Skip to main content
sharethis

29 ต.ค. 2558 สหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพได้แจ้งต่อสมาชิกสหภาพแรงงานและพนักงานของธนาคารกรุงเทพเรื่องการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าผู้แทนเจรจาของทั้งสองฝ่ายได้นำเสนอข้อมูลและเหตุผล เอกสารอ้างอิง เพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องในแต่ละข้อ เช่น ข้อเรียกร้องข้อ 10 เรื่องขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรพนักงาน (เงินให้ฟรีไม่ต้องกู้) โดยผู้แทนสหภาพแรงงานนำเสนอถึงเหตุผลความจำเป็นและสภาวการณ์ในปัจจุบันที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพนักงานทุกระดับ รวมทั้งเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นในขนาดเดียวกันที่มีการช่วยเหลือพนักงานด้านนี้อยู่แล้ว โดยหัวหน้าผู้แทนเจรจาธนาคารได้นำข้อมูลที่มีอยู่นำเสนอผู้บริหารระดับสูงเพื่อพิจารณาต่อไป

ส่วนการเจรจาข้อเรียกร้องในวันนี้ (29 ต.ค.) หัวหน้าผู้แทนเจรจาธนาคารเสนอแบ่งการเจรจาตามกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเงิน ซึ่งจะต้องให้ทราบผลประกอบการไตรมาส 4 ก่อน ส่วนเรื่องอื่นจะนำมาหาแนวทางพิจารณาร่วมกัน และในวันนี้หัวหน้าผู้แทนเจรจาฝ่ายธนาคารนำเสนอข้อมูลข้อเรียกร้องข้อที่ 12 เรื่อง ขอให้ธนาคารซื้อกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุให้กับพนักงานทุกคน ทั้งสองฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนและนำเสนอข้อมูล รวมทั้งเหตุผลความจำเป็นต่าง ๆ ประกอบการพิจารณาจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่ายและนำไปหารือกับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติมและจะนำมาพิจารณาในการเจรจาครั้งต่อไป ส่วนข้อเรียกร้องข้อที่ 14 เรื่อง ขอให้ธนาคารจ่ายเงินค่าเครื่องแบบให้กับพนักงานชายหญิง คนละ 3 ชุดต่อคน/ต่อปี นั้น หัวหน้าผู้แทนเจรจาตอบข้อซักถามจากสหภาพแรงงานกรณีธนาคารมีนโยบายเปลี่ยนรูปแบบชุดพนักงานใหม่หรือไม่อย่างไรนั้น หัวหน้าผู้แทนเจรจาของธนาคารรับไปสอบถามประสานงานผู้เกี่ยวข้องให้ รวมทั้งการจ่ายค่าชุดให้กับพนักงานในการเจรจาครั้งหน้า ผู้แทนสหภาพแรงงานขอให้ธนาคารรีบพิจารณาให้ทันก่อนขึ้นปีใหม่เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน รวมทั้งหากธนาคารจะพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ เปลี่ยนแบบหรือเนื้อผ้าของเครื่องแบบพนักงานหญิงนั้น ขอให้แจ้งข่าวให้พนักงานทราบเป็นการล่วงหน้าเพื่อพิจารณาในการสั่งตัดเครื่องแบบรุ่นเก่าให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าต่อไป

อย่างไรก็ตามการเจรจาข้ออื่น ๆ สหภาพแรงงานจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป โดยทางสหภาพแรงงานระบุว่าขอให้เพื่อนพนักงานติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผลประกอบการผ่านไตรมาสที่ 3 ธนาคารยังมีผลกำไรไม่แตกต่างจากปีที่แล้วมากนัก ทั้งนี้พนักงานทุกระดับได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานของธนาคารและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลกำไรในครั้งนี้ ดังนั้นการแบ่งปันผลประโยชน์พนักงานก็ควรได้รับอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม

อนึ่งในการเจรจายื่นข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างประจำปี 2558 ทางสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพได้ยื่นข้อเรียกร้อง 15 ข้อ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ขอให้ธนาคารจ่ายโบนัสให้แก่พนักงานทุกคนทุกระดับชั้น ปีละ 5 เท่าของเงินเดือน บวกด้วยเงินเพิ่มพิเศษคนละ 30,000 บาท โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดเท่า เท่ากันภายในเดือนมิถุนายนและธันวาคมในแต่ละปี และพิจารณาโบนัสพิเศษเพิ่มเติมให้กับพนักงานตามผลกำไรสุทธิของธนาคารที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้มีผลตั้งแต่งวดมกราคม-มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป

2. ขอให้ธนาคารกำหนดหลักเกณฑ์จ่ายเงินช่วยเหลือแก่พนักงานที่ทำงานกับธนาคารจนเกษียณอายุ สำหรับพนักงานที่เข้าทำงานกับธนาคารก่อนปี 2532 (ก่อนก่อตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ในอัตราคนละ 500,000 บาท หรืออายุงานคูณเงินเดือนเดือนสุดท้าย

3. ขอให้ธนาคารพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคนในปีที่เกษียณอายุเป็นกรณีพิเศษ โดยปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในเกณฑ์มาตรฐานขึ้นไป เพื่อเป็นประโยชน์กับพนักงานที่เกษียณอายุในการคำนวณเงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด

4. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับพนักงานทุกคน ในอัตรา 3,500 บาท ต่อคน/ต่อเดือน

5. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคารกรุงเทพ จำกัด ซึ่งจดทะเบียนแล้วให้กับพนักงานทุกคนทุกระดับในอัตราร้อยละ 15 ของเงินเดือนอัตราเดียวเท่ากันทุกคน รวมทั้งพนักงานที่ลาออกจากสมาชิกกองทุนฯ และสมัครกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนฯ ใหม่

6. ขอให้ธนาคารนำเงินที่มีอยู่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานเป็นหลักประกันในการกู้เงินสวัสดิการพนักงานได้ ทั้งนี้อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์เงื่อนไขและวงเงินตามที่ธนาคารกำหนด

7. ขอให้ธนาคารจัดให้มีวงเงินกู้สวัสดิการพนักงาน เป็นสินเชื่อหมุนเวียนเอนกประสงค์ในวงเงิน 5 เท่าของเงินเดือน โดยไม่ต้องมีหลักประกัน

8. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินค่าเสี่ยงให้กับพนักงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับ-จ่ายหรือรับแลกเปลี่ยนเงิน เช่น CSO, FRO, MO, CPO หรือพนักงานที่ปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกันภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ในอัตรา 3,500 บาท/คน/ปี

9. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษให้กับพนักงานที่ปฏิบัติงานใน สาขา/หน่วยงาน ที่เปิดให้บริการลูกค้า 7 วัน หรือสาขาที่เปิดทำการในลักษณะเดียวกัน หรือพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกันในอัตราคนละ 5,000 บาท/คน/เดือน

10. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือพนักงานทุกคนในด้านการศึกษาของบุตรที่กำลังศึกษาเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ระดับก่อนอนุบาลจนถึงระดับปริญญาตรี เฉพาะค่าบำรุงการศึกษาและค่าบำรุงอื่นที่เกี่ยวกับการศึกษา ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินอัตราที่ทางราชการกำหนดของแต่ละสถานศึกษาดังนี้

 

ระดับการศึกษา

เงินช่วยเหลือไม่เกินปีละ

ก่อนอนุบาล

6,000 บาท

อนุบาล-ประถมปีที่ 6

9,900 บาท

มัธยมปีที่ 1-มัธยมปีที่ 3

11,000 บาท

มัธยมปีที่ 4-มัธยมปีที่ 6

12,000 บาท

ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

15,000 บาท

ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) , วิชาชีพเทคนิค (ปวท.)

25,000 บาท

ปริญญาตรี

30,000 บาท

 

11. ขอให้ธนาคารพิจารณาจ่ายค่าเสี่ยงภัยให้กับพนักงานที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยในอัตราที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน คนละ 7,000 บาท/คน/เดือน ทุกตำแหน่ง ทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

12. ขอให้ธนาคารซื้อกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุให้กับพนักงานทุกคนและสามารถเบิกเงินค่าทดแทนการประสบอุบัติเหตุ

13. ขอให้ธนาคารปรับอัตราเทียบสิทธิค่ารักษาพยาบาลจากอัตราเดิม 700 บาท เป็น 1,500 บาท โดยพนักงานสามารถเบิกจ่ายได้ที่ต้นสังกัด

14. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินค่าเครื่องแบบให้กับพนักงานชายหญิงคนละ 3 ชุด ต่อคน/ต่อปี

15. ขอให้ธนาคารจัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างกรรมการสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพกับผู้บริหารหรือตัวแทนผู้บริหารของธนาคาร อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อปรึกษาหารือร่วมกันในประเด็นปัญหาต่าง ๆ และเป็นการสร้างสรรค์แรงงานสัมพันธ์ที่ดีในสถานประกอบการ

โดยข้อมูลจากธนาคารกรุงเทพระบุว่าธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับครึ่งแรกปี 2558 จำนวน 17,442 ล้านบาท

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net