Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวบีบีซีวิเคราะห์เหตุใดภาพลักษณ์ของผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน จึงดูไม่นิ่งและมีอะไรหลายอย่างแตกต่างจากผู้นำคนก่อนอย่างคิมจองอิล

9 มิ.ย. 2558 สตีเฟน อีแวนส์ นักข่าวบีบีซีในเกาหลีใต้ผู้เขียนประเด็นเรื่องเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ วิเคราะห์พฤติกรรมแปลกๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ของคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าในขณะที่สื่อนอกประเทศเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ของเขาในหลายๆ แบบ ทั้งเรื่องการล้อเลียนทรงผม หรือเรื่องที่เขาดูเป็น 'เพลย์บอยเจ้าเนื้อ' ที่ชื่นชอบรถแข่งและผู้หญิง แต่ในเกาหลีเหนือเขาถูกสร้างภาพให้เห็นผู้นำที่ดีเลิศ

สื่อในเกาหลีเหนือมักจะนำเสนอภาพเขาเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อแสดงทัศนะให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์โรดองชินมุนซึ่งเป็นสื่อของพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานถึงเรื่องการเข้าไปให้คำแนะนำแก่ฟาร์มเพาะเลี้ยงเต่าน้ำซึ่งฟาร์มดังกล่าวมาจากแนวคิดริเริ่มโดยคิมจองอิลผู้เป็นพ่อของคิมจองอึนและเป็นผู้นำคนก่อนหน้านี้ โดยฟาร์มดังกล่าวประสบปัญหาไม่สามารถเพาะเลี้ยงเต่าน้ำได้ตามต้องการหรือสามารถดำเนินการตามหลักอุดมการณ์ริเริ่มของผู้นำคนก่อนได้ อีกทั้งในฟาร์มดังกล่าวยังล้มเหลวในการเพาะเลี้ยงล็อบสเตอร์ด้วย

อีแวนส์ระบุว่า เป็นเรื่องยากลำบากในการจะหาเหตุผลกับผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน จากเหตุการณ์ที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้อ้างว่าคิมจองอึนกำจัดคนใกล้ชิดที่ต้องสงสัยว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อเขานั้นแสดงให้เห็นว่าแม้กระทั่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่อาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือก็คาดเดาพฤติกรรมของคิมจองอึนไม่ได้เช่นกัน ขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเกาหลีเหนือมองว่าพฤติกรรมของคิมจองอึนในช่วงไม่นานมานี้มีลักษณะเอาแน่เอานอนไม่ได้

ไอดาน ฟอสเตอร์คาร์เตอร์ นักวิจัยกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยลีดส์กล่าวถึงประเด็นที่คิมจองอึนถูกกล่าวหาในสื่อว่าเป็นผู้สังหารคนใกล้ชิด 2 คน โดยฟอสเตอร์คาร์เตอร์ระบุว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในหมู่คนใกล้ชิดของเขา และถ้าหากการสังหารเป็นไปอย่างคาดเดาไม่ได้ก็มีโอกาสทำให้พวกเขารู้สึกอยากทรยศจนมีโอกาสเกิดการต่อต้าน

อีแวนส์ระบุต่อยอดจากความคิดข้างต้นว่า แต่การหักหลังผู้นำเกาหลีเหนือก็มีความเสี่ยงอยู่มากเมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์ของเผด็จการอย่างฮิตเลอร์ สตาลิน หรือแม้กระทั่งอดีตผู้นำเกาหลีใต้ที่มาจากการรัฐประหารอย่างปาร์คจุงฮีที่ถูกลอบสังหารโดยหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลเอง ทำให้พวกคนใกล้ชิดกับคิมจองอึนต้องคอยชั่งน้ำหนักว่าจะเลือกแปรพักตร์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ฟอสเตอร์คาร์เตอร์กล่าวว่า คิมจองอึนเป็นคนที่ตื้นเขินและยังไม่เห็นว่าจะมีความสามารถอะไร เมื่อเทียบกับพ่อของเขาคือคิมจองอิลซึ่งแม้ว่าในตอนแรกจะดูไม่มีผลงานแต่ต่อมาก็แสดงออกว่ามีความสามารถ สิ่งที่แตกต่างระหว่างผู้นำสองคนนี้คือคิมจองอิลได้รับการเตรียมการขึ้นเป็นผู้นำถึง 20 ปี ในขณะที่คิมจองอึนได้รับตำแหน่งผู้นำในทันทีเมื่อตอนอายุอยู่ในช่วง 20-30 ปี หลังจากที่เขาใช้เวลาส่วนมากอยู่ภายนอกประเทศทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนนอกสำหรับเกาหลีเหนือและงานทางการเมืองในเกาหลีเหนือก็ไม่ได้ง่ายไปหมดสำหรับเขา

เกาหลีเหนือยังไม่มีการออกประวัติของคิมจองอึนอย่างเป็นทางการทำให้ข้อมูลชีวประวัติของเขาส่วนใหญ่มาจากคนที่หนีออกจากประเทศและคนที่เคยพบเห็นเขานอกประเทศเช่นในโรงเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ บีบีซีระบุว่าคิมจองอึนเคยไปเรียนสวิตเซอร์แลนด์หลังจากนั้นจึงกลับมาเข้ามหาวิทยาลัยการทหารที่เกาหลีเหนือ เขาขึ้นเป็นผู้นำแทนคิมจองอิลที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2554

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญภายนอกเกาหลีเหนือเริ่มจับแบบแผนของนโยบายการต่างประเทศในแบบเกาหลีเหนือได้อย่างหนึ่งคือพวกเขาจะเริ่มแสดงออกด้วยคำพูดให้ตัวเองดูน่ากลัวในเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ฟอสเตอร์คาร์เตอร์กล่าวว่ามีหลายครั้งที่เกาหลีเหนือยุคคิมจองอึนดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบไม่มีเป้าหมาย เช่นครั้งหนึ่งคิมจองอึนต้องการไปเยือนรัสเซียแต่หลังจากนั้นก็ยกเลิก หรือสั่งปิดกั้นไม่ให้คนเข้าไปในย่านนิคมอุตสาหกรรมแกซองโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนในปี 2556 ซึ่งย่านนิคมดังกล่าวอยู่ติดกับพรมแดนเกาหลีใต้ถือเป็นเขตอุตสาหกรรมพิเศษที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ดำเนินการในแผนพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน แต่การปิดกั้นย่านดังกล่าวทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จนทำให้ต่อมาทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันกลับมาเปิดย่านนิคมแกซองอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนืออีกคนหนึ่งคือ ไบรอัน ไมเยอร์ส จากมหาวิทยาลัยดองโซ (Dongseo) ในเมืองปูซาน เกาหลีใต้ กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาการดำเนินการของคิมจองอึนทำได้ไม่ดีเท่ากับพ่อของเขา รวมถึงในเรื่องการจัดการด้านภาพลักษณ์ของตนเองด้วย

ไมเยอร์ส ผู้ที่เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อในเกาหลีเหนือกล่าวอีกว่า ถึงแม้ชาวเกาหลีเหนืออาจจะไม่ได้มองคิมจองอึนในเชิงวิพากษ์วิจารณ์มากเท่ากับคนภายนอก แต่ประชาชนชาวเกาหลีเหนือเองก็ฉลาดกว่าที่พวกเราคิด และคิมจองอึนก็ยังเด็กเกินไปจนทำให้ไม่เข้าใจเรื่องการวางตัวเพื่อให้ดูมีบารมีมากเท่าพ่อของเขา

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่คิมจองอึนโตมาในต่างประเทศทำให้ไม่เข้าใจวัฒนธรรมแบบเป็นทางการของเกาหลีเหนือซึ่งสะท้อนจากลักษณะการรับแขกชาวต่างประเทศอย่างนักบาสเก็ตบอลอเมริกันชื่อเดนนิส รอดแมน ซึ่งดูมีลักษณะสบายๆ แตกต่างจากการรับแขกของผู้นำคนก่อนๆ ที่มักจะแสดงออกเหมือนว่าชาวต่างชาติไม่ได้มีความสำคัญอะไรมาก

 

เรียบเรียงจาก


ข้อมูลเพิ่มเติม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net