Skip to main content
sharethis

สนช. พิจารณารับร่างหลักการวาระที่ 1 ร่าง กม. ใช้เครื่องติดตามตัวผู้ต้องหาระหว่างประกันตัว หวังกันหลบหนี หากพยายามถอดจะรู้ทันทีว่าพยายามหลบหนี วิษณุ เชื่อไม่ใช่การประจาน เพราะเครื่องติดตามรูปร่างคล้ายนาฬิกาข้อมือ

6 ส.ค. 2558 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า  ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพีระศักดิ์ พอจิตรองประธาน สนช. คนที่ 2 เป็นประธาน ได้มติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในวาระที่ 1 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา

ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจง หลักการและเหตุผลว่า เป็นการเสนอให้มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรืออีเอ็ม (Electronic Monitoring - EM) เพื่อรองรับในอนาคตเพื่อติดตามหรือจำกัดการเดินทางของผู้ถูกปล่อยตัวชั่ว คราว โดยอุปกรณ์เป็นสายรัดลักษาณะคล้ายนาฬิกาข้อมือได้ถูกพัฒนาขึ้นใช้กับนักโทษ หรือผู้ต้องขังตามคำพิพากษา ซึ่งปัจจุบัน กรมควบคุมการประพฤติได้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกว่า 3,000 เครื่อง จึงได้เสนอให้นำมาปรับใช้กับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้รับการประกันตัวให้ ปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อห้ามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน และเพื่อสามารถติดตามจับกุมตัวหากเกิดการหลบหนี ซึ่งยอมรับว่าเกิดความไม่สะดวกแก่ผู้ใช้งาน จึงต้องอาศัยความยินยอมบังคับตามกฎหมาย โดยมีเงื่อนไขที่ศาลหรือเจ้าหน้าที่เห็นควรว่าต้องใช้ หรือผู้ต้องหาจำเลยได้ยินยอม แต่หากมีการพยายามทำลายหรือส่อเจตนาทำลาย ก็ให้สันนิษฐานว่าส่อเจตนาหลบหนีและมีผลให้ศาลสามารถริบเงินประกันตัวแล้ว เรียกตัวกลับเข้ามาคุมขังได้

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังจะช่วยแก้ปัญหาการเรียกเงินประกันเกินสมควรหากยินยอม ให้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวและเพื่อลดปัญหาผู้ยากจนไม่มีเงิน ประกันตัวจนกลายเป็นผู้ยากจนถูกควบคุมตัวทุกกรณีไปและเสียโอกาสได้รับการ ปล่อยตัวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิก สนช.ได้อภิปรายสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ว่าเพื่อลดปัญหานักโทษล้นคุก และผู้ต้องหาสามารถที่มีภาระครอบครัวสามารถกลับมาดูแลครอบครัวได้ อีกทั้งยังเป็นการลดจำนวนผู้ต้องหาล้นคุกได้ ขณะเดียวกันมีข้อห่วงใยว่าจะใช้กับบุคคลประเภทใด รวมถึงถ้าใช้กับเด็กและเยาวชน จะไม่เหมาะสม และหากใช้เครื่องนี้ติดกับผู้ต้องหาที่ถูกปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะกลายเป็นการประจานบุคคล นอกจากนี้จะเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือไม่

โดยนายวิษณุ ชี้แจงอีกครั้งว่า อุปกรณ์อีเอ็มนี้ใช้เฉพาะการติดตามตัวผู้ต้องหาเท่านั้นว่าอยู่ที่สถานที่ใด ไม่ได้ดูผู้ต้องหาทุกวินาที หากผู้ต้องหาทำลายหรือปลดอีเอ็มออก ก็จะรู้ทันทีว่าผู้ต้องหาหลบหนี ส่วนที่กังวลว่าจะเป็นการประจานนั้น อุปกรณ์นี้ในร่างพ.ร.บ.เขียนว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวหรืออุปกรณ์ อื่นใดสามารถถูกปรับเปลี่ยนพัฒนารูปทรงของอุปกรณ์ให้ทันสมัยและมีขนาดเล็กลง ได้ จนไม่เป็นที่สังเกตได้ว่าเป็นอุปกรณ์ตามตัวผู้ต้องหา แต่หลักการสำคัญคือการใช้อุปกรณ์นี้ผู้ต้องหาต้องยินยอม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net