทุ่งทับควาย อำเภอบางขัน  จังนครศรีธรรมราช ไว้ก่อน ด้วยเหตุผล ดังนี้

1. กระบวนการตรวจสอบพื้นที่สวนป่าบางขันฯ ยังไม่อาจกล่าวได้ว่าสิ้นเสร็จครบถ้วน เนื่องจากยังมิได้รายงานผลการตรวจสอบไปยังคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่ อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (แต่งตั้งภายใต้ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 15/2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม สั่งเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2555 โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) ซึ่งการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดนี้ได้หยุดชะงักลงเนื่องจากความผันผวนและ การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องยุติการบริหารราชการแผ่นดิน

2.ต่อมารัฐบาล คสช. โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 216/2557 ลงวันที่  20 พฤศจิกายน 2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (อ้างถึงลำดับที่ 2) โดยมอบหมายให้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

3. ต่อมามี คำสั่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  ที่ 1/ 2558  เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (อ้างถึงลำดับที่ 7)

4. ต่อมาหม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล จึงได้มี คำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่ 1/2558 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2558 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (อ้างถึงลำดับที่ 3)

ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบพื้นที่สวนป่าบางขันฯ ควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไร จะสรุปเป็นประการใด และการจะไล่รื้อราษฎรออกจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งทับควาย หรือไม่ อย่างไร จะต้องผ่านการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (อ้างถึงแล้วลำดับที่ 7) และต้องผ่านกระบวนการไต่สวนรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน และพิจารณาโดยรอบคอบ เพื่อให้ได้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อราษฎรน้อยที่สุด เกิดความเป็นธรรมต่อราษฎรมากที่สุด ทั้งต้องไม่ขัดต่อแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้, การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน บทที่ 1

“ข้อ 1.3.1 การกระทำใดๆ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นๆ ก่อนคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 มีผลบังคับใช้....” ด้วย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ข้อมูลและความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมตามลำดับ เพื่อคณะกรรมการ และคณะทำงาน ดังกล่าวข้างต้นจะได้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชน

จึงเรียนมาเพื่อพิจารณายุติการบังคับไล่รื้อ จนกว่ารัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ชุมชนทุ่งทับควายที่ขาดแคลนหรือไร้ที่ดินทำกินได้แล้วเสร็จ

สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.)

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท