สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: ด้วยปีกแห่งเสรีภาพ

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขบวนการนักศึกษาฝ่ายประชาธิปไตย ได้จัดงาน “ด้วยปีกแห่งเสรีภาพ” ที่ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยมีการเชิญประชาชนหลายกลุ่มมาทำกิจกรรมร่วมกัน แสดงออกถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น พร้อมให้กำลังใจ 14 นักศึกษาที่ถูกจับกุมตัว และฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในงานนี้ มีการเชิญชวนประชาชนที่มาร่วมงานให้ลงสีรูปนกพิราบ พับนกกระดาษ รวมถึงมีคุกจำลองธรรมศาสตร์. ให้ลองสัมผัสบรรยากาศการถูกจองจำ โดยงานนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดอย่างไม่มีเงื่อนไข

ที่น่าสนใจมาก คือ การแสดงชุด”หมาป่ากับลูกแกะ” ซึ่งเล่าถึงหมาป่าที่บ้าอำนาจ เข้ามายึดพื้นป่า และสถาปนาตัวเองเป็นผู้นำ เมื่อนกพิราบเริ่มตั้งคำถาม กลับถูกจับขัง หมาป่าอธิบายว่าตัวเองไม่ได้อยากมายึดป่า แต่มันจำเป็นเพื่อรักษาความสงบของป่า และโกรธที่หมาป่าที่ปกครองป่าอื่น มากดดันตัวเองเพราะตัวเองจับนกพิราบขัง บทสรุปลูกแกะที่อยู่ป่าเดียวกัน เลยเอาโพสอิทไปปิดปากหมาป่า และเชิญชวนแกะตัวอื่นลุกออกมาต่อต้านอำนาจอธรรมของหมาป่า อำนาจของหมาป่าจึงสิ้นความชอบธรรม

เนื้อหาทั้งหมดของการจัดงานจึงสะท้อนถึงความไม่ชอบธรรมอย่างยิ่งของการรัฐประหาร จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยึดอำนาจการปกครอง ล้มเลิกรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตย แล้วสถาปนาอำนาจตนเองปกครองประเทศ จากนั้น ก็เที่ยวจับกุมคนที่คิดต่างและคนที่ขัดค้านในข้อหาขัดคำสั่งของตัวเอง แล้วนำไปขังคุก อำนาจรัฐเผด็จการของ พล.อ.ประยุทธ์จึงมีลักษณะล่อนจ้อนชัดเจน การคุกคามเสรีภาพทางความคิดของประชาชนกลายเป็นสภาพรูปธรรม สะท้อนภาพที่อัปลักษณ์และอำนาจนิยมของการเมืองไทยปัจจุบัน

ดังนั้น ขบวนการนักศึกษาจึงได้ทำการต่อสู้ เพื่อสะท้อนถึงจิตสำนึกแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตย โดยกลุ่มที่สำคัญคือ กลุ่มดาวดิน ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยของแก่น และมีบทบาทในการต่อสู้ด้านสภาพแวดล้อมและสิทธิชุมชนอยู่แล้ว ร่วมด้วยกลุ่มนักศึกษาในส่วนกลางที่มีบทบาทในการแสดงการคัดค้านรัฐประหารมาหลายครั้ง วิธีการต่อสู้ก็คือใช้รูปการสันติ เน้นการต้านเผด็จการด้วยการแสดงป้ายผ้าและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แต่การเคลื่อนไหวของนักศึกษาเหล่านี้ถูกพิจารณาจากฝ่ายเผด็จการทหารว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อรัฐ จึงได้ทำการจับกุมนักศึกษา 14 คน แล้วใช้อำนาจศาลทหารฝากขังทันที จึงทำให้นักศึกษาที่ปราศจากความผิดต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ

ตั้งแต่แรกที่มีการจับกุม ฝ่ายรัฐบาลเผด็จการพยายามออกข่าวว่า การเคลื่อนไหวของนักศึกษามีเบื้องหลัง นักศึกษาถูกหลอกใช้ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อธิบายว่า นักศึกษาที่เคลื่อนไหว “มีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังแน่นอน” ปรากฏว่า ถูกฝ่ายนักศึกษาถามกลับว่า “ใครอยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหาร” นอกจากนี้ ยังมีประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยจำนวนมากออกมายืนยันว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักศึกษา การใช้ข้อโจมตีเช่นนี้ จึงไม่อาจจะทำลายภาพการต่อสู้ของฝ่ายนักศึกษาได้ แต่กระนั้น จนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังยืนยันในข้ออ้างนี้ โดยกล่าวว่า ตนไม่สบายใจในการใช้กฎหมายกับนักศึกษา ขณะเดียวกันต้องมองอีกแง่มุมหนึ่งว่าพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้น “เป็นกิริยาของเด็กที่บริสุทธิ์หรือไม่ มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ”

นอกจากจะกล่าวหาเรื่องการเคลื่อนไหวของนักศึกษามีเบื้องหลังแล้ว ยังมีความพยายามในการตั้งองค์กรต่อต้าน เช่น มีการจัดตั้งกลุ่มนักเรียน “อาชีวะช่วยชาติ” ได้ออกแถลงการณ์ในวันที่ 30 มิถุนายน เรียกร้องให้กลุ่มนักศึกษาหยุดการเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการ “หากไม่หยุดทำลายความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของชาติ กลุ่มอาชีวะทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าจะออกมาแสดงพลังเพื่อสนับสนุนการทำงานของ คสช.” การเคลื่อนไหวของอาชีวะช่วยชาตินี้ก็ถูกโจมตีว่า จะเป็นการรื้อฟื้นกลุ่มกระทิงแดง และไม่ได้ช่วยให้อำนาจเผด็จการทหารมีความชอบธรรมเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

แต่ความพยายามในการทำลายภาพลักษณ์ในการต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไป เช่น หนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้นำเอาข่าวว่า มี 1 ในนักศึกษาที่ถูกจับกุมคือ พรชัย ยวนยี เคยถูกจับในคดีบ่อนการพนัน และนำมาสู่การเสียดสีว่า “รักประชาธิปไตยต้องเข้าบ่อน” ในข้อนี้ก็สร้างกระแสไม่สำเร็จ เพราะการเล่นการพนันหรือไม่นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย

ต่อมา ก็ได้มีการสร้างกระแสต่อต้านกลุ่มดาวดิน เช่นในวันที่ 30 มิถุนายน กำนันตำบลเขาหลวง จังหวัดเลย นำชาวบ้านจำนวนหนึ่งมายื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดคัดค้านกลุ่มดาวดินและกลุ่มรักษ์บ้านเกิดว่า เป็นคนนอกพื้นที่เข้ามาสร้างความวุ่นวาย จึงขอร้องให้หยุด “อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน”

จากนั้น ในวันที่ 6 กรกฎาคม ก็มีชาวบ้านนามูล ตำบลตูนสาน จังหวัดขอนแก่น นำชาวบ้านมาที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อแสดงการคัดค้านกลุ่มดาวดินที่มาเคลื่อนไหวในกรณีพิพาทการขุดเจาะบ่อก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ของบริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด โดยสร้างความปั่นป่วนและความแตกแยกขึ้นในหมู่บ้าน ชาวบ้านกลุ่มนี้ ได้แสดงป้ายผ้าสนับสนุนรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้บริหารงานเดินหน้าปฏิรูปประเทศและเร่งเกิดการขุดเจาะบ่อก๊าซในพื้นที่ต่อไป

แต่ที่มากกว่านั้นคือ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผอ.ศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความเรื่องเกรดการเรียนของนักศึกษากลุ่มดาวดินว่า เป็นนักศึกษาที่เรียนอ่อน ได้เกรดไม่ถึง 2.00 บางคนก็รีไทร์แล้ว เพื่อจะโจมตีว่า ช่วยตัวเองเรื่องการเรียนยังไม่รอด จะมาเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ปัญหาก็คือ พล.ท.นันทเดชนั้นเคยแสดงทัศนะและท่าทีสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้อยู่ในอำนาจอย่างยาวต่อไป เพื่อปฏิรูปประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องรีบมีการเลือกตั้ง และในกรณีนี้ สุดา รังกุพันธุ์ ก็ได้อธิบายว่า การเอาผลการเรียนมาเผยกันถือเป็น “เรื่องงี่เง่าและแย่มากในหลายมิติ” เพราะการนำเอาผลการศึกษาของผู้อื่นมาเผยแพร่เป็นเรื่องไร้จรรยาบรรณ ยิ่งกว่านั้น ผลการเรียนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ผลการสอบเป็นเพียงการวัดระดับการเรียนรู้ แต่การช่วยเหลือชาวบ้านของกลุ่มดาวดินแสดงให้เห็นว่า เป็นการใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมเสียด้วยซ้ำ

สรุปแล้วการเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีและทำลายภาพลักษณ์ของนักศึกษาถือว่า”จุดไม่ติด” เพราะไม่สามารถจะอธิบายได้เลยว่า เหตุใดการแสดงสัญลักษณ์โดยสันติเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในสังคมไทยจึงกลายเป็นความผิด เหตุใดอำนาจเผด็จการที่ริดรอนเสรีภาพของประชาชนจึงกลายเป็นความถูกต้อง จะมาอ้างกันว่าเป็นแค่ “เผด็จการชั่วคราว” แล้วจะมีความชอบธรรมนั้นคงจะฟังไม่ขึ้น

และอยากจะลงท้ายว่า ในกระแสประวัติศาสตร์โลก การต่อสู้เพื่อเสรีภาพของมนุษย์ชาติ เป็นความชอบธรรมเสมอ

เผยแพร่ครั้งแรกใน: โลกวันนี้วันสุข ฉบับ 522 วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2558
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท