ปิดโรงเหล็กสหวิริยาในอังกฤษ ส่งผลคนตกงานเกือบสองพัน

การปิดตัวลงของโรงงานถลุงเหล็กในอังกฤษของเครือสหวิริยา ส่งผลให้คนงานท้องถิ่นตกงานเกือบสองพันคน สหภาพแรงงานและอุตสาหกรรมเหล็กในอังกฤษได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา
 
 
โรงงานถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าในเมืองเรดคาร์ (Redcar) หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่าโรงงานถลุงเหล็กทีสไซด์ (Teesside Steelworks) (ที่มาภาพ: en.wikipedia.org)
 
30 ก.ย. 2558 การประสบปัญหาด้านการลงทุนของกลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) ของไทยในอังกฤษได้ส่งผลให้คนงานท้องถิ่นในโรงงานถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานร่วม 160 ปี ต้องตกงาน โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ The Sunday Times รายงานว่าโรงงานถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าในเมืองเรดคาร์ (Redcar) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่าโรงงานถลุงเหล็กทีสไซด์ (Teesside Steelworks) ต้องปิดตัวลงและปลดคนงานเกือบสองพันคน
 
ทั้งนี้บริษัทสหวิริยา สตีล อินดัสตรี ยูเค (SSI UK) ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มสหวิริยา (SSI) ของไทย กำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากผลพวงของราคาเหล็กในตลาดโลกลดลงกว่า 40% ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 12 ปี ซึ่งระบุว่าบริษัทฯ ยังหวังว่าจะมีการเปิดเจรจากับรัฐบาลอังกฤษถึงความเป็นไปได้ที่จะเปิดดำเนินงานโรงงานนึ้อีกครั้งในอนาคต ขณะที่สหภาพแรงงานและอุตสาหกรรมเหล็กในอังกฤษได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาด้วย
 
เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานจีเอ็มบี (Britain's General Union : GMB) ซึ่งเป็นขบวนการสหภาพแรงงานทั่วไปของอังกฤษ เคยออกมาสนับสนุนให้มีการฟื้นฟูกิจการโรงงานเหล็กแห่งนี้ ที่ทุนเหล็กไทยอย่างสหวิริยาได้เจรจาเพื่อซื้อทรัพย์สินโรงงานถลุงเหล็กไว้ดำเนินกิจการต่อจากผู้ประกอบการอินเดีย เพราะก่อนหน้านั้นโรงงานถลุงเหล็กแห่งนี้มีปัญหาด้านการบริหารจนต้องปลดคนงานออกถึง 1,700 คน เมื่อปี 2552 ทั้งนี้โรงงานถลุงเหล็กแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ผูกพันกับอุตสาหกรรมเหล็กมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มผลิตเหล็กมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1917 มีผลงานผลิตเหล็กแท่งแบนเพื่อก่อสร้างสะพานสำคัญ ๆ มาหลายแห่ง เช่น สะพานอ่าวซิดนีย์ (Sydney Harbour Bridge) เป็นต้น
 
ส่วนปัญหาการขาดทุนของเครือสหวิริยาที่อังกฤษนี้ก็ได้ส่งผลกระทบในไทยด้วย โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ธปท.ได้สั่งการให้ธนาคารเจ้าหนี้ของกลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ตั้งสำรองสินเชื่อทั้งหมด รวมวงเงิน 53,346 ล้านบาท ให้ครบ 100% ภายในสิ้นเดือน ก.ย. นี้ โดยหนี้ในส่วนของสินเชื่อสหวิริยา ที่ประเทศอังกฤษนั้น ต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้ครบ 100% โดยไม่ให้หักหลักประกันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง สำหรับหนี้ของสหวิริยาในไทยนั้น มีธนาคารเจ้าหนี้ 3 แห่ง คือ กรุงไทย ทิสโก้ และ ไทยพาณิชย์ ซึ่งทั้ง 3 ธนาคารดังกล่าวได้ตั้งสำรองไว้แล้ว 53,346 ล้านบาท หักหลักประกันไว้แล้ว 60% คิดเป็น 0.4% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบและคิดเป็น 1% ของสินเชื่อเจ้าหนี้ 3 สถาบัน
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท