ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ออกแถลงการณ์ โต้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง พร้อมถามกลับแล้วใครอยู่เบื้องหลังรัฐประหาร

26 มิ.ย. 2558 เวลา 14.30 ณ สวนเงินมีมา มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มนักศึกษาดาวดิน นักศึกษาหน้าหอศิลป์ที่ถูกหมายจับ 9 คน และนักกิจกรรมจากกลุ่มต่างๆ ได้ออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงกรณีที่มีการปล่อยข่าวออกมาเพื่อสร้างความเข้าใจผิดต่อขบวนการประชาธิปไตยใหม่ว่ามีกลุ่มการเมืองเป็นผู้สนันสนุนอยู่เบื้องหลัง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงออกมาชี้แจงดังนี้

“ตามที่มีข่าวว่าเรามีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง เราขอชี้แจงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเราทั้งหมดคือประชาชน ผู้หวงแหนสิทธิ์ และผู้รักประชาธิปไตย ทุกสิ่งที่เราทำเปิดเผยต่อสาธารณะชนทุกประการ 

ตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 24 ถึงวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เราเดินด้วยเท้าเปล่า เราต่อสู้ด้วยมือเปล่า  วันที่ 24 มิ.ย. เราเดินทางมาทำกิจกรรมด้วยรถแท็กซี่ วันที่ 25 เราเดินทางด้วยรถเมล์ ขากลับเรานั่งสองแถว การปราศรัยหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีเพียงโทรโข่งเพียงตัวเดียว มีเพียงกล่องรับบริจาคเพียงใบเดียว และพวกเราใส่กางเกงในตัวเดียวมาสามวันแล้ว เครื่องแต่งกายเราก็แทบไม่ได้เปลี่ยน มีเพียงเสื้อตัวเก่าที่แทบไม่ได้เปลี่ยน รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบเก่าๆ ทั้งเนื้อตัวของผมและเพื่อนมีเพียงเท่านี้

กิจกรรมของกลุ่มที่กลุ่มของเราทำมาโดยตลอด การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ทำมากกว่า 10 ปีที่ชุมชม ที่หมู่บ้าน ที่เราลงไปต่อสู้ด้วย ทุกอย่างได้พิสูจน์ในตัวมันเองแล้ว ข้อกล่าวหาเรื่องเรารับทุนเบื้องหลัง จึงเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นเพียงเกมส์การเมืองสกปรกของพวกท่าน เลิกเถอะครับ มุกแบบสมัยสงครามเย็น สมัย6ตุลาที่มส่ร้ายป้ายสีนักศึกษาคือผู้หลงผิด ประวัติศาสตร์ก็ได้ให้บทเรียนเราแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับ 6 ตุลาที่รัฐพยายามป้ายสีนักศึกษาประชาชนว่าถูกจ้างมา มีเบื้องหลัง ผลคือคนในประเทศออกมาฆ่ากัน ถ้าหากท่านไม่ทราบก็ขอให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ให้ดี

เราอยากให้ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ศึกษาประวัติศาสตร์วิกฤติทางการเมืองไทย ทุกครั้งว่าที่ทหารเข้ามายึดอำนาจด้วยการกระทำรัฐประหาร จุดจบของท่านคืออะไร? เมื่อวานเราได้เดินทางไปยังอนุสรณ์สถาน 3 แห่ง ตั้งแต่ลานประติมากรรม 6 ตุลา อนุสาวรีย์พฤษภา 35 และอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ทุกเหตุการณ์คือวิกฤติทางการเมืองที่คนไทยทุกคนควรจดจำและย้ำเตือนตนเองว่าสุดท้ายแล้วการที่ทหารเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่สวยหรูสักเพียงใด แต่ผลลงเอยท้ายที่สุดมันกลับก่อให้เกิดบาดแผลอันใหญ่หลวงในสังคม ยังไม่นับรวมมรดกแห่งเผด็จการที่ยังทิ้งซากหลงเหลือให้คนรุ่นหลังต้องมาแก้ไขจำนวนมาก

สิ่งที่เราต้องถามกลับพวกท่านมากกว่าคือ คุณหมดงบประมาณไปเท่าไหร่กับการรัฐประหาร? ใครเป็นกลุ่มทุนหนุนหลังพวกท่าน  ใครคือกลุ่มที่หนุนหลังการยึดอำนาจประชาชน? ใครสนับสนุนงบประมาณพวกท่านในการระดมกำลังคอยติดตามพวกเราตลอด?

อีกประเด็นหนึ่ง เรื่องการที่ท่าน ผบ.ทบ.บอกว่าครูบาอาจารย์ สถาบันการศึกษาต้องมีหน้าที่อบรม ไม่ใช่สอน ให้นักศึกษาแสดงออกในทางที่ผิด เราขอยืนยันว่าในประเทสที่เป็นอารยะ เสรีภาพในการแสดงออก  เสรีภาพทางวิชาการเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการศึกษา โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย ฉะนั้นการที่ทหารจะเข้าแทรกแซง สั่งให้อาจารย์สอนนักศึกษาว่าไม่ควรออกมาแสดงความคิดเห็น ย่อมเป็นการขัดแย้งอย่างรุนแรงต่ออุดมการณ์พื้นฐานของการศึกษา

เราทราบดีว่าในระบบของกองทัพ การเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาคือหัวใจสูงสุดแต่ในโลกการศึกษาสามัญแบบโลกสมัยใหม่ในสังคมของปราธิปไตยที่พัฒนาแล้ว การสอนให้เยาวชนมีจิตสำนึก ในการกล้าวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม กล้าแสดงออก คือปัจจัยสำคัญต่อความงอกงามของสติปัญญาของนักกเรียนนักศึกษา หาใช่การเชื่องและการเชื่อฟังนายแบบกองทัพไม่

เราขอย้ำอีกครั้งว่า เราจะต่อสู้ต่อไปด้วยหลักการประชาธิปไตย สิทธิมนายชน ความยุติธรรมการมีส่วนร่วม และสันติวิธีปราศจากความรุนแรง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยปราศจากระบอบเผด็จการ

พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย โปรดส่งกำลังใจมาให้พวกเรา”

หลังจากแถลงการณ์เสร็จ ขบวนการประชาธิปไตยได้ตอบข้อสงสัยต่างๆ ทั้งการประเมินสถานการณ์จากกิจกรรมที่ทำ และยืนยันว่าวันนี้จะไม่มีแผนการเคลื่อนไหวอย่างใด  แต่ยังคงยืนยันเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าหากสมาชิกกลุ่มที่ถูกออกหมายจับถูกเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมตัว แต่การเคลื่อนไหวตามวัตถุประสงค์ของกลุ่มก็จะยังคงดำเนินต่อไป  โดยชี้แจงว่าขบวนการประชาธิปไตยใหม่ไม่มีใครเป็นแกนนำ หรือมีการบังคับบัญชาเป็นลำดับชั้นแต่อย่างใด ต่อให้สมาชิกส่วนหนึ่งถูกจับก็จะยังคงมีการเคลื่อนไหวต่อ

ประเด็นที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาอ้างว่ามีกลุ่มสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ยืนยันว่าไม่มีใครเป็นผู้สนับสนุนทั้งนั้นหากรู้ว่าเป็นใคร ก็ขอให้พลเอกประยุทธ์นั้นพูดมาออกมาเลย ไม่จำเป็นต้องปกปิด

ประเด็นที่มีผู้เข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาต่อรอง  ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ยืนยันในหลักการ าจะไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆทั้งสิ้น และยังยืนยันในหลักการ 5 ประการ ซึ่งรัฐบาลทหารจะต้องลาออกและคืนอำนาจให้แก่ประชาชน

ประเด็นที่มีการตั้งคำถามว่าขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตอนนี้ ต่างจากขบวนการนักศึกษาช่วง 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519   สมาชิกของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ชี้แจงว่าเกิดจากบริบทสังคมที่แตกต่างกัน เนื่องจากสื่อต่างๆ ได้ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น จึงทำให้รูปแบบของการเคลื่อนไหวแตกต่างกัน บริบทสังคมที่ต่าง ก็ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน

ขบวนการนักศึกษาใหม่ได้ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นตนออกมาเคลื่อนไหวในทุกๆรัฐบาล และตั้งแต่เหตุการณ์ น้ำท่วมเมื่อปี 2554 เราก็ออกไปช่วยเหลือ หรือเหตุการณ์คัดค้านนิรโทษกรรมเมื่อปี 2556 ก็ออกมาร่วมด้วย จนถึงเหตุการณ์รัฐประหาร ซึ่งตนมองว่าไม่มีการตรวจสอบการคอรัปชั่นได้ โดยยืนยันว่าระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยคือทางเลือกที่ดีที่สุด

ประเด็นสุดท้ายคือการเลือกข้าง “ขอร้องให้ทุกฝ่ายได้เปิดใจเรื่องการเลือกข้าง เพราะเราได้ข้ามผ่านการเลือกข้างมานานแล้ว อย่ามีอคติ ถ้ามีจะไม่ได้ฟังในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสาร” หนึ่งในสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยกล่าวทิ้งท้าย