ศาลฎีกาออกหมายจับ ธนู หินแก้ว จำเลยคดีจ้างฆ่า เจริญ วัดอักษร แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก-หินกรูด เหตุไม่มาฟังคำพิพากษา พร้อมนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 13 ต.ค. นี้

10 ก.ย. 2558 ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีจ้างวานฆ่า นายเจริญ วัดอักษร แกนนำชาวบ้านกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าบ่อนอก-หินกรูด ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ซึ่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นายเสน่ห์ เหล็กล้วน , นายประจวบ หินแก้ว มือปืน , นายธนู หินแก้ว ซึ่งเป็นทนายความในคดีนี้ด้วย , นายมาโนช หินแก้ว ส.จ.ประจวบคีรีขันธ์ , นายเจือ หินแก้ว อดีตกำนัน ต.บ่อนอก เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรงไว้ก่อน ร่วมกันจ้างวานผู้อื่น และพ.ร.บ.อาวุธปืนและกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490

โดยศาลกีฏาได้เลื่อนอ่านคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยที่ 5 ไม่มารับฟังคำพิพากษาของศาล โดยให้ทนายนำใบรับรองแพทย์มายื่นต่อศาล ส่วนจำเลยที่ 3 ไม่มารับฟังคำพิพากษาโดยไม่แจ้งเหตุผล โดยศาลฎีกาได้ออกหมายจับจำเลยที่ 3 ในวันนี้ และนัดจำเลยทั้งหมดมาฟังคำพิพากษาฎีกา วันที่ 13 ตุลาคม

ด้านน.ส.กรอุมา พงษ์น้อย ภรรยาของนายเจริญ วัดอักษร พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ราว 20 คนเดินทางมาเข้าฟังคำพิพากษาศาลฎีกาตั้งแต่เช้ามืดเตรียมตัวเดินทางกลับ ทันทีโดย น.ส. กรอุมากล่าวว่าเป็นที่คาดหมายได้ว่าอาจจะเกิดเหตุเช่นนี้ แต่ก็จะเดินทางมาฟังคำพิพากษาอีกครั้งตามที่ศาลนัดวันที่ 13 ตุลาคม

ทั้งคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อ 30 ธ.ค.2551 ให้ประหารชีวิต นายธนู หินแก้ว จำเลยที่ 3 ฐานจ้างวาน ส่วนจำเลยที่ 4-5 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานนำสืบไม่ชัดเจน ต่อมานายเสน่ห์จำเลยที่ 1 และนายประจวบจำเลยที่ 2 กลุ่มมือปืนได้เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำ

นายธนูจำเลยที่ 3 ยื่นอุทธรณ์ โดยระหว่างอุทธรณ์คดีได้รับการประกันตัว ขณะที่อัยการโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4-5 ด้วย และในวันที่ 15 มีนาคม 2556 ศาลอุทธรณ์ตัดสินแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ยกฟ้องจำเลยโดยระบุว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอให้เอาผิดจำเลยได้

เรียบเรียงจาก BBC Thai , เดลินิวส์ ออนไลน์