สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายงานเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมาว่าพลตำรวจเอกเอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้นำทีมพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพบศพชาวโรฮิงญาจำนวนมาก ในพื้นที่ปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต และขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่ามีคนไทย มาเลเชีย และเมียนมา เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมถึง ตรวจสอบว่า ยังมีค่ายกักตัวชาวโรฮิงญาตามแนวชายแดนอีกหรือไม่ เบื้องต้นพบว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักพิงชั่วคราว รอเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญาไปประเทศปลายทาง โดยที่พักดังกล่าวอยู่บนยอดเขาสูง ห่างจากชายแดนประเทศมาเลเชีย เพียง 300 เมตร มีพื้นที่กว่า 1 ไร่ มีโรงนอน / โรงอาหาร / และพบหลุมฝังศพกว่า 30 หลุม เชื่อว่าสร้างขึ้นชั่วคราว ให้สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานได้ตลอดเวลา และยากต่อการจับกุม

 

โดยในวันนี้ (2 พ.ค.58) จะลงพื้นที่พร้อมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

อนึ่งก่อนหน้านี้บีบีซีไทยรายงานว่าพบหลุมศพและค่ายที่พักร้างของชาวโรฮิงญาบนเขาในพื้นที่ปาดังเบซาร์ เชื่อเป็นที่กักตัวเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ข้ามแดนไทย-มาเลเซีย

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ อ. สะเดา จ. สงขลา เข้าตรวจสอบค่ายพักที่ถูกทิ้งร้างแห่งหนึ่งบนเขาในพื้นที่ ต. ปาดังเบซาร์ หลังมีรายงานว่าพบหลุมศพจำนวนราว 32 หลุม โดยคาดว่าเป็นหลุมศพของผู้อพยพจากพม่าและบังกลาเทศ ซึ่งอาจเป็นชาวโรฮิงญา

 

ขณะนี้ตำรวจและหน่วยกู้ภัยสามารถขุดศพขึ้นมาเพื่อเตรียมนำส่งพิสูจน์ได้แล้ว 4 ศพ แม้ว่าศพส่วนใหญ่เริ่มเน่าเปื่อยแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่าศพมีร่องรอยการถูกทำร้าย และสันนิษฐานว่าศพที่พบเสียชีวิตจากโรคภัยและการขาดอาหาร

 

ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ยังได้พบชายชาวบังกลาเทศซึ่งป่วยหนัก 1 ราย ภายในบริเวณค่ายพักร้างดังกล่าว และได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง จนมีอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

 

พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า ค่ายพักร้างดังกล่าว อาจเป็นค่ายกักตัวผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฏหมาย ซึ่งควบคุมโดยแก๊งค้ามนุษย์ โดยมีรายงานว่า มีการลักลอบขนผู้อพยพข้ามแดนเข้าไปยังฝั่งมาเลเซียเมื่อสองวันที่ผ่านมา จึงอาจเป็นไปได้ว่าแก๊งค้ามนุษย์ได้ทิ้งผู้อพยพที่เจ็บป่วยและฝังผู้เสียชีวิตเอาไว้ที่ค่ายพักร้างดังกล่าว

 

นายคริส เลวา จากโครงการอาระกันโปรเจ็คท์ ซึ่งตรวจสอบการเคลื่อนไหวของแก๊งค้ามนุษย์ระบุว่า ค่ายพักชั่วคราวของแก๊งค้ามนุษย์ในลักษณะนี้ พบได้ทั่วไปในบริเวณแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย โดยผู้อพยพซึ่งเดินทางมาทางเรือจะถูกนำตัวมาพักไว้ในค่าย เพื่อรอเงินค่าไถ่ตัวจากญาติพี่น้องในประเทศต้นทาง โดยจะจ่ายให้แก๊งค้ามนุษย์พาเดินทางต่อไปยังมาเลเซียหรือประเทศอื่นๆ ในบางครั้งผู้อพยพอาจต้องรอกระบวนการในส่วนนี้นานนับเดือน และหลายคนอาจถูกทิ้งให้รออยู่ในเรือนานหลายสัปดาห์