Skip to main content
sharethis
22 พ.ค. 2558 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวในวันนี้ (22 พ.ค.) ว่าการจับกุมนักศึกษาและนักกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารโดยพลการ ในเหตุการณ์อย่างน้อยสามครั้งในวันนี้ ทั้งที่กรุงเทพฯ และที่ขอนแก่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนว่าระบอบทหารที่ปกครองประเทศมาครบปีแล้วยังไม่ยอมให้มีการแสดงความเห็นต่างโดยสงบ
                
ริชาร์ด เบนเน็ต (Richard Bennett) ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า ครบหนึ่งปีพอดีนับแต่กองทัพไทยประกาศใช้กฎอัยการศึกและยึดอำนาจ เรายังคงเห็นการปราบปรามที่รุนแรงต่อผู้ประท้วงอย่างสงบบนท้องถนน
               
“ต้องไม่มีการจับกุมหรือควบคุมตัวผู้ประท้วงอย่างสงบ เพียงเพราะเขาเสนอความเห็นที่อาจไม่น่ารับฟังหรือท้าทายระบอบทหาร บุคคลที่ชุมนุมอย่างสงบเพื่อใช้สิทธิมนุษยชนที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก ต้องได้รับการปล่อยตัวโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข และต้องยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมด
                
“ทางการต้องเคารพและต้องคุ้มครองให้มีการแสดงความเห็นต่างอย่างสงบ และให้ยกเลิกมาตรการอย่างเข้มงวดที่ปิดกั้นการแสดงออกและการชุมนุมในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางกฎหมายหรือทางปฏิบัติ”
                
“ประมาณ 18.20 น.ตามเวลาในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนักศึกษาและนักเคลื่อนไหว 20 คนที่กรุงเทพฯ ช่วงที่กำลังจะประท้วงเชิงสัญลักษณ์อย่างสงบ เพื่อต่อต้านรัฐประหารเมื่อปี 2557 ที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการประท้วงต่อต้านรัฐประหารในช่วงแรก ๆ เมื่อปีที่แล้ว ตำรวจปฏิเสธไม่ให้ผู้ถูกควบคุมตัวได้พบกับทนายความ อ้างว่าต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา มีรายงานว่านักกิจกรรมสองคนเป็นอย่างน้อยได้รับบาดเจ็บระหว่างการจับกุมและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาล
                
ในอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตอน 15.00 น.ในวันนี้ที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจับกุมนักศึกษา นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและคนขับแท็กซี่ที่สถานีรถใต้ดิน พวกเขาถูกควบคุมตัวไว้ที่โรงพักและได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา
                
บุคคลทั้งสามเป็นสมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ซึ่งเป็นกลุ่มประท้วงทางการเมือง และอยู่ระหว่างเดินทางเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาที่กรุงเทพฯ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯคนปัจจุบันซึ่งทำการรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว ทางกลุ่มแจ้งแผนการต่อสาธารณะหลายวันก่อนจะมีการชุมนุมในโอกาสครบรอบหนึ่งปีรัฐประหาร สมาชิกคนอื่นของกลุ่มเคยถูกควบคุมตัวมาแล้วจากการประท้วงเชิงสัญลักษณ์อย่างสงบในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาอย่างนายสิริวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ หรือนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ซึ่งลูกชายของเขาถูกทหารฆ่าตายระหว่างการปราบปรามผู้ชุมนุมเมื่อปี 2553 และคนขับแท็กซี่อย่างนายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ
                
ในเหตุการณ์ที่สาม มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อยเจ็ดคนที่จังหวัดขอนแก่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อประมาณ 13.00 น. ผู้ประท้วงทั้งเจ็ดคนได้รวมตัวชุมนุมอย่างสงบเพื่อต่อต้านรัฐประหารและการบังคับไล่รื้อชุมชนในชนบทเพื่อเปิดทางให้กับโครงการขุดเจาะทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนา ผู้ประท้วงเป็นสมาชิกกลุ่มดาวดิน ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาที่เป็นนักกิจกรรม โดยเชื่อว่าบางส่วนเคยถูกจับกุมมาแล้วในเหตุการณ์ชูสามนิ้วจากภาพยนตร์ “ฮังเกอร์เกมส์” ระหว่างที่พลเอกประยุทธ์มากล่าวปาฐกถาที่ขอนแก่นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557
                
จากภาพข่าว เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้บุกเข้าไปสลายการชุมนุมก่อนจะจับกุมนักกิจกรรม ในเบื้องต้นมีการพาตัวสมาชิกกลุ่มดาวดินไปยังค่ายทหาร และในตอนนี้ถูกนำตัวไปที่โรงพักในขอนแก่น
                
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดเหล่านี้สะท้อนความพยายามอย่างต่อเนื่องของทางการไทย ในการปราบปรามเสียงที่เห็นต่างของประชาชน โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองอาจต้องเจอกับโทษจำคุก ทางการได้ใช้อำนาจมากมายที่มีอยู่เพื่อจำกัดและปฏิเสธไม่ให้ประชาชนใช้สิทธิของตนโดยอ้างว่าเพื่อความมั่นคงของประเทศ ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาต้องอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิในการเห็นต่างได้อย่างสงบ” ริชาร์ด เบนเน็ตกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net