Skip to main content
sharethis

28 ธ.ค.2558 ที่ศาลทหาร มีนัดสอบคำให้การ เงินคูณ และ ศิวาพร จำเลย 2 รายในข้อหาหมิ่นสถาบัน จากกรณีเผยแพร่คลิปบรรพต โดยในเบื้องต้นจำเลยทั้ง 2 รายประสงค์จะต่อสู้คดีจึงถูกแยกออกมาจากคดีของคนอื่นๆ อีก 10 รายที่รับสารภาพและมีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ (อ่านข่าวที่นี่) โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวทั้งสองคนมาจากเรือนจำ โดยมีญาติและผู้สังเกตการณ์คดีเข้าฟังการพิจารณาด้วย จากนั้นอัยการศาลทหารได้ร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคดีเป็นการลับเนื่องจากมีข้อความที่อาจกระทบต่อความมั่นคง ศาลอนุญาตและสั่งให้ทุกคนออกจากห้อง ยกเว้นจำเลย ทนาย เจ้าหน้าที่ศาลและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

คารม พลพรกลาง ทนายความของเงินคูณให้สัมภาษณ์หลังออกจากห้องพิจารณาคดีว่า จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้โอนคดีไปพิจารณายังศาลอาญา เนื่องจากอยู่การกระทำผิดเกิดขึ้นก่อนมีคำสั่ง คสช.ให้คดีมาตรา 112 ขึ้นศาลทหาร ศาลให้เวลาทำคำร้องคัดค้านภายใน 15 วันจากนั้นจะยื่นเรื่องให้ศาลอาญาวินิจฉัย หากทั้งสองศาลเห็นตรงกันว่าควรพิจารณาคดีนี้ที่ศาลใดก็เป็นอันยุติ แต่หากเห็นไม่ตรงกันก็จะต้องส่งให้คณะกรรมการตามกฎหมายวินิจฉัยในขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะพิจารณาคดีได้ต่อไป

ทั้งนี้ เงินคูน มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.2558 ส่วนศิวาพร มีอาชีพแม่บ้าน ถูกจับกุมวันที่ 25 ม.ค.2558 ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนยังที่อื่นก่อนหลายวัน ก่อนถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาจากนั้นถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯและทัณฑสถานหญิงกลางมาจนปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ทั้งคู่เคยยื่นคำร้องขอประกันตัวแล้วแต่ศาลทหารไม่อนุญาต

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net