Skip to main content
sharethis

'วิลาศ- วัชระ' อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. สอบ 3 โครงการของ กทม. 'กล้อง CCTV ต่อสัญญา BTS-ไฟประดับ 39.5 ล้าน' 

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสการจัดซื้อจัดจ้าง 3 โครงการของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้แก่ 1.กรณีการจัดซื้อจัดจ้างกล้อง CCTV จำนวน 47,000 ตัว แต่กลับพบว่ามีการจัดซื้อจริงเพียง 12,000 ตัวเท่านั้น  2.กรณีการต่อสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ออกไปอีก 30 ปี ทั้งที่สัญญาเดิมยังเหลืออีก 17 ปี และ 3.โครงการติดตั้งไฟประดับบริเวณลานคนเมืองกรุงเทพมหานคร วงเงิน 39.5 ล้านบาท  โดยมี พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. เข้ารับหนังสือดังกล่าว

นายวิลาศ กล่าวว่า ได้ตั้งข้อสังเกตว่าโครงการประดับไฟ อาจมีการฮั้วกับบริษัทที่ได้รับประมูล เพราะเป็นการยื่นซองในเวลาอันรวดเร็วและไม่มีการเปิดเผยขั้นตอนการประมูล รวมถึงบริษัทที่ประมูลได้นั้นเคยถูกตนตรวจสอบในขณะที่เป็นกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้จัดทัวร์ให้กับสมาชิกสภาเขตไปยุโรปหลายครั้งในราคาที่แพงเกินจริง ส่วนบริษัทที่ไม่ชนะการประมูล มีการขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ก่อนวันยื่นซองประมูลเพียงไม่กี่วัน ทั้งนี้เชื่อว่าการเบิกจ่ายงบในแต่ละโครงการของ กทม.มีความไม่โปร่งใส และอาจกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

นายวิลาศ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ว่าฯ กทม.เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายฟ้องกลับ ว่า ตนมั่นใจว่าทุกอย่างที่ขอให้มีการตรวจสอบการดำเนินงานของ กทม.เป็นข้อเท็จจริง มีหลักฐานชัดเจนว่าส่อทุจริต ประพฤติมิชอบ และขอให้ กทม.นำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์

“ส่วนกรณีที่ กทม.ยินดีที่จะให้ใช้ห้องแถลงข่าวของ กทม.นั้น  ซึ่งเห็นว่าผมไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของ กทม.ถือเป็นคนนอก ส่วนที่ผมใช้ห้องแถลงข่าวของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นสมาชิก และยินดีจะร่วมเวทีชี้แจงข้อมูลร่วมกับ กทม.” นายวิลาศ กล่าว

ที่มา สำนักข่าวไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net