Skip to main content
sharethis
จัดงานครบรอบ 5 ปี การต่อสู้คัดค้านโครงการก่อสร้างเหมืองแร่ลิกไนต์ในตำบลบ้านแหง ของ ‘กลุ่มรักษ์บ้านแหง’ เวทีเสวนาระบุชาวบ้านยังคงต่อสู้ด้วยกระบวนการทางกฎหมายต่อไป มิใช่เพื่อการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ชุมชนตนเท่านั้น แต่เพื่อสร้างบรรทัดฐานแก่สังคมไทยต่อไปในการก่อสร้างโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ
 
 
 
 
 
 
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2558 ที่ โรงเรียนบ้านแหงเหนือ ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง มีการจัดงานครบรอบ 5 ปี การต่อสู้คัดค้านโครงการก่อสร้างเหมืองแร่ลิกไนต์ในตำบลบ้านแหง ของ ‘กลุ่มรักษ์บ้านแหง’
 
โดย 'กลุ่มรักษ์บ้านแหง' เป็นกลุ่มชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันจากชาวบ้านหมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 11 ใน ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง เพื่อร่วมกันต่อสู้คัดค้านโครงการสร้างเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ในตำบลบ้านแหง มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 โดยมีเหตุเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 มีหน่วยงานมาจัดประชุมในหมู่บ้าน โดยแจ้งว่าเป็นการจัดประชุมชี้แจงโครงการก่อสร้างเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด  นับเป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านได้ทราบว่าจะมีการสร้างเหมืองแร่ โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบเรื่องหรือได้รับการแจ้งจากหน่วยงานใดมาก่อน  ต่อมาภายหลังปรากฏว่า มีการอ้างว่า ในการประชุมชี้แจงโครงการวันดังกล่าวเป็นการที่ชาวบ้านได้ทำประชามติเห็นชอบโครงการเหมืองแร่ลิกไนต์แล้ว  นับจากนั้นชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันต่อสู้คัดค้านโครงการดังกล่าว ด้วยเห็นว่าการดำเนินโครงการเป็นไปอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรม เล็งเห็นได้ว่าย่อมก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อสภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อม วิถีการทำมาหากิน และเล็งเห็นว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวย่อมเกิดผลกระทบทางสุขภาพเช่นเดียวกับที่ชาวอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปางต้องประสบจากการทำเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์มาจนทุกวันนี้
 
โดยในงานวันครบรอบ 5 ปี การต่อสู้คัดค้านเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์  มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ และถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ มีจัดเวทีเสวนาเรื่อง “การต่อสู้ของกลุ่มรักษ์บ้านแหง” โดยผู้เข้าร่วมเสวนา ได้แก่ นางสมหมาย หาญเตชะ นางสาวแววรินทร์  บัวเงิน ร.ต.ประพันธ์  ธรรมยศ ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหง  นายสุแก้ว ฟุงฟู ตัวแทนจากสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน) และหลวงพ่อทีปโก จากจังหวัดแพร่ และดำเนินรายการโดย นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความศูนย์ข้อมูลชุมชน
 
ประเด็นการเสวนามีการบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของกลุ่มรักษ์บ้านแหงที่ยืนหยัดต่อสู้ท่ามกลางความขัดแย้งในพื้นที่ จนเข้าสู่ขบวนการทางกฎหมายกลายเป็นคดีความที่มีการฟ้องร้องกันกว่า 9 คดี โดยชาวบ้านต้องเดินทางไปร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอให้พิจารณาและเพิกถอนใบอนุญาตต่าง ๆ ที่จะมีผลให้การดำเนินโครงการเหมืองแร่ดำเนินต่อไปได้โดยไม่รับฟังเสียงของประชาชนในชุมชน อันถือเป็นการละเมิดสิทธิชุมชนตามที่ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ  ปัจจุบันชาวบ้านยังคงต่อสู้ด้วยกระบวนการทางกฎหมายต่อไป มิใช่เพื่อการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ชุมชนตนเท่านั้น แต่เพื่อสร้างบรรทัดฐานแก่สังคมไทยต่อไปในการก่อสร้างโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐหรือโครงการที่รัฐให้สัมปทานแก่เอกชน ซึ่งสมควรจะต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรของชุมชนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแก่สิ่งแวดล้อม มิใช่เพียงคำนึงถึงผลประโยชน์หรือมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น 
 
นอกจากนี้ ในงานยังมีการเปิดตัวหนังสือ "ชุมชน--บ้านแหงเหนือ" ซึ่งเป็นหนังสือที่จัดทำโดยกลุ่มรักษ์บ้านแหง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชุมชน สถานที่สำคัญ และประเพณีวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาในชุมชนด้วย  ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการภาพถ่าย เกี่ยวกับกิจกรรมของกลุ่มและชุมชนที่ผ่านมา สถานที่สำคัญ และสภาพแวดล้อมของชุมชน โดยตลอดงานมีการขับกล่อมบรรเลงเพลงโดยกลุ่มคนต้นน้ำ จากแม่สร้อย จ.แพร่ ร่วมกับเยาวชนกลุ่มรักษ์บ้านแหง โดยได้มีการแต่งเพลงเกี่ยวกับกลุ่มรักษ์บ้านแหงขึ้นใหม่เพื่อขับร้องในงานวันดังกล่าวด้วย
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net