Skip to main content
sharethis
"สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ระบุ หากจะมีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ทั้งฉบับหรือบางมาตรา ซึ่งจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และต้องใช้เวลาเพิ่มอย่างน้อย 3 เดือน
 
9 พ.ค. 2558 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่านายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า หากจะต้องมีการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2557 เพื่อพิจารณาขอทำประชามติ และเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่จะต้องเสนอขอแก้ไขไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. และถือเป็นการเพิ่มขั้นตอนการจัดทำรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 เดือน และ สนช. จะต้องพิจารณาภายใน 15 วัน โดยในวันที่ 15 - 16 พฤษภาคมนี้ ประชุมสมาชิก สนช. เพื่อให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นที่จะต้องมีการประชุมนอกรอบก่อน โดยจะสรุปเป็นประเด็นทั้ง 315 มาตรา เพื่อให้ง่ายต่อการพิจารณา ทั้งนี้ กรรมาธิการมีความเห็นว่า เมื่อมีการอภิปรายกันแล้วจะต้องได้ประชามติ และเสียงของ สนช. จะต้องไม่แตกเป็นหลายทิศทางในแต่ละประเด็น ส่วนหากมีการทำประชามติ จะขอทำประชามติรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หรือบางมาตราก็ได้ ซึ่งจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เช่น การขอแก้ไขทั้งฉบับอาจส่งผลให้รัฐธรรมนูญเป็นอันตกไปทั้งฉบับ และจะต้องหาแนวทางรองรับในการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ส่วนการทำประชามติบางประเด็น อาจต้องแก้ไขเพียงบางมาตรา แต่มาตราที่ไม่ได้ทำประชามติ อาจไม่สอดคล้องกับการแก้ไขดังกล่าว จึงต้องหาแนวทางรองรับด้วย
 
นายสุรชัย กล่าวอีกว่า มติของ สนช. ที่จะออกมาหลังจากการจัดประชุมสมาชิก สนช. ซึ่งจะเป็นมติก่อนที่คณะรัฐมนตรี และ คสช. จะหารือกัน ยืนยันว่า จะไม่เป็นการชี้นำ หรือกดดันคณะรัฐมนตรี หรือ คสช. อย่างแน่นอน และเมื่อกระบวนการพิจารณาในส่วนของ สนช. เสร็จสิ้น จะส่งความเห็นทั้งหมดต่อกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนธญ ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net