1 ปีกับการใช้กลไกทางกฎหมายกรณีการหายตัวของบิลลี่

รายงานสรุป 1 ปีกับการใช้กลไกทางกฎหมายกรณีการหายตัวของ "พอละจี รักจงเจริญ" หรือ "บิลลี่" นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง โดยสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
นับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 จนบัดนี้  เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ที่นายพอละจี  รักจงเจริญ หรือนายบิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ได้หายตัวไป หลังเดินทางกลับมาจากบ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อเตรียมข้อมูลที่จะใช้ในเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เผาทำลายบ้านและทรัพย์สินของชาวบ้านชาวกะเหรี่ยงที่อยู่อาศัยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในปี 2554 โดยมีชาวบ้านพบเห็นนายบิลลี่ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งทำการค้นตัวแล้วพบว่านายบิลลี่มีรังผึ้งและน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครอง  เจ้าหน้าที่อ้างว่าได้ทำการตักเตือนและปล่อยตัวนายบิลลี่ไปแล้ว อย่างไรก็ตามไม่ปรากฏหลักฐานที่อ้างเกี่ยวกับการจับกุมและหลักฐานการปล่อยตัวแต่อย่างใด
 
นายบิลลี่เป็นแกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน  และผู้ช่วยทนายความ ในคดีที่ชาวบ้านบางกลอยยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อศาลปกครองกลาง  จากกรณีที่นายชัยวัฒน์  ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเข้ารื้อทำลาย เผาบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัว  ที่บ้านบางกลอยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2554 ตาม“โครงการขยายผลการอพยพ ผลักดัน/จับกุม ชนกลุ่มน้อยที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตามแนวชายแดนไทยพม่า”  มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ยุทธการตะนาวศรี”  เพื่อผลักดันให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่แม้ปรากฏผลการศึกษายืนยันว่าชาวบ้านเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมชาวปาเกอญอที่ตั้งรกรากอาศัยอยู่ในพื้นที่มาเป็นเวลาร่วมกว่า 100 ปีแล้ว ขณะที่นายบิลลี่หายตัวไปนั้นอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเพื่อต่อสู้คดีดังกล่าว ซึ่งศาลนัดไต่สวนในวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 นอกจากนี้ นายบิลลี่ยังอยู่ระหว่างการเตรียมถวายฎีกาเพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่านายบิลลี่มีพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดีและกรณีร้องเรียนดังกล่าวอยู่กับตัวด้วยในขณะที่หายไป
 
การดำเนินการทางกฎหมายเริ่มต้นขึ้น เมื่อนางสาวพิณนภา  พฤกษาพรรณ  ภรรยาของนายบิลลี่  ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 เมื่อทราบข่าวการหายตัวไปของนายบิลลี่หลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
 
22 เมษายน 2557 สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) ทราบข่าวกรณีการหายตัวของนายบิลลี่ จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และออกจดหมายเปิดผนึกขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
 
23 เมษายน 2557 สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล(ICJ) และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) ลงพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นางสาวพิณนภา  พฤกษาพรรณ  และญาติของนายบิลลี่ โดยในวันเดียวกันทนายความได้ประชุมเตรียมคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินและขอให้ปล่อยตัวนายบิลลี่จากการถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมายตามความประสงค์ของญาติ
 
24 เมษายน 2557 นางสาวพิณนภา  พฤกษาพรรณ  พร้อมทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ พิเศษ 1/2557 เพื่อขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินและขอให้ปล่อยตัวนายบิลลี่จากการถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 32  ซึ่งศาลมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉิน โดยมีการสืบพยาน 2 ปากในวันดังกล่าว คือ นางสาวพิณนภา  พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่  ในฐานะผู้ร้อง และนายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย และศาลได้นัดสืบพยานอีก 10 ปาก ในวันที่ 30 เมษายน 2557 วันที่ 12 พฤษภาคม 2557 วันที่ 2 มิถุนายน 2557 วันที่ 16 มิถุนายน 2557 และสิ้นสุดการสืบพยานในวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 โดยมีพยานที่ขึ้นเบิกความต่อศาล  ได้แก่  นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอีกจำนวน 4 คน นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  นักศึกษาฝึกงาน 2 คน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน และพยานผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท