ผู้สื่อข่าวรายการสามมิติแจง ฐปณีย์ร่วมถือหุ้นบริษัทผลิตรายการ เพื่อให้ครบองค์ประกอบจดทะเบียนบริษัท ยันฐปณีย์ไม่ได้นับเป็นหุ้นส่วนใดๆ กับบริษัท เพราะไม่เคยมีปันผลนอกจากเงินได้สะสม ไม่เข้าใจทำไมสถาบันอิศราเล่นข่าวฐปณีย์จังหวะนี้
21 พ.ค. 2558 กรณีสำนักข่าวอิศรารายงานข่าว "หุ้นเล็กๆ ของ ‘ฐปณีย์’ ในบริษัทผลิตสื่อ" โดยระบุว่า ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวรายการ 3 มิติ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี 3 มีหุ้นจำนวน 2% ในบริษัท ถอดรหัส-ย้อนรอย จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แจ้งผลประกอบการปี 2556 รายได้ 13,781,158 บาท กำไรสุทธิ 1,042,491 บาท กำไรสะสมประมาณ 5 ล้านบาท
ล่าสุด จตุรงค์ สุขเอียด ผู้สื่อข่าว รายการข่าว 3 มิติ ซึ่งมีรายชื่อถือหุ้นใหญ่ในบริษัทดังกล่าวโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า บริษัทดังกล่าวตั้งขึ้นเพื่อรับงานผลิตรายการ และเนื่องจากการจดทะเบียนต้องมีกรรมการบริษัทไม่ต่ำกว่า 7 คน จึงยืมชื่อเพื่อนผู้สื่อข่าวมา รวมถึงฐปณีย์ด้วย อย่างไรก็ตาม ต่อมา ฐปณีย์ไปทำงานกับกิตติ สิงหาปัด จึงไม่ได้ทำรายการตรงจุดเกิดเหตุอีก ส่วนหุ้นที่ถืออยู่ก็เห็นว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรจึงปล่อยไป
จตุรงค์ระบุว่า สำหรับบริษัทนั้น ต่อมาเกิดปัญหาภายใน จึงหยุดประกอบการตั้งแต่ช่วงปี 2556 มา แต่อยู่ระหว่างให้นักกฎหมายเข้าไปขายตลาดทรัพย์สินเดิม แต่มีบางส่วนขายได้ในปีภาษี 2557 แล้วก็ปันเงินออมให้กับน้องๆ บางส่วนไป
จึงต้องรอเคลียร์ภาษีในปี 2558 ก่อนหากขายทรัพย์สินสุดท้ายได้แล้วคืออาคารอีกหลัง ฐปณีย์จึงไม่ได้นับเป็นหุ้นส่วนใดๆ กับบริษัทมาเลยเพราะไม่เคยมีปันผลนอกจากเงินได้สะสม
"ผมกับทางสถาบันอิศรา นั้นก็ต่างคนต่างบทบาทกับ ความจริงผมก็ได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากท่าน ซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้"
"กรณีที่ท่านไปส่องในฐานข้อมูลของกรมทะเบียนการค้าในยามที่ฐปณีย์กำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรงนั้น ผมไม่เข้าใจในเหตุผลและเป้าประสงค์ แต่ในฐานะที่เป็นคนทำข่าวด้วยผมก็ว่าหากในเมื่อข้อมูลของท่านปรากฏชื่อผมชื่อเธอแล้ว ทำไมท่านไม่โทรมาสอบถามผมและเธอบ้าง"
"แต่ไม่เป็นไร ด้วยผมคารวะครูบาอาจารย์เสมอมา ให้นับเสียว่า ผมทำข้อมูลอีกด้านหนึ่งของของท่านให้สมบูรณ์กับผู้ที่บริโภคข้อมูลของท่านแล้วก็แล้วกันครับ ด้วยศรัทธาครับอาจารย์" จตุรงค์ ทิ้งท้าย
หุ้นเล็กๆ ของ‘ฐปณีย์’ ในบริษัทผลิตสื่อที่มา http://www.isranews.org/investigative/investigate-news-person/item/38691-thapani_888.html หลายคนอาจไม่รู้ว่า ‘ฐปณีย์ เอียดศรีไชย’ นักข่าวแห่งข่าว 3 มิติของช่อง 3 ถือหุ้นธุรกิจด้วยเหมือนกันแต่ทว่าเพียงเล็กน้อย บริษัท ถอดรหัส-ย้อนรอย จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 มีนาคม 2551 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ผลิตและเผยแพร่รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ เทปบันทึกภาพ บันทึกเสียง ที่ตั้งเลขที่ 4/17 ซอยรามอินทรา 34 แยก 19/1 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นายจตุรงค์ สุขเอียด ถือหุ้นใหญ่ นายศศิศ สุวรรณปากแพรก รองลงมา และ นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย สิบตรีปัญญา นานกระโทก นายวิโรจน์ สุขศรี นายวุฒิชัย จิตรชื่น นายศิวภัฏ บริบูรณ์ คนละ 2% แจ้งผลประกอบการปี 2556 รายได้ 13,781,158 บาท กำไรสุทธิ 1,042,491 บาท กำไรสะสมประมาณ 5 ล้านบาท ทั้งนี้ นายจตุรงค์ นั้นทำธุรกิจร่วมกับ “กิตติ สิงหาปัด” ใน บริษัท ฮอทนิวส์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 8 สิงหาคม 2551 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการผลิตรายการเพื่อเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ วิทยุสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด รับจ้างโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทุกชนิด ที่ตั้งเลขที่ 31 ซอยยาสูบ 2 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร และมีบริษัทผลิตสื่ออีก 2 แห่ง สำหรับในรอบปี 2556 บริษัท ฮอทนิวส์ จำกัด มีรายได้ 31,368,949 บาท กำไรสุทธิ 9,708,192 บาท กำไรสะสมประมาณ 40.5 ล้านบาท กระนั้น “ฐปณีย์” มิได้ถือหุ้นบริษัทของ “กิตติ” แต่อย่างใด นี่คือธุรกิจเล็กๆ ของ “ฐปณีย์” และผองเพื่อน ตามแบบฉบับ “นกน้อยทำรังแต่พอตัว” |
จตุรงค์ สุขเอียดที่มา: https://www.facebook.com/joyjaturong/posts/942409129112889 เมื่อตอนไอทีวีจอดำ...ช่วงจะประกาศปิดไอทีวีนั้น ก็มีคนมาชวนผมไปทำงานในช่องอยู่บ้างหลายช่อง ผมตัดสินใจไม่ไปเพราะมีน้องเก่าที่อยู่กันมาไม่มีใบวุฒิการศึกษาแต่มีผลงานดีทำงานได้จำนวนหนึ่ง จึงผมเลือกเขียนรูปแบบรายการไปเสนอ เพราะคิดว่าการไม่ไปอยู่ช่องดีที่ไม่ต้องไปเบียดที่นั่งทำงานกับคนเก่าๆ ให้เขาไม่สบายใจ ต่อมาบ.เทนเทเลมาเกต จก.ก็ตกลงจ้างผลิตรายการ "ตรงจุดเกิดเหตุ" ไปออกช่อง 3 ตอนนั้นแยม ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ก็กำลังจะกลับไปอยู่บ้าน คุณอลงกรณ์ เหมือนดาว (พี่บ๊อบ)ก็ชวนมาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้เราจึงรวมกำลังทำตรงจุดเกิดเหตุได้ 7 คน ทางบริษัท เทนฯก็บอกว่า สิ้นเดือนจะต้องจ่ายค่าผลิตเทปตรงจุดเกิดเหตุแต่ต้องรับในนามบริษัทเพราะมีเรื่องภาษีต่างๆ ด้วย จุดนี้ทำให้ผมต้องขอให้รุ่นน้องทำเรื่องเปิดบริษัท คิดไม่ออก ก็เอาชื่อรายการเก่าสมัยไอทีวีมีตั้งชื่อว่า ถอดรหัสย้อนรอย จำกัด แต่ขณะนั้นก็มีเงื่อนไขว่าบริษัทจำกัดต้องมีกรรมการร่วมไม่ต่ำกว่า 7 คน เราจึงขอยืมชื่อให้ครบ 7 คนพี่บ๊อบ ผมก็ถือแทน ส่วนอีก 6 ก็เอาชื่อศศิน สุวรรณปากแพรก เป็นบุตรคุณอัฌชา ที่เห็นว่าเงินไม่พอลงทุนจึงช่วย20เปอร์เซ็นต์ ปัญญา นานกระโทก (นักข่าว) วุฒิชัย จิตชื่น(นักข่าว) วิโรจน์ สุขศรี(ช่างภาพ) ศิวภัฎ บริบูรณ์(บัญชีการเงิน) รวมถึง ฐปณีย์ เอียดศรีไชย(นักข่าว) คนละ 2 เปอร์เซ็นต์ มาถือให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเงินจดทะเบียนนั้น ตอนเลิกไอทีวีเขาก็มีเงินเลิกจ้างให้มา ผมก็เอามาลงทุนซื้อกล้องถูกมา 4 ตัว เราถือคติไม่รับจ้างอย่างอื่นที่ไม่ได้เป็นงานข่าวที่เรามีอิสระในการคิดทำ เพื่อไม่ให้เงินมีอิทธิพลกับความคิดเราเกินไป จนต่อมา คุณกิตติ สิงหาปัด ออกจาก อสมท.ไปอยู่ช่อง 3 ก็เห็นว่าพวกเรามีกำลังที่จะช่วยงานได้ ก็มาชวนผมกับพี่บ๊อบ อลงกรณ์ มาช่วยทำเบื้องหลังให้ เช่นกันเขาต้องตั้งบริษัทขึ้นมารับค่าจ้างมา (จ้างเป็นรายเดือน) ไม่ได้เป็นสัดส่วนโฆษณาแต่อย่างใด เขาก็ใช้ชื่อผมไปเป็นกรรมการด้วย แต่พี่บ๊อบ ผมจึงถือแทนเขาในสัดส่วนที่น้อยเพื่อให้ครบองค์ประกอบการจดทะเบียนบริษัท ของกรมทะเบียนการค้า ทำมาราว 5 ปีก็มีปัญหาภายในกัน บริษัท ถอดรหัสย้อนรอย จำกัด จึงหยุดประกอบการ ตั้งแต่ช่วงปี 2556 มา แต่อยู่ระหว่างให้นักกฎหมายเข้าไปขายตลาดทรัพย์สินเดิม แต่มีบางส่วนขายได้ในปีภาษี 2557 แล้วก็ปันเงินออมให้กับน้องๆ บางส่วนไป จึงต้องรอเคลียร์ภาษีในปี 2558 ก่อนหากขายทรัพย์สินสุดท้ายได้แล้วคืออาคารอีกหลัง ฐปณีย์จึงไม่ได้นับเป็นหุ้นส่วนใดๆ กับบริษัทมาเลยเพราะไม่เคยมีปันผลนอกจากเงินได้สะสม ผมยังต้องผลิตรายการให้กับเทนต่อ ซึ่งก็เปลี่ยนชื่อมาเป็นรายการสเปเชียลรีพอร์ต เงื่อนไขการรับเงินก็เช่นเดิมในนามบริษัท ก็ให้เขาจดบริษัทใหม่มารับค่าผลิตงาน ชื่อ newsdoc (นิวส์ด็อค จำกัด) ผมกับทางสถาบันอิศรา นั้นก็ต่างคนต่างบทบาทกับ ความจริงผมก็ได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากท่าน ซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ กรณีที่ท่านไปส่องในฐานข้อมูลของกรมทะเบียนการค้าในยาม ที่ฐปณีย์ กำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรงนั้น ผมไม่เข้าใจในเหตุผลและเป้าประสงค์ แต่ในฐานะที่เป็นคนทำข่าวด้วยผมก็ว่าหากในเมื่อข้อมูลของท่านปรากฏชื่อผมชื่อเธอแล้ว ทำไมท่านไม่โทรมาสอบถามผมและเธอบ้าง แต่ไม่เป็นไร ด้วยผมคารวะครูบาอาจารย์เสมอมา ให้นับเสียว่า ผมทำข้อมูลอีกด้านหนึ่งของของท่านให้สมบูรณ์กับผู้ที่บริโภคข้อมูลของท่านแล้วก็ก็แล้วกันครับ ด้วย ศรัทธาครับอาจารย์ |