Skip to main content
sharethis

เกิดข้อถกเถียงจากความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐผู้ไม่ยอมออกทะเบียนสมรสให้กับคู่รักเพศเดียวกัน ทำให้ศาลสั่งขัง จนท.เพราะขัดคำสั่งศาล ด้านคนรักเพศเดียวกันกังวลว่าการลงโทษที่รุนแรงจะส่งผลให้เกิดการต่อต้านการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2558 สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์นำเสนอข้อโต้แย้งครั้งใหม่เกี่ยวกับการตัดสินของศาลในประเด็นเรื่องการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกัน หลังจากที่คิม ดาวิส ปลัดเทศมณฑลโรแวน รัฐเคนทักกี ถูกศาลสั่งกุมขังในข้อหาละเมิดคำสั่งศาลจากการที่เธอไม่ยอมออกทะเบียนสมรสให้กับคู่รักเพศเดียวกัน

ศาลเสนอว่าจะปล่อยตัว คิม ดาวิส หากเธออนุญาตให้ผู้รักษาการแทนทำหน้าที่ออกใบทะเบียนสมรสให้กับคนรักเพศเดียวกัน แต่ดาวิสก็ยังคงปฏิเสธไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นและยืนยันจุดยืนทางความคิดของเธอแม้จะทำให้เธอถูกกุมขังต่อไป

ตั้งแต่เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ตัดสินให้การแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฎหมายในทุกรัฐของสหรัฐฯ โดยอ้างมาตรา 14 ของบทแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยพลเมืองทุกคนได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม แม้ว่าจะมีกระแสความไม่พอใจบางส่วนโดยเฉพาะในหมู่ผู้เคร่งศาสนา

ผู้พิพากษา เดวิด แอล บันนิง จากศาลแขวงสหรัฐฯ อธิบายว่าศาลไม่สามารถไม่เอาผิดกับการจงใจไม่เชื่อฟังคำสั่งศาลได้ นอกจากนี้เขายังได้รับฉันทามติจากผู้รักษาการแทนดาวิสทั้ง 5 คน ว่าจะมีการออกทะเบียนสมรสให้กับคู่รักเพศเดียวกันต่อไป

อย่างไรก็ตาม การที่ดาวิสถูกกุมขังกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านคำสั่งศาลในเรื่องการอนุญาแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันโดยเฉพาะในหมู่ชาวคริสต์อนุรักษ์นิยม นักการเมืองอนุรักษ์นิยมบางส่วนก็ฉวยโอกาสนี้วิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาล เช่น เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัส พรรคริพับลิกันวิจารณ์ว่า การตัดสินนี้เป็น "ความเผด็จการ" ของศาล

ฝ่ายกลุ่มคนรักเพศเดียวกันเองก็แสดงความกังวลว่าการคุมขังดาวิสว่าจะทำให้เธอกลายเป็นตัวแทนฝ่ายศาสนาที่ดูน่าเห็นใจและอาจจะทำให้นักการเมืองในเคนทักกีหรือที่อื่นๆ ผลักดันให้มีกฎหมายงดเว้นให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งต่อต้านการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกัน ฝ่ายคู่รักเพศเดียวกันที่ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รายนี้เองก็บอกว่าคำตัดสินของศาลไปไกลเกินกว่าความต้องการของพวกเชา ทนายความของคู่รักรายนี้ต้องการเรียกร้องแค่มีการปรับเธอเท่านั้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่ามันเป็นเรื่องของหลักนิติธรรม โจส เอิร์นเนสต์ โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเขายังไม่ได้ปรึกษาเรื่องคำตัดสินกรณีดาวิสกับประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า แต่ตัวเขาเองมองว่าดาวิสไม่ควรขัดคำสั่งศาลสูงสุด

"เจ้าหน้าที่ทุกคนในระบอบประชาธิปไตยของพวกเราต้องอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม" เอิร์นเนสต์กล่าว "ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย รวมถึงประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และรวมถึงปลัดประจำเทศมณฑลโรแวน รัฐเคนทักกีด้วย"

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาที่ซับซ้อนอย่างเรื่องขอบข่ายอำนาจของผู้พิพากษาและการบังคับใช้กฎหมายของรัฐเคนทักกี โดย อดัม วิงกเลอร์ ศาตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าวว่าคดีขัดคำสั่งศาล (civil contempt) ไม่ควรจะมีลักษณะลงโทษอย่างหนัก แต่ควรจะบีบให้บุคคลเชื่อฟังคำสั่งศาล ถ้าหากการกักขังดาวิสไม่ทำให้เธอยอมทำตามคำสั่งได้ก็ควรจะปล่อยเธอออกมา

ขณะเดียวกันนิวยอร์กไทม์ระบุว่าตัวผู้พิพากษาบันนิงเองก็มีทางเลือกไม่มากนัก นอกจากการกุมขังแล้วก็มีทางเลือกคือการสั่งปรับหรือการกักขัง ซึ่งบันนิงกล่าวว่าการสั่งปรับจะไม่ทำให้ดาวิสยอมปฏิบัติตามคำสั่งได้ ส่วนวิลเลียม ชาร์ป ทนายความของคู่รักเพศเดียวกันก็กล่าวถึงคดีนี้ว่า มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเสรีภาพในการนับถือศาสนาไม่สามารถนำมาใช้เป็น "ดาบ" ของรัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐในการบงการความเชื่อทางศาสนาหนึ่งๆ ต่อคนอื่นได้

 

 

เรียบเรียงจาก

Clerk in Kentucky Chooses Jail Over Deal on Same-Sex Marriage, The New York Time, 03-09-2015

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net