16 ต.ค. 2558 วิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณีที่มีกล่าวหา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กับพวก จัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดจีที 200 โดยมิชอบ กล่าวถึงคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า การไต่สวนคดีนี้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเป็นเรื่องลึกลับ แน่นอนว่าประสิทธิภาพของจีที 200 ไม่ได้คุณภาพ แต่การจะวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ทุจริตหรือไม่ยังต้องการอะไรมากกว่าเรื่องของประสิทธิภาพ เพราะเรื่องการตัดสินใจและเจตนาการจัดซื้อของเจ้าหน้าที่พิสูจน์ลำบาก ส่วนการแสวงหาพยานหลักฐานก็มีข้อขัดข้องทางเทคนิค โดยเฉพาะการขอความร่วมมือไปยังบริษัทที่จำหน่ายในประเทศอังกฤษก็ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลต่อ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม ตนจะพยายามอย่างเต็มที่ คาดว่าต้นเดือนหน้าจะสามารถวินิจฉัยได้ว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกร้องได้หรือไม่
ด้าน สรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยว่า กรณีที่มีบุคคลแอบอ้างชื่อกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ไปเรียกรับเงินกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าว มีเรื่องถูกกล่าวหาร้องเรียนอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ช. และสามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือให้สามารถยุติเรื่องได้ บางรายหลงเชื่อจ่ายเงินให้ไปตามที่ถูกเรียกร้อง สำนักงานป.ป.ช.จึงขอชี้แจงว่ากรณีนี้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของกรรมการ ป.ป.ช. และบุคลากรของสำนักงานป.ป.ช. ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบ แจ้งความดำเนินคดีและจับกุมไปแล้วบางราย ดังนั้นขออย่าได้หลงเชื่อมิจฉาชีพดังกล่าว เพราะสำนักงานป.ป.ช.มีมาตรการควบคุมเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ในเรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลใดหรือหน่วยงานใด พบเห็นการแอบอ้างชื่อกรรมการป.ป.ช. หรือแอบอ้างชื่อเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในลักษณะดังกล่าว ขอความร่วมมือในการเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี หรือแจ้งสำนักงานป.ป.ช.เพื่อดำเนินการต่อไป
ที่มา : เดลินิวส์, มติชนออนไลน์ และ Voice TV