เพื่อไทยไม่หวั่นสูตรพิสดารวิษณุพรรคใหญ่ตั้งใหม่ เผยโดนยุบหลายครั้งแต่ขอเป็นประชาธิปไตย

19 ก.ย. 2558 หลังจากวานนี้(18 ก.ย.58) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่ จาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย เสนอสูตร 3 -3-,3-2 เพื่อร่นระยะเวลาร่างรัฐธรรม(อ่านรายละเอียด) ว่า สูตรร่างรัฐธรรมนูญเดิมเป็นเพียงวางกรอบเท่านั้น หากจะปรับลดก็สามารถทำได้ แต่ต้องหารือกับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กกต. และ สนช.ก่อน เพราะขั้นตอน 4 เดือนสุดท้าย จะแบ่งสำหรับจัดการเลือกตั้ง 3 เดือน และประกาศใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีก 1 เดือน ซึ่งหากลดเวลาการเลือกตั้ง เหลือ 2 เดือนจาก 4 เดือน นั้น คงเพียงพอสำหรับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องดูเนื้อหาของรัฐธรรมนูญใหม่ก่อน ว่ากำหนดรูปการลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างไร เพราะไม่ทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะพิสดารหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะพิสดารอย่างแน่นอน เพราะกฎหมายพรรคการเมือง ก็จะต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคการเมืองขนาดเล็กด้วย

เชื่อว่าพิสดาร ‘เพื่อไทย-ปชป.’ อาจต้องจดทะเบียนใหม่เพื่อความเป็นธรรมพรรคขนาดเล็ก

“ที่เชื่อว่าพิสดาร เพราะกฎหมายพรรคการเมืองต้องเขียนตามรัฐธรรมนูญ และไม่แน่ว่าอาจต้องจดจัดตั้งพรรคการเมืองกันใหม่ ซึ่งเมื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรคการเมือง แต่ไม่ทราบว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะออกมาอย่างไร วิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าจะเกิดความพิสดารแล้วทำให้พรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ อาจจะต้องจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่นั้นแปลว่าอะไร วิษณุ กล่าวว่า ไม่บอก แต่พูดเผื่อไว้ เพราะกฎหมายพรรคการเมืองจะต้องเขียนตามรัฐธรรมนูญ เรายังไม่รู้ว่ารัฐธรรมนูญจะเขียนอย่างไร อย่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ บวรศักดิ์ อุวรรณโน อดีตประธาน กมธ.ยกร่างฯ ถ้าได้ใช้บังคับ กฎหมายพรรคการเมืองก็ต้องออกใหม่และเป็นคนละเรื่องกับกฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบัน แล้วฉบับที่ออกมาใหม่นั้น จะไม่กำหนดหรือ เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะออกมาต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรค ในการกำหนดใด ๆ บางอย่าง เพราะฉะนั้นการที่จะบอกว่าพอประกาศใช้กฎหมายลูกแล้วอีก 7 วันเลือกตั้งกันเลย อย่างที่มีคนพูด นั่นก็คือการเอื้อให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วได้เปรียบ ซึ่งในทางการเมืองจะยอมอย่างนั้นไม่ได้ เพราะต้องเปิดโอกาสให้กับทุกคน ทุกพรรค ส่วนการที่จาตุรนต์ ระบุว่า ให้เลือกตั้งภายใน 45 วันนั้น หากเป็นการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ สามารถทำได้ เลือกตั้งระบบเดิม แต่การเลือกตั้งคราวต่อไปหลังจากที่ประเทศว่างเว้นการเลือกตั้งมาหลายปี และพรรคการเมืองหยุดทำกิจกรรมมานานหลายปี การจะฟื้นกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้งก็ต้องอย่าลืมว่านี่คือการตั้งผู้แทนราษฎร การตั้งรัฐบาล ดังนั้นต้องให้โอกาสคนใหม่ที่เขายังไม่เคยได้เข้ามามีโอกาสด้วย

เมื่อถามย้ำว่า หากจะเกิดความพิสดารอย่างนั้น แสดงว่าทุกคนจะต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดเลยใช่หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า คงไม่ เพราะบางพรรคมีทุนเดิมอยู่ก็ใช้ได้ มีสมาชิกพรรคอยู่ก็เอามาได้ แต่สำหรับพรรคใหม่ ไม่มีสมาชิกเลยแม้แต่คนเดียว ก็ต้องมาหาสมาชิก เพียงแค่กรอกแบบฟอร์มก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เพราะฉะนั้น 2 พรรคใหญ่ จะได้เปรียบ แต่จะเอาเปรียบทั้งหมดไม่ได้ จะต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นเขาบ้าง เพราะคุณมีต้นทุนอยู่บ้างแล้ว ก็ต้องเผื่อคนที่ไม่มีต้นทุนด้วย แต่จะเอาต้นทุนทั้งหมดมาใช้ 100% คงไม่ได้ ต้องมีอะไรบางอย่างที่ต้องทำเพิ่มเติม

(ที่มา : สำนักข่าวไทย, 18 ก.ย.58 และ เดลินิวส์, 18 ก.ย.58)

‘สุรพงษ์-วรวัจน์ เพื่อไทย’ เผยพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีปัญหา เพราะโดนยุบมาหลายครั้งแล้ว

หลังจากที่วิษณุเสนอสูตรพิสดาร โดยคาดว่ารัฐธรรมนูญใหม่อาจมีการกำหนดให้พรรคใหญ่จดทะเบียนใหม่เพื่อความเป็นธรรมพรรคขนาดเล็กนั้น ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาจากทั้งฝั่งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์

วันนี้(19 ก.ย.58) สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนี้ด้วยว่า “ทำอะไรก็ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่ายเสียที บ้านเมืองจะได้ก้าวไปข้างหน้าแบบมาตรฐานเดียวกัน พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีปัญหาอะไร วันนี้เอาไงเอากัน เราผ่านอะไรมามาก ประสบการณ์และบทเรียนต่างๆทางการเมืองก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เรายินดีน้อมรับกฎกติกามารยาทที่เป็นกลางและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  อยากเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้เป็นฉบับที่ดีที่สุดในสายตาคนไทยและประชาคมโลกในฝากฝั่งที่เป็นประชาธิปไตย”

วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  เรื่องยังไม่ได้มีการหารือกันในพรรคว่าหากเกิดขึ้นจริงจะทำอย่างไร แต่คิดว่าสำหรับพรรคเพื่อไทยแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราผ่านการยุบพรรค การจัดตั้งพรรคใหม่มาแล้วหลายครั้ง ผู้คุมอำนาจจะทำอย่างไรก็ขอให้ทำกติกาให้ถูกต้อง เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย แต่เรื่องนี้หากเกิดขึ้นจริงคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์คงได้รับผลกระทบมาก เพราะเขาถือว่าเป็นพรรคเก่าแก่

อย่างไรก็ตามในฝั่งพรรคเพื่อไทยนั้นยังมีความเห็นที่หลากหลาย เช่น ชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า พรรคยังไม่ได้หารือกัน แต่ส่วนตัวคิดว่าอะไรที่เป็นของพิสดาลจะเป็นสิ่งแปลกประหลาด ไม่เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่

(ที่มา โพสต์ทูเดย์, 19 ก.ย.58)

จาตุรนต์ ชี้ร่างรธน. พิสดารมากอาจมีจุบจบแบบบวรศักดิ์

ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นเรื่องที่พิสดาร สมัยก่อนที่ให้ยุบพรรคการเมืองเมื่อมีการเลือกตั้งก็จดทะเบียนพรรคใหม่ แต่การรัฐประหารครั้งหลัง ๆ ไม่กล้าทำ จึงไม่ได้ยุบพรรค เพราะระบบพรรคการเมืองพัฒนามาไกล ถ้าจะยุบพรรคการเมือง เท่ากับเป็นการหาเหตุเพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งยืดเยื้อออกไป เวลานี้ไม่มีใครรู้ว่าคำว่าพิสดารจะหมายถึงอะไร แต่ถ้าไม่ต้องการให้พรรคใหม่เสียเปรียบ ก็เปิดโอกาสให้มีการจดทะเบียนเตรียมก่อตั้งพรรคตั้งแต่รัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ ก็จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนพรรคการเมืองเก่าก็ไม่ต้องยกเลิก เพียงแต่ให้ปรับตัวตามกฎระเบียบใหม่จะดีกว่า

“น่าเป็นห่วงที่ วิษณุ บอกว่าเป็นเรื่องพิสดาร เพราะหากพิสดารมาก ๆ ร่างรัฐธรรมนูญล่าสุด หากไม่ผ่านขั้นลงประมาติกรรมการร่างธรรมนูญ(กรธ.) ชุดใหม่ก็อาจจะเสียผู้เสียคน อย่าง บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างฯ อีก การที่ บวรศักดิ์ทำเรื่องไปไกลมาก ก็เพราะทำตามคำแนะนำของ วิษณุ และถ้า กรธ.ต้องทำตามคำแนะนำที่พิสดารอีก ก็อาจจะมีจุบจบคล้ายกับ บวรศักดิ์” จาตุรนต์ กล่าว 

(ที่มา เดลินิวส์, 19 ก.ย.58)

ปชป. เผยอาจต้องให้สมาชิกพรรค 2.8 ล้านกรวดน้ำจนกว่าจะเลิกล้มความคิดพิสดาร

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ วิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนี้ ว่าตามประเพณีการเมืองของไทยเมื่อมีการรัฐประหารพรรคการเมืองต้องหยุดดำเนินการต่างๆ แต่เมื่อมีการคืนสิทธิให้ประชาชนแล้ว ก็จะให้พรรคการเมืองที่มีการจดทะเบียนอยู่ตามรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้า เป็นพรรคการเมืองต่อไป การจะให้จัดตั้งพรรคใหม่เป็นการทำให้ยุ่งยากมากขึ้น ถ้าจะมีพรรคการเมืองขอจดทะเบียนใหม่ ก็ให้ดำเนินการไป แต่จะให้พรรคประชาธิปัตย์จดทะเบียนใหม่ก็ไม่มีผลกับการเตรียมการเลือกตั้งของพรรค เพราะพรรคมีองค์ประกอบของความเป็นพรรคการเมือง และสาขาของพรรคอย่างครบถ้วน ทางที่ดีทำตามประเพณีที่ทำกันมาจะดีกว่า

วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว “นี่คือความวิปริตของนักวิชาการบางคน เวลาอยู่ภายใต้ระบบรัฐสภาก็รับใช้นักการเมืองอย่างหมอบราบ เวลามีรัฐประหารก็ทำได้ทุกอย่าง แม้แต่ขัดท็อปบู๊ตให้แวววับในพริบตา เมื่อ คสช.ยึดอำนาจไม่ได้ยุบพรรคการเมือง แต่ห้ามทำกิจกรรม นี่เขียนรัฐธรรมนูญ ก็ตั้งธงพิสดารให้ใส่ไว้ในกฎหมายลูก ให้พรรคการเมืองไปจดทะเบียนใหม่ ดูยิ่งใหญ่เหลือเกิน พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งมาครบ 70 ปีในปีหน้า มีสมาชิกตามทะเบียนของ กกต.ทั้งสิ้น 2,896,109 คน เมื่อมีนักฉวยโอกาสบางคนจะเขียนกฎหมายบังคับให้จดทะเบียนพรรคใหม่ เท่ากับทำตัวใหญ่กว่าศาลรัฐธรรมนูญ สงสัยต้องให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศนั่งสมาธิกรวดน้ำให้ทุกวันพระ จนกว่าจะเลิกล้มความคิดพิสดารนี้”

(ที่มา เดลินิวส์, 19 ก.ย.58)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท