Skip to main content
sharethis

ร.อ.ทินพันธ์ นาคะตะ เผย สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นสภาวิชาการ ไม่มีอำนาจทางการเมือง มีอิสระการทำงานเพื่อปฏิรูปประเทศ ย้ำไม่มีใครสั่งได้ พร้อมระบุเรื่องปรองดองและนิรโทษกรรม เพิ่งได้รับเอกสาร ต้องใช้เวลาศึกษาก่อน

16 ต.ค. 2558 เว็บข่าวรัฐสภา รายงานว่า ร.อ.ทินพันธุ์  นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พร้อมด้วยอลงกรณ์ พลบุตร และวลัยรัตน์  ศรีอรุณ รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พบสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวถึงแนวทางการทำงาน หรือ MEET THE PRESS ที่อาคารรัฐสภา

โดยประธาน สปท. ได้กล่าวว่า สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นสภาวิชาการ ไม่มีอำนาจทางการเมือง และมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาล ทั้งนี้แนวทางการทำงานของ สปท. นั้นจะต้องดำเนินการให้แผนการปฏิรูปประเทศที่สภาปฏิรูปแห่งชาติทำไว้ให้เป็น รูปธรรม เบื้องต้นยังไม่กำหนดว่าจะทำเรื่องใดเป็นเรื่องแรก เพราะต้องหารือในที่ประชุม สปท. ก่อน อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่า การปฏิรูปประเทศเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวังเอาไว้มาก และหากครั้งนี้ปฏิรูปไม่สำเร็จก็คงไม่มีอีกแล้ว พร้อมย้ำว่า ตนไม่ได้ตั้งความคาดหวังเกี่ยวกับการปฏิรูปไว้สูงมาก ถ้าทำได้สำเร็จเพียงเรื่องเดียวก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้ว

ส่วนข้อถามที่ว่า  สปท. จะนำเรื่องการปรองดองและนิรโทษกรรมมาหารือในที่ประชุมหรือไม่นั้น ประธาน สปท. กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตอบเองไม่ได้เพราะจะเป็นความเห็นส่วนตัว ต้องหารือในที่ประชุมก่อน และสมาชิกก็เพิ่งได้รับเอกสารที่เป็นการศึกษาแนวทางการปฏิรูปประเทศของ สปช. คงต้องใช้เวลาพอสมควรในการศึกษาเอกสารทั้งหมด หลังจากนั้นคงจะมีการหารือกัน ในฐานะที่ประเด็นการแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเคยศึกษาวิจัยเรื่องนี้มานานแล้ว และเชื่อมั่นว่าแนวทางที่ตนเคยศึกษาวิจัยไว้จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องการ ทุจริตคอรัปชั่นได้

ประธาน สปท. ยังกล่าวถึงกรณีความเป็นอิสระในการทำงานด้วยว่า ตนเองทำงานทางวิชาการมานาน และอุดมการณ์ที่จะทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ดังนั้นยืนยันว่า ไม่มีใครสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้อย่างแน่นอน

สำหรับการแบ่งหน้าที่การทำงานระหว่างประธาน สปท. และรองประธาน สปท. ทั้ง 2 ตำแหน่งนั้น ประธาน สปท. กล่าวว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้ อลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่หนึ่ง ดูแลงานด้านการประชุม สปท. ในขณะที่วลัยรัตน์  ศรีอรุณ รองประธาน สปท. คนที่สอง จะทำหน้าที่การดูแลด้านการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ทั้งในการประชุมในสัปดาห์หน้า ที่ประชุม สปท. จะดำเนินการแต่งตั้งกรรมาธิการเพื่อทำหน้าที่ศึกษาแนวทางการปฏิรูปและผลัก ดันการปฏิรูปด้านต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ประธาน สปท. ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนอาจไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แต่จะจัดงานพบสื่อมวลชนเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่า สิ่งที่ตนพูดจะเป็นมติของที่ประชุม สปท. แล้วเท่านั้น จะไม่แสดงความเห็นส่วนตัวอย่างแน่นอน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net