หลังเที่ยวบิน MH370 กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง หายไปจากจอเรดาห์ 16 เดือน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงยอมรับว่าซากชิ้นส่วนที่พบที่ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นชิ้นส่วนของเที่ยวบิน MH370 และกล่าวแสดงความไว้อาลัยต่อผู้สูญเสีย

เส้นทางการบินของเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2557 เท่าที่ตรวจสอบได้ในปัจจุบัน (ที่มา: AHeneen/December 2014/Wikipedia)

6 ส.ค. 2558 - ตามที่มีรายงานข่าวเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 จากกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ปลายทางกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเวลา 00.41 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 โดยกัปตันเป็นผู้ติดต่อกับหอบังคับการบินมาเลเซียเป็นครั้งสุดท้ายในเวลา 01.19 น. ก่อนขาดการติดต่อนั้น

ล่าสุดเมื่อเช้าวันใหม่ของวันที่ 6 ส.ค. เวลา 01.30 น. ตามเวลาประเทศมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิป ราซัก ได้แถลงข่าวที่อาคารบุตราเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ยืนยันว่าซากชิ้นส่วนของเครื่องบินที่พบที่เกาะเรอูนียง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในมหาสมุทรอินเดีย เป็นของเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 ซึ่งหายไปเมื่อ 16 เดือนก่อน

"วันนี้ เป็นวันที่ 515 นับตั้งแต่เครื่องบินสูญหาย เป็นสิ่งที่หนักอึ้งในใจที่ผมต้องบอกท่านว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติได้สรุปยืนยันว่าชิ้นส่วนของอากาศยานที่พบที่เกาะเรอูนียงแท้จริงแล้วเป็นของ MH370 ในเวลานี้เรามีหลักฐานรูปธรรม ตามที่ผมได้ประกาศเมื่อวันที่ 24 มีนาคมปีก่อน ว่าเที่ยวบิน MH370 ได้ยุติการบินลงอย่างน่าเศร้าทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย" นาจิปกล่าวตอนหนึ่งในการแถลงข่าว

นอกจากนี้เขายังกล่าวขอบคุณทุกชาติ ทุกองค์กร และทุกคนที่เข้าร่วมในปฏิบัติการค้นหา นาจิปกล่าวด้วยว่าเขาจะทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมนี้ได้รับความเชื่อมั่น ว่ารัฐบาลมาเลเซียมีพันธะที่จะทำทุกสิ่งด้วยวิถีทางของรัฐบาลที่สืบหาข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น การหายสาปสูญของ MH370 ถือเป็นส่วนหนึ่งของชาติ และขอแสดงความไว้อาลัยในฐานะที่เป็นส่วนของชาติด้วย

"และผมขอสัญญากับท่านว่า มาเลเซียจะยังคงจดจำและสดุดีต่อผู้ที่สูญเสียบนเที่ยวบิน MH370" นาจิปกล่าว ทั้งนี้คำแถลงของเขาได้รับการเผยแพร่ในเฟซบุ๊คของเขาด้วย (อ่านรายละเอียด)

แผนที่แสดงจุดที่เรดาห์กองทัพมาเลเซียตรวจพบอากาศยาน MH370 เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเวลา 02.22 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 8 มีนาคม 2557 และจุดที่พบชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่เกาะเรอูนียง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ทางด้านตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย (ที่มา: ดัดแปลงจาก GoogleMaps)

ทั้งนี้หลังจากเที่ยวบิน MH370 ออกจากน่านฟ้าประเทศมาเลเซีย หอบังคับการบินโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม พยายามติดต่ออากาศยานดังกล่าวในเวลา 01.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซีย แต่ได้ยินเสียงตอบกลับเป็นเสียงพึมพัมและสัญญาณวิทยุ และอากาศยานเริ่มขาดการติดต่อ โดยเรดาห์ของกองทัพมาเลเซียตรวจพบอากาศยานดังกล่าว เมื่อเวลา 02.22 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยพิกัดสุดท้ายอยู่ห่างจากเกาะปีนังไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 370 กม. ในทะเลอันดามัน ละติจูดที่ 6 องศา 49 ลิปดา 38 ฟิลิปดาเหนือ ลองติจูดที่ 97 องศา 43 ลิปดา 15 ฟิลิปดาตะวันออก (ดูแผนที่) ขณะที่สัญญาณตอบรับอัตโนมัติจากเครื่อง ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.19 น. 37 วินาที

ต่อมาหลังการหายสาปสูญกว่า 16 เดือน เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา มีชิ้นส่วนที่เชื่อว่าเป็นส่วนปีกด้านขวาของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับเครื่องบินของเที่ยวบิน MH 370 ลอยมาติดชายฝั่งของเกาะเรอูนียง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย โดยมีการนำไปตรวจสอบที่ตูลูส ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้เพรียงที่มาเกาะอย่างหนาแน่นที่ชิ้นส่วนดังกล่าว ยังทำให้สันนิษฐานได้ว่าชิ้นส่วนดังกล่าวอยู่ในทะเลมานานกว่า 1 ปี

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา อัสฮารุดดิน อับดุล ระห์มาน อธิบดีกรมการบินพลเรือนแถลงออกอากาศทางโทรทัศน์ในนามของรัฐบาลมาเลเซีย โดยประกาศอย่างเป็นทางการว่าเที่ยวบิน MH370 ประสบอุบัติเหตุ และผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดเสีย 239 ราย ชีวิต โดยเป็นการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรืออนุสัญญาชิคาโก

สำหรับเครื่องบินดังกล่าว มีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 239 ราย 14 สัญชาติ ประกอบด้วยผู้โดยสารสัญชาติ จีน/ไต้หวัน 154 ราย มาเลเซีย 8 ราย อินเดีย 5 ราย อินโดนีเซีย 7 ราย ออสเตรเลีย 6 ราย ฝรั่งเศส 4 ราย อเมริกัน 3 ราย นิวซีแลนด์ 2 ราย ยูเครน 2 ราย แคนาดา 2 ราย รัสเซีย 1 ราย อิตาลี 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย ออสเตรีย 1 ราย