Skip to main content
sharethis

29 ต.ค.2558 รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ แจ้งว่า นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ประธานกรรมการทบทวนธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2552 เปิดเผยว่า ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ เป็นแผนแม่บทหลักของระบบสุขภาพพึงประสงค์ที่ทุกภาคส่วนต้องการให้เกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า จึงเป็นกรอบและแนวทางในการกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์การดำเนินงานด้านสุขภาพ ที่คาดหวังให้ทุกภาคส่วน ทุกระดับสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งราชการ เอกชน สภาวิชาชีพ องค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ที่ผ่านมา การดำเนินงานถือว่าประสบความสำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี

นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการทบทวนธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2552 ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ได้เร่งพิจารณาทบทวนและยกร่างธรรมนูญฉบับใหม่อย่างเต็มที่ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อให้เนื้อหาของร่างธรรมนูญฉบับนี้ มีความทันสมัยและสอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพและแนวโน้มการปฏิรูปประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยวางแผนการทำงานให้เสร็จสิ้นเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติภายในเดือนมีนาคม 2559 ก่อนจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้สามารถประกาศใช้ได้ภายในกลางปีหน้า

“ขณะนี้ การยกร่างธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติฉบับทบทวนร่างแรก ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เชื่อว่าทั้งหมดจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศและประชาชน โดยการพัฒนาเนื้อหา ได้ปรับสาระของประเด็นเดิมที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เหมะกับสถานการณ์ในอนาคต เช่น ปรัชญาแนวคิดภาพพึงประสงค์ของระบบสุขภาพ การให้บริการสาธารณสุขและการประกันคุณภาพ การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุม โรคและปัจจัยคุกคามสุขภาพ ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ และยังได้เพิ่มเติมประเด็นใหม่ๆ ซึ่งพบว่ามีความสำคัญกับระบบสุขภาพมากขึ้น อาทิ สุขภาพจิต สุขภาพปัญญา การอภิบาลระบบสุขภาพ รวมถึงธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นการขยายผลและขับเคลื่อนใช้ประโยชน์ธรรมนูญสุขภาพในระดับตำบล อำเภอที่เป็นรูปธรรมชัดเจน  โดยขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมการฯ จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนทั่วประเทศ พร้อมไปกับการเปิดช่องทางรับฟังความเห็นทางสื่อออนไลน์ และจะนำร่างฉบับนี้เข้ารับฟังความเห็นในเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 8 ปลายเดือนธันวาคมด้วย”

สำหรับกำหนดการจัด เวทีรับฟังความคิดเห็น ต่อร่างธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับทบทวน ทั้งในกรุงเทพมหานครและ 4 ภูมิภาคนั้น มีกำหนดการเบื้องต้นโดย ภาคกลาง จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ขอนแก่น ในวันที่ 27 พฤศจิกายน ต่อด้วย ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่ วันที่ 28 พฤศจิกายน และปิดท้ายเวทีภาคที่ ภาคใต้ จัดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558

ส่วนเวทีรับฟังความเห็นจากองค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ กำหนดจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม 2558 โดยกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.), สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.), สำนักงานประกันสังคม, กรมบัญชีกลาง, สถาบันวิชาการ, องค์กร/สภาวิชาชีพด้านสุขภาพ, โรงพยาบาลรัฐและเอกชน, องค์กรภาคประชาสังคม, หน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงอุตสาหกรรม, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, ภาคธุรกิจเอกชน, คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน, กลุ่มองค์กรเอกชน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ได้แก่ กลุ่มคนพิการ, กลุ่มสตรี, กลุ่มคนข้ามเพศ, กลุ่มเยาวชน, กลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่มคนไร้รัฐ, กลุ่มคนชายขอบ, กลุ่มนักบวชหรือกลุ่มศาสนาด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลและร่วมให้ความเห็นต่อร่างธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพฉบับทบทวนนี้ ทาง www.nationalhealth.or.th ตั้งแต่ 10 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net