25 ส.ค. 2558 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต่อสถานการณ์การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และกระแสเรียกร้องให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญของนักการเมือง

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องการเมืองโดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูป ซึ่งในวันที่ 6 ก.ย.นี้ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญของ สปช. จะผ่านหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ เป็นเรื่องการโหวตของสปช. สัปดาห์ก่อน ตนได้ไปรับพิมพ์เขียวของสปช.แล้ว หากร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน คณะกรรมการขับเคลื่อนที่ตั้งขึ้นมา 200 คนก็จะนำ เรื่องของพิมพ์เขียวนี้มาดูว่าสิ่งไหนทำได้ไม่ได้ หรือจะต้องมีเพิ่มเติม หรือจะต้องนำออกบางส่วน เขาจะพิจารณาเอง และต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วย เพราะต้องออกเป็นกฎหมายว่าจะต้องปฏิรูปอะไรบ้าง

ต่อกรณีนักการเมืองออกมาเสนอให้สปช. คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาไม่มีสิทธิ์มาเสนอใคร และเขามีสิทธิ์เสนอหรือ สื่อจะไปขยายความให้เขาทำไม เขามาเกี่ยวข้องอะไรกับกระบวนการในวันนี้หรือ นักการเมืองไม่เกี่ยวนะ ที่ให้พูดนี่ก็เก่งแล้ว ปกตินั้นไม่ควรให้พูดอยู่แล้ว พวกมีคดีหลายคนออกมาพูดไม่กลัวอะไรกันเลย คดีความก็มีเยอะแยะไปหมดกลับไม่กลัวอะไรสักอย่าง

ต่อคำถามที่ว่าต้องห้ามนักการเมืองออกมาพูดหรือแสดงความเห็นกับการลงมติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ถึงต้องห้าม แต่เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวตนจัดการเอง วันนี้ต้องสอนให้ประชาชนคิด ทำไมต้องให้ใครมาชี้นำ ทุกวันนี้ตนก็พูดสร้างความเข้าใจ เบื่อบ้างไม่เบื่อบ้างก็แล้วแต่ท่าน แต่ถ้าทนฟังหน่อยก็จะเข้าใจว่า ตนต้องการอะไรและกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้าไม่ฟังกันมันก็จบ เช่นเดียวกัน ถ้าคนพวกนี้มาพูดแล้วท่านไม่ฟัง มันก็จบจะให้เขาพูดอยู่ทำไม

“หลายคนบอกว่าจะไม่ลงเลือกตั้ง ก็ดีสิ ก็อย่าลงมาแล้วกัน หลายคนบอกจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ดูไอ้คนเหล่านี้ มันจะไม่ลงจริงหรือเปล่า ฉะนั้นอย่ามาพูดขัดแย้งกับผม วันหน้าจำคำพูดตัวเองเอาไว้ ว่าจะไม่ลงรับเลือกตั้ง ใครก็แล้วแต่บันทึกเอาไว้ด้วย ในประวัติศาสตร์ พูดแล้วต้องทำตามนั้น ผมไม่ได้ขัดแย้ง โดยโร้ดแม็ปก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

กกต. เตือน รณรงค์ชี้นำประชามติรธน. ถือว่าขัดคำสั่งคสช.

วันเดียวกัน(25 ส.ค.58) มติชนออนไลน์ รายงานของ ศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) หลังการประชุมการหารือเพื่อทำประชามติ ซึ่ง ศุภชัย กล่าวว่า หาก สปช. รับร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนต่อจากนั้น สปช.จะต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญพร้อมประเด็นคำถามประชามติอื่น นอกจากรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เช่นกัน ซึ่งครม.จะพิจารณาว่าจะใช้คำถามไหนหรือจะไม่เอาคำถามใดเลย หากไม่มีคำถามอื่นจะเหลือเพียงคำถามว่าจะรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ในที่ประชุมไม่มีการพูดถึงคำถามประชามติอื่น เพียงแต่พูดถึงความพร้อมในการจัดทำประชามติว่าได้เตรียมการอะไร ไปถึงไหน

ศุภชัย กล่าวว่า สำหรับวันที่จะประกาศทำประชามตินั้น จากเดิมที่กำหนดไว้ในช่วงวันที่ 10 มกราคม 59 สามารถขยับได้ ขึ้นอยู่กับว่าสามารถส่งร่างรัฐธรรมนูญได้ร้อยละ 80 จากครัวเรือนทั้งหมด หรือประมาณ 13.3 ล้านครัวเรือน จากครัวเรือนทั้งหมดมี 16.58 ล้านครัวเรือนเมื่อใด เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าการทำประชามติจะเกิดขึ้นหลังแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญครบตามกำหนดไปแล้วภายในระยะเวลา30-45 วัน ซึ่งส่วนนี้คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเราจะทยอยส่งไป ส่วนเรื่องงบประมาณที่กำหนดไว้ 3,000 ล้าน คาดว่าจะมีขยับขึ้นนิดหน่อยตามเนื้องาน แต่เราจะใช้งบประมาณอย่างประหยัดที่สุด ซึ่งรัฐบาลพร้อมในส่วนนี้ และเรื่องกระดาษและโรงพิมพ์ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน และบุคลากรประจำหน่วยก็มีความพร้อม

แต่เรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลรักษาความปลอดภัย จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไม่มีเจ้าหน้าทีทหารเลย ส่วนเรื่องรณรงค์ชี้นำการลงประชามตินั้นไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้หากมีกลุ่มคนกลุ่มใดออกมารณรงค์เรื่องประชามติ ก็จะขัดต่อประกาศ คสช.ฉบับที่ 7 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมือง