ผอ.โรงเรียนเผย ตัวแทนเหมืองเสนอให้พาเด็กไปขอโทษ แลกถอนแจ้งความ

ผู้อำนวยการโรงเรียนเผย ตัวแทนเหมืองทอง เสนอให้พาเยาวชนนักข่าวพลเมืองไปขอโทษ เพื่อจบคดี ด้านอิศราสัมภาษณ์ กรรมการบริหาร ‘ทุ่งคาฮาเบอร์’ เผยทางออกง่ายนิดเดียว แค่บอกมาว่าใครจัดฉากให้พูด

จากกรณีการฟ้องร้องเยาวชนนักข่าวพลเมือง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4  โรงเรียนศรีสงครามวิทยาคม โดยบริษัททุ่งคำ จำกัดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เนื่องจาก น.ส.เอ(สงวนชื่อ-นามสกุลเนื่องจากเป็นเยาวชน) ได้รายงานข่าวการจัดกิจกรรมค่ายเยาวชน และรายงานผลกระทบในพื้นที่ ผ่านรายการนักข่าวพลเมือง ออกอากาศเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2558 ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

ล่าสุดวันนี้ (28 ธ.ค. 2558) จิระศักดิ์ ชัยชนะทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสงครามวิทยา ได้เปิดเผยต้องผู้สื่อข่าวว่า มีตัวแทนของบริษัททุ่งคำ จำกัด ติดต่อเข้าพบ และเสนอให้โรงเรียนพา น.ส.เอ ไปพบที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย โดยมีทางด้านตัวแทนบริษัทมีความต้องการให้ น.ส.เอ พูดขอโทษ จึงจะยินดีถอนการแจ้งความ

เบื้องต้นจิระศักดิ์ ระบุว่า ได้พูดคุยกับ น.ส.เอ แล้ว โดยแจ้งให้พาผู้ปกครองมาโรงเรียนด้วยในวันพรุ่งนี้ จากนั้นจะพาไปสถานพินิจฯ เพื่อพูดคุยกับตัวแทนของบริษัท จิระศักดิ์ ให้เหตุผลในการที่จะพา น.ส.เอ ไปขอโทษว่า การกระทำดังกล่าวจะส่งผลดีต่อตัวเด็กเอง เรื่องจะได้จบ และเด็กจะได้ไม่ต้องมีคดีติดตัว

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพูดคุย น.ส.เอ ได้ถามว่า ทำไมต้องไปขอโทษด้วย ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด ด้านจิรศักดิ์ได้บอกกลับว่า ขอให้เชื่อ ผอ. วิธีการนี้ดีที่สุด

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอิศรา ได้สัมภาษณ์ รศ.ดร.วิชัย เชิดชีวศาสตร์ กรรมการบริหาร บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทแม่ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด  โดย วิชัย ระบุว่า การฟ้องร้องในครั้งนี้เพียงเพื่อจะบอกให้สังคมรับรู้ว่า ความจริงเหมือง หรือบริษัททุ่งคำ จำกัด ไม่ได้ปล่อยสารพิษลงไปในลำน้ำฮวย

“ฉะนั้น การที่ในรายการมีการพูดข้อความเท็จและสร้างความเสียหายก็ต้องมีการดำเนินคดี เพื่อสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในสังคม  ไม่ใช่จะบอกว่า คนด้อยโอกาสสามารถพูดเท็จได้  ส่วนจะมีการถอนฟ้องหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัททุ่งคำ จำกัด”

วิชัย กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้น หรือการฟ้องร้องที่ผ่านมาระหว่างบริษัททุ่งคำ และชาวบ้าน ควรจะยุติได้แล้ว  และไม่ควรใช้เด็กเป็นเครื่องมือเพราะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง 

“จริงๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้น ง่ายนิดเดียว เพียงแค่เด็กเป็นคนบอกว่า ใครจัดฉากให้พูด แค่นี้เรื่องก็จบแล้ว  เราไม่ได้จะลงโทษเอาเป็นเอาตายเด็กขนาดนั้น  แค่อยากให้สังคมรู้ว่าสื่อไม่ควรใช้เด็ก เอาบทให้เด็กพูด ถ้าไปดูคลิปที่ออกอากาศจะรู้เลยว่า ไม่ใช่ภาษาของเด็ก  ความจริงแล้วการฟ้องร้องไม่อยากให้เกิดขึ้น  แต่อย่างไรก็ตามคิดว่า สุดท้ายปัญหาน่าจะจบได้ด้วยดี เพราะไม่ได้อยากทำร้ายเด็ก”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท