Skip to main content
sharethis
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ให้ยุติการควบคุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและการใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง
 
24 มิ.ย. 2558 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ให้ยุติการควบคุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและการใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
แถลงการณ์ให้ยุติการควบคุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและการใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง
 
ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่  7/2557 เรื่องการห้ามชุมนุมทางการเมือง และใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่  3/2558  เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงกำหนดให้การชุมนุมทางการเมืองเป็นความผิดต้องถูกดำเนินคดีในศาลทหาร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกันใช้อำนาจในการควบคุมตัวบุคคลโดยพลการ ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกจำนวนมาก โดยเฉพาะกรณีการจับกุมและตั้งข้อกล่าวหากับนักศึกษาและประชาชนที่จัดกิจกรรมครบรอบหนึ่งปีการรัฐประหารบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครและบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่นที่ผ่านมา
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเห็นว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้นเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ อันเป็นสิทธิเสรีภาพที่บรรดาชนชาวไทยเคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปครองของไทย และเป็นไปตามในข้อ  19 และข้อ 21ของกติการระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและได้รับรองว่า “บุคคลมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นโดยปราศจากการแทรกแซง” และ “สิทธิการชุมนุมโดยสงบย่อมได้รับการรับรอง” แม้เจ้าหน้าที่รัฐจะอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย  แต่กฎหมายซึ่งออกมาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนนั้นต้องเป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิเพียงเท่าที่จำเป็นในระบอบสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น เมื่อปรากฏว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดต่อสาระสำคัญของเสรีภาพในการชุมนุมอย่างรุนแรง รัฐจึงไม่อาจอ้างได้ว่าการจับกุมและดำเนินคดีบุคคลในข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
 
นอกจากนี้ยังปรากฏพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมตัวบุคคลซึ่งไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดใดๆตามกฎหมายไปยังสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประวัติในบันทึกประจำวันของสถานีโดยให้ลงนามรับรองว่าเป็นการเชิญมาโดยสมัครใจในหลายเหตุการณ์โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา อาทิเช่นการควบคุมตัวนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน การควบคุมตัวนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ไปยังสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี หรือล่าสุดในวันนี้ (24 มิ.ย. 58) มีการควบคุมตัวนักศึกษาสามรายจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ซึ่งขัดต่อหลักการจับกุมมาตรา 78  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอันเป็นพฤติการณ์ในการคุกคามการใช้เสรีภาพในการแสดงออกอย่างชัดแจ้ง
 
ด้วยเหตุดังกล่าวศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนขอเรียกร้องให้
 
1.คณะรักษาความสงบแห่งชาติและเจ้าหน้าที่รัฐยุติพฤติการณ์คุกคามการใช้เสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษาและประชาชนซึ่งเป็นการแสดงออกโดยสงบและปราศจากอาวุธ
2.ยุติการดำเนินคดีกับพลเรือนในศาลทหารอันเป็นการใช้กระบวนการยุติธรรมซึ่งขัดต่อหลักความเป็นอิสระและเป็นกลางมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
 
พฤติการณ์ในการคุกคามและการใช้กระบวนการยุติธรรมในการจับกุม การดำเนินคดีในความผิดดังกล่าวนอกจากจะเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนแล้ว ยังไม่สามารถนำมาซึ่งความเป็นธรรมในสังคมซึ่งเป็นพื้นฐานการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคมได้อย่างแท้จริง
 
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net