Skip to main content
sharethis

นายก อบต.สำโรงปราสาท เดินหน้าโครงการขุดลอกคลองรอบพื้นที่พิพาท ยันมติที่ประชุมพีมูฟกับปลัดสำนักนายกฯ 7 ต.ค.57 ให้ชะลอโครงการมีผลปีเดียว ด้านสมาชิก อบต.เผย มีการเตรียมออก นสล.ทับที่ดินชาวบ้าน

18 ส.ค.2558 เมื่อวานนี้ มนูญ พรหมมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงปราสาท อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาตำบล โดยที่ประชุมประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ทั้งนี้ นายก อบต.แจ้งต่อที่ประชุมว่า งบประมาณปี 2559 มีมติอนุมัติให้ขุดคลองในที่ดินของราษฎร และพร้อมที่จะดำเนินการ จะไม่ยอมถอยให้กลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนอีกต่อไป

นางฉวี มณฑล สมาชิก อบต.สำโรงปราสาท หมู่ที่ 13 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14  ส.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านชุมชนหนองตาเปียง (กรณีพื้นที่พิพาทสาธารณประโยชน์โคกป่าแดง) มารวมตัวกันที่สภา อบต.สำโรงปราสาท เพื่อคัดค้านการตั้งงบประมาณขุดคลองสาธารณะในที่ดินกรณีปัญหาดังกล่าว พร้อมกันนี้ เธอได้ยื่นเสนอแปรญัตติให้ตัดโครงการขุดลอกคลองออก โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลมีนโยบายชะลอการดำเนินคดีและชะลอการขุดลอกคลอง ตามมติการประชุม เมื่อ 7 ต.ค.2557 ระหว่างขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) กับสำนักปลัดสำนายกรัฐมนตรี ที่ ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล เป็นประธาน อีกทั้งโครงการดังกล่าวไม่มีในแผนพัฒนาหมู่บ้าน ดังนั้น นายกฯ อบต.จะนำมาทำเป็นข้อบัญญัติไม่ได้ ขณะเดียวกันนายก ฯ อบต.ให้เหตุผลว่า มติเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2557 นั้น สามารถใช้ได้เพียงปีเดียว ซึ่งปีนี้อยู่ในส่วนการตั้งงบประมาณของปี 2559 ที่จะมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่จะถึงนี้

นางฉวี กล่าวต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงปราสาท นำร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 โดยเสนอโครงการขุดคลองรอบที่สาธารณประโยชน์โคกป่าแดง (พื้นที่พิพาทที่ราษฎรอาศัยอยู่) นอกจากนี้ ยังทำหนังสือถึงนายอำเภอและที่ดินอำเภอเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) ทับโฉนดที่ดิน และ ส.ค.1 ของชาวบ้าน ที่ยังไม่ออก นสล. เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างจังหวัด/อำเภอ ทำหนังสือประสานอธิบดีกรมที่ดินเพื่อเพิกถอนโฉนดและออก นสล. ซึ่งก่อนหน้านั้น เมื่อ 30 มิ.ย.2558 นายก อบต.สำโรงปราสาทรวมทั้งนายอำเภอปรางค์กู่ ได้มีหนังสือถึงที่ดินอำเภอปรางค์กู่ เพื่อขอให้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงทับที่ดินโฉนด และที่ดิน สค.1 ซึ่งเป็นที่ดินของชาวบ้านที่ยังไม่เพิกถอน ปัจจุบันอยู่ระหว่างประสานอธิบดีกรมที่ดินเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.)

“ปัญหาเริ่มก่อตัวขึ้น เกิดจากความพยายามที่จะออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง โดยช่วงนั้นได้มีหนังสือคำสั่งอำเภอที่ 357/2539 แต่งตั้งคณะกรรมการชี้แนวเขต โดยได้ทับรวมเอาที่ดินทำกินของชาวบ้านและที่มีเอกสารสิทธิเข้าไปด้วย ทั้งที่ได้มีการวัดแนวเขตร่วมกัน และปักเสารั้วเป็นที่ชัดเจน และชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาแต่สมัยบรรพบุรุษ จนบางพื้นที่ได้มีการออกเอกสารสิทธิให้แล้ว นอกจากนี้เมื่อปี 2551ยังได้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านได้ถือครองประโยชน์ทำมาหากินมาแต่ก่อน ต่อมาได้อาศัยช่วงหลังการทำรัฐประหาร โดยคำสั่ง คสช.ที่ 64 /57  เข้ามาทำการขับไล่ชาวบ้านให้ รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง และอพยพออกจากพื้นที่ แม้กระบวนการแก้ไขปัญหาชาวบ้านจะร่วมกันผลักดันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม กระทั่งมีมติ ให้ชะลอการไล่รื้อและยุติดำเนินการใดๆ ที่จะก่อให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ ตามมติที่ประชุมระหว่างพีมูฟกับสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี มาถึงวันนี้ นายก อบต.กลับมีท่าทีแข็งกร้าว ไม่ยอมฟังเสียงใดๆ ในกระบวนการแก้ไขปัญหา รวมทั้งไม่ยอมฟังเสียงของผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อน จึงอยากขอให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงมาดูพื้นที่ ร่วมกันแก้ไขปัญหาตามนโยบาย ที่มีมติร่วมกันก่อนต่อหน้านี้” สมาชิก อบต.สำโรงปราสาท กล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net