15 เม.ย.2558 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถห้างเซ็นทรัล เกาะสมุย  โดยระบุว่า ได้เบาะแสมีอดีตนักการเมืองในภาคใต้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ  และยืนยันเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน

เมื่อวานนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพิ่งเปิดเผยว่าข้อมูลของหลายหน่วยงานสามารถระบุได้ตรงกันแล้วว่า การก่อเหตุครั้งนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง 

ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดเผยวันนี้ จะลงพื้นที่เกาะสมุย เพื่อประชุมทีมสืบสวนสอบสวนทั้งหมด เพื่อประเมินทิศทางการคลี่คลายคดีและหาตัวคนร้าย 

‘ไก่อู’ อัด ‘ซูการ์โน’ พูดให้ท้ายผู้กระทำผิด

ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ซูการ์โน มะทา อดีต ส.ส. ยะลา  แสดงความเห็นกรณีรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุถูกขโมยจากจังหวัดยะลา ซึ่งนายซูกาโนร์ ระบุว่าจากเหตุการณ์นี้ ทำให้เห็นว่าด่านตรวจในพื้นที่ไร้ประสิทธิภาพ  และสร้างความรำคาญใจให้กับประชาชน ซึ่ง พล.ต.สรรเสริญ ชี้ว่า การกล่าวเช่นนี้ เป็นการพูดจาแบบคนไร้จิตสำนึก และให้ท้ายผู้กระทำผิด เพราะประชาชนและสุจริตชนในพื้นที่ ต่างอุ่นใจกับมาตรการดูแลความปลอดภัยและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี 

‘ซูการ์โน’ วอนเร่งทำความจริงให้ปรากฏอย่าเพิ่งรีบออกสื่อ

ซูการ์โน กล่าวว่า ถ้าคนในพื้นที่ไม่สามารถสะท้อนความจริงได้ก็ลำบาก เพราะวันนี้ตามชุมชนในพื้นที่ก็มีการพูดถึงรถยนต์ที่ถูกปล้นไปใช้ก่อเหตุดังกล่าวในเชิงสงสัย เนื่องรถยนต์ดังกล่าวถูกปล้นจากจังหวัดยะลา แล้วไปปรากฎที่สมุย ตนก็เลยพยายามจะสื่อว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรมากนัก

วันนี้อยากให้รีบสะสาง รีบทำความจริงให้ปรากฎ อย่าเพิ่งเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับนักการเมือง วันนี้นักการเมืองให้โอกาสพวกคุณเข้ามาบริหารแก้ปัญหาประเทศ นักการเมืองไม่ได้ออกมาตอบโต้กับคุณ เขาแค่นำคำพูดของชาวบ้านมาบอก วันนี้อะไรก็โยงการเมือง

“ผมไม่รู้นะ ผมก็ไม่มีหลักฐาน และไม่อยากจะเชื่อมโยงว่าใครเป็นคนทำ แต่อยากให้ผู้มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รีบนำความกระจ่างออกมาให้สังคมสบายใจ เอาความชัดเจนก่อน อย่าเพิ่งรีบออกสื่อ ผมอยากได้ตรงนี้มากกว่า ผมไม่อยากจะไปตอบโต้อะไร การมาตีว่าผมไร้จิตสำนึกนี่มันใหญ่นะ ดังนั้น ถ้าคนไทยทุกคนไร้จิตสำนึกที่จะออกมาพูดความจริงไม่ได้เลย ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะคนเราถ้ากล้ารับความจริง เอาความจริงมาแก้ปัญหา ผมว่าน่าจะดีขึ้น” ซูการ์โน กล่าว

ชายเสื้อสีนํ้าเงิน เข้าพบ ตร.ยันไม่เกี่ยวเหตุการณ์

วานนี้(14 เม.ย.) พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมากตำรวจทุกชุดทำงานอย่างเต็มที่คาดว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆนี้ ส่วนประเด็นการตรวจพบชายสวมเสื้อสีน้ำเงินจากกล้องวงจรปิดของห้างเซ็นทรัลฯ นั้น เมื่อกลางดึกวันที่ 13 เม.ย. ชายคนดังกล่าวเดินทางมาพบกับตำรวจทราบชื่อนายวีระ พันธุ์เจริญ เป็นชาวบ้านอยู่ที่ ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คาร์บอมบ์แสดงตัวยืนยันวันและเวลาช่วงเกิดเหตุปั่นรถจักรยานไปเที่ยวที่ห้างเซ็นทรัลฯ ไม่มีรถยนต์และขับรถไม่เป็น ทุกวันยังเฝ้าดูแลพ่อที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน ทางตำรวจตรวจเก็บดีเอ็นเอของนายวีระไว้แล้วเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่เก็บจากที่เกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนจะปล่อยตัวนายวีระกลับไป

ล็อกตัว 4 รปภ.ห้างสอบเครียดเซฟเฮาส์บนเกาะสมุย

พล.ต.ต.สมชายกล่าวอีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ รปภ.ห้างเซ็นทรัลฯ ทั้ง 4 คนเป็นผู้ต้องสงสัยทางทหารล็อกตัวไว้สอบเครียดในเซฟเฮาส์บนเกาะสมุย ล่าสุดทหารปล่อยเจ้าหน้าที่ รปภ.มาแล้ว 1 คนภายหลังการสอบสวนไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่เหลือ 3 คน ย้ายไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ค่ายทหารวิภาวดีรังสิต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี โดยตำรวจขออนุญาตทางทหารขอร่วมสอบปากคำด้วย คาดว่าหากทางตำรวจสอบสวนเจ้าหน้าที่ รปภ.ทั้ง 3 คนจนแล้วเสร็จอาจจะนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเหตุคาร์บอมบ์ต่อไป

นอกจากนี้ ตำรวจยังจะตรวจเก็บดีเอ็นเอเจ้าหน้าที่ รปภ.ทั้ง 3 คน อย่างละเอียดเพื่อนำไปตรวจสอบว่าตรงกับดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุหรือไม่ ขอยืนยันว่าจากการตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยไม่พบสารผลิตระเบิดตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด พบเพียงแผนผังของห้างเซ็นทรัลฯ เพราะ 1 ใน 3 รปภ.มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องกล้องวงจรปิดของห้างต้องมีแผนผังไว้ตรวจสอบ

ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย นำเอากล่องพัสดุต้องสงสัยซึ่งส่งมาถึง 1 ใน 3 เจ้าหน้าที่ รปภ.ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวไว้ มามอบให้กับชุดสืบสวนคลี่คลายคดีตรวจสอบ โดยพัสดุดังกล่าวถูกส่งมาให้กับผู้ต้องสงสัยในวันเวลาไล่เลี่ยกับวันเกิดเหตุระเบิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ตร.ภาค 8 มาตรวจสอบกล่องดังกล่าวต้องนำไปตรวจสอบในจุดที่ปลอดภัย พบว่าภายในมีนาฬิกาข้อมือ แบบอนาล็อกบรรจุอยู่ 1 เรือน เจ้าหน้าที่อีโอดียืนยันว่าพัสดุดังกล่าวไม่น่าจะเป็นส่วนประกอบของระเบิด

เรียบเรียงจาก Voice TV มติชนออนไลน์และไทยรัฐออนไลน์