Skip to main content
sharethis

จ่านิวหารือกับ วัส ติงสมิตรประธาน กสม.

23 ธ.ค.2558 สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ได้เดินทางไปร้องเรียนกับอนุกรรมการสิทธิพลเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งมีนางอังคณา นีละไพจิตร เป็นประธานอนุฯ พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คนเกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์และการดำเนินคดีกับเขาและพวกรวม 11 คนหลังจากนั้น โดยร้องเรียนใน 4 ประเด็น

1.กรณีการรถไฟแห่งประเทศไทยละเมิดสิทธิในการเดินทาง บกพร่องต่อหน้าที่ในการส่งผู้โดยสารโดยการตัดขบวนรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง

2.ขอให้ กสม.ตรวจสอบและชี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่ทำการจับกุมประชาชนที่เดินทางในวันนี้และควบคุมตัวไว้อีกเกือบ 10 ชม.นั้นเป็นการควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมายและเป็นการละเมิดนสิทธิมนุษยชน

3.ให้ข้อมูลการควบคุมตัวกรณีธเนตร อนันตวงษ์ หรือตูน ที่ถูกควบคุมตัวจากโรงพยาบาล โดยขอให้ กสม.เฝ้าระวังและติดตามไม่ให้เจ้าหน้าที่ทหารอ้างคำสั่งหัวหน้าคสช.ในการอุ้มหายบุคคล โดยไม่แจ้งที่คุมตัว ไม่อนุญาตให้ทนายและญาติพบ เพราะมีแนวโน้มว่าทหารจะทำแบบนั้นเพิ่มขึ้น

4.แจ้งข้อมูลและขอให้ กสม.จับตากรณีที่ตำรวจออกหมายเรียกผู้ต้องหา 11 คนรวมทั้งตัวเขาว่า จะมีการออกหมายจับและทำการจับกุมหลังวันที่ 29 ธ.ค.นี้หรือไม่

“ผมได้คุยกับประธานกรรมการสิทธิ ซึ่งได้มารับเรื่องและชี้แจงขั้นตอนกระบวนการทำงานของคณะกรรมการชุดใหม่ ชี้แจงว่าถ้าเรื่องเร่งด่วนมีระบบ fast track อย่างไรบ้าง และยินดีจะรับเรื่องไว้” สิรวิชญ์กล่าว

เมื่อถามว่าเขามีความคาดหวังกับกลไกของ กสม.มาเพียงใด เขากล่าวว่า “จริงๆ ปีที่แล้วผมก็เคยใช้กลไกนี้ เคยมายื่นเรื่องกับคุณหมอนิรันดร์สองครั้ง แต่เรื่องก็เงียบไป มาครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมือกรรมการชุดใหม่ว่าจะช่วยปกป้องสิทธิประชาชนได้เพียงไหน”

สิรวิชญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หมายเรียก 11 คนในกรณีเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์นั้น มีบุคคลที่มีสถานะนักศึกษาอยู่สองคนคือ เขาและกรกนก คำตา โดยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทั้งคู่ นอกนั้นเป็นนักกฎหมาย นักกิจกรรม ผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยพนักงานสอบสวนแจ้งชัดเจนว่าทั้ง 11 คนนี้คือบุคคลที่ไม่ยอมเซ็นชื่อในเงื่อนไขการปล่อยตัวที่ระบุห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งสิ้น ส่วนที่เหลือจากทั้งหมด 36 คนนั้นยอมลงชื่อจึงไม่ถูกดำเนินคดี

สิรวิชญ์ยังกล่าวด้วยว่า เขาและเพื่อนบางคนตัดสินใจยืนยันจะไปรายงานตัวในวันที่ 9 ม.ค.ตามที่ได้เดินทางไปแจ้งและขอเลื่อนนัดกับพนักงานสอบสวนทันทีที่ได้รับหมายเรียก ซึ่งตามปกติแล้วหมายเรียกสามารถเลื่อนนัดได้ถึง 15 วัน แต่ตำรวจยังคงยืนยันจะออกหมายเรียกครั้งที่สองในรายงานตัววันที่ 29 ธ.ค.ซึ่งเขาเห็นว่าให้เวลาน้อยเกินไปและออกโดยไม่มีเหตุอันควร สำหรับเหตุผลที่เขาขอเลื่อนเป็น 9 ม.ค.นั้นเพราะเป็นช่วงเคลียร์รายงาน บางคนกำลังเตรียมสอบ และช่วงปีใหม่ทุกคนอยากมีเวลาอยู่กับครอบครัว เนื่องจากคดีนี้ไม่ใช่คดีร้ายแรงอุจฉกรรจ์

ก่อนหน้านี้วันที่ 22 ธ.ค. ตัวแทนจากกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) ก็ได้ยื่นเรื่องให้กับสหประชาชาติเช่นกัน

นอกจากเดินทางไปร้องเรียนยัง กสม.แล้ว สิรวิชญ์ยังระบุด้วยว่า หลังปีใหม่เขาจะฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ด้วยโดฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทยต่อศาลปกครอง ในความผิดกรณีตัดตู้รถไฟตู้ขบวนที่ 255 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่กลุ่มพวกเขาเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ อันเป็นการขัดขวางและลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของประชาชน

นอกจากนี้ยังจะพิจารณาดำเนินคดีกับ พล.ต.ธรรมนูณ วิถี ผบ.พล.ร.9 พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ นายอำเภอบ้านโป่ง และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง ในความผิดมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบอีกด้วย 

ขณะที่เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ชนกนันท์ รวมทรัพย์  หรือ การ์ตูน หนึ่งใน 11 ผู้ถูกดำเนินคดี ได้โพสต์หมายเรียกครั้งที่ 2 ผ่านเฟญบุ๊กส่วนตัวในลักษณะสาธารณะ 'Chanoknan Ruamsap' โดยระบุให้ไปรายงานตัวในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ 

 

 

หมายเรียกครั้งที่ 2 มาถึงบ้านวันนี้ค่ะ หลังจากหมายเรียกครั้งแรกเรียกให้ไปรายงานตัวเมื่อวาน (22 ธ.ค. 58) แต่เราไม่ได้ไปเน...

Posted by Chanoknan Ruamsap on 23 ธันวาคม 2015

 

′ประวิตร′ ยันไม่ได้ปิดกั้น ถามไฟฉายจะตรวจสอบได้หรือไม่

วันเดียวกัน (23 ธ.ค.58) มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า  ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม 11 นักศึกษาไปร้องสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กรณีถูกปิดกั้นการเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ด้วยการโดยสารขบวนรถไฟ ว่า "จะปิดกั้นอะไรเล่า ก็รู้อยู่ว่าตรวจสอบอยู่ ถ้าอย่างนั้นเอาไฟฉายไปกันคนละอัน ตรวจสอบได้หรือไม่ ถ้ามีไฟฉายแล้วจะตรวจสอบได้หรือไม่ถ้าเอาไฟฉายไป"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net