เกิดเหตุระเบิดขึ้นต่อเนื่องอีกครั้งในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ล 7 จุด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เบื้องต้นเสียชีวิต 3 เจ็บ 8 ล่าสุดคุมไฟไหม้ได้แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

11 ก.ค. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่า ที่ร้านสมชายอะไหล่ยนต์ ถ.ประชาวิวัฒน์ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นจุดหนึ่งที่คนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ จนเกิดเพลิงลุกไหม้อาคาร 4 ชั้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ จนท.ควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ยังมีกลุ่มควันลอยอยู่ทั่วบริเวณ

 

จากการสำรวจเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้านี้ บรรยากาศเมืองสุไหงโก-ลก คละคลุ้งไปด้วยกลุ่มควันที่เกิดจากการถูกลอบวางระเบิดจนเกิดเพลิงไหม้ 3 จุด จากทั้งหมด 7 จุด โดยเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นใน อ.สุไหงโก-ลก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน เสียชีวิต 3 คน

 

เป้าหมายการก่อเหตุของคนร้ายในครั้งนี้ มีทั้งร้านอาหาร ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และร้านอะไหล่ยนต์ ซึ่งอาคารร้านค้าที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดมี 3 ร้าน ที่คนร้ายลอบวางระเบิดเพลิงจนเกิดเพลิงลุกไหม้อาคาร 3-4 ชั้น เสียหายสิ้นเชิง เนื่องจากทั้งสินค้าภายในร้านเป็นวัสดุติดไฟง่าย

 

นายวรเชษฐ พรมโอภาษ นายอำเภอสุไหงโก-ลก เชื่อว่าเหตุระเบิดในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกจำนวน 7 จุดในครั้งนี้เป็นการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อเหตุไม่สงบ

 

ขณะที่ พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผบช.ศชต. ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมให้กำลังใจกำลังตำรวจที่ปฏิบัติงาน ซึ่ง พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผู้กำกับ สภ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ในขณะนี้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด แต่คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายพื้นที่เศรษฐกิจในช่วงที่การค้าขายกำลังคึกคักในช่วงใกล้ถึงเทศกาลฮารีรายออีดิ้ลฟิตริ

 

ส่วนบรรยากาศในเมืองสุไหงโก-ลก เช้าวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ประชาชนบอกว่าอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งกว่าเศรษฐกิจในพื้นที่จะฟื้นตัวขึ้นมาได้

 

 

 

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 00.10 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดขึ้นต่อเนื่องอีกครั้งในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 4 ลูกซ้อน จุดแรกที่ร้านสมชายอะไหล่ยนต์ เลขที่ 226 ถ.ประชาวิวัฒน์ ซึ่งมีนายสมชาย ลือเดชวุฒิไกร อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของ ระเบิดที่เกิดขึ้นอยู่บริเวณด้านในชั้นล่างของประตูเหล็กทางเข้าร้าน ส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้และลุกลามไปยังสินค้าที่ส่วนใหญ่เป็นทินเนอร์ ถังสี และวัสดุที่ติดไฟง่ายทั้ง 4 ชั้น คาดว่าต้องใช้เวลานานในการดับเพลิง ทำให้ร้านและสินค้าได้รับความเสียหายทั้งหมด

 

นอกจากนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันกับจุดแรกอีก 3 จุด คือ 1.ร้านค้า ถ.ประชาวิวัฒน์ ซอย 1 หรือซอยดาร์ริ่ง 2.ร้านแสงเจริญ ซึ่งอยู่ด้านหลังตลาดสดเก็นติ้ง ส่งผลให้ไหม้ลุกไหม้พร้อมๆ กัน เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจากอำเภอใกล้เคียงกว่า 10 คัน แยกย้ายกันดับเพลิง และต้องใช้เวลาดับเพลิงจนถึงช่วงเช้าเพลิงจึงสงบ ทำให้เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้รับความเสียหายรวมกว่า 10 คูหา ส่วนจุดที่ 4 ที่ร้านคาเธ่ย์ ซึ่งอยู่ใกล้กับ สภ.สุไหงโก-ลก จุดนี้เกิดระเบิดขึ้น แต่เพลิงไม่ไหม้

 

จากการสอบสวนทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีพฤติกรรมและลักษณะใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคนร้ายอาศัยแฝงตัวปะปนกับชาวบ้าน ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล ไปซุกไว้ในกองสินค้าภายในร้าน โดยตั้งเวลาไล่เลี่ยกัน คือช่วงเวลา 00.10 น.

 

โดยในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะสามารถสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้