Skip to main content
sharethis

กลุ่มลูกเหรียงจัดงาน “ขอพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กและเยาวชนเป็นของขวัญวันเด็ก” เด็กเข้าร่วมคับคั่งรับแจกของขวัญเพียบ พร้อมโชว์โมเดล 4 ชุมชนนำร่องให้เด็กและชาวบ้านร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัย ตามโครงการ Peace Please พร้อมขยายอีก 60 ชุมชน วันเด็กปีนี้ เด็กขอพื้นที่ปลอดภัยจากสถานการณ์ความรุนแรง ยาเสพติดและความรุนแรงในครอบครัว

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2559 ที่ห้องประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพแห่งชายแดนใต้ หรือกลุ่มลูกเหรียง ร่วมกับกองทุนรวมคนไทยใจดี (BKIND) จัดงาน “ขอพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กและเยาวชนเป็นของขวัญวันเด็ก” โดยมีเด็กและเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน

งานมีซุ้มต่างๆ ให้เด็กๆ ได้เล่นเกมแลกของรางวัล แต่ที่น่าสนใจคือการจัดซุ้มพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนใน 4 ตำบลของจังหวัดยะลา คือซุ้มของ ต.ปุโรง อ.กรงปินัง, ต.ท่าสาป อ.เมือง, ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา, ต.วังพญา อ.รามัน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้กระบวนการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนของตำบล

นอกจากนี้มีการแจกของขวัญให้เด็กและเยาวชนที่ร่วมงานประมาณ 5,000 ชิ้น โดย 2,000 ชิ้นเป็นของบริษัทพอดี พานิช ของนายอุดม แต้พานิช (โน้ตอุดม) นักเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งนายอุดมมาร่วมงานนี้ด้วยแบบเซอร์ไพรส์ ซึ่งสร้างสีสันและความสนุกสนามให้เด็กๆ และเยาวชนพอสมควร

4ชุมชนนำร่องเด็ก-ชาวบ้านร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ นางสาวสุวรา แก้วนุ้ย อาจารย์และนักวิจัยจากสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนาธรรมภาคใต้ (CSCD) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นผู้นำเสนอผลการดำเนินโครงการพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน (Peace Please) ใน 4 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ต.ปุโรง, ต.บาโงยซิแน, ต.ท่าสาป และ ต.วังพญา จ.ยะลา
โดยนางสาวสุวรา นำเสนอว่า เหตุไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 – 2559 มีเด็กได้รับผลกระทบ 544 ราย เสียชีวิต 84 ราย บาดเจ็บ 462 ราย กำพร้าประมาณ 5,000 คน นอกจากโรงเรียนและหนังสือเรียนถูกทำลายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเด็กที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจอีกจำนวนมาก ต่อมา สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพแห่งชายแดนใต้ดำเนินโครงการ Peace Please นำร่องโดยเลือก 4 พื้นที่เป็นโมเดล(ตัวอย่าง)ในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนโดยชุมชนมีส่วนร่วม

พัฒนาการไกลถึงขั้นตั้งสภาเด็ก
นางสาวสุวรา กล่าวว่า การดำเนินโครงการ Peace Please ที่ผ่านมา ที่ ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา ได้เกิดสภาเด็กและเยาวชน ต.บาโงยซิแน ส่วนที่ ต.ท่าสาป อ.เมือง มีการเชิญผู้นำศาสนาและผู้ทำงานวัฒนธรรมในชุมชนมาร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน ขณะที่ ต.ปุโรง อ.กรงปินัง ได้สร้างความเข้าใจในสร้างพื้นที่ความปลอดภัยผ่านกิจกรรมกีฬาและกิจกรรมอบรมจริยธรรมของชุมชน และ ที่ ต.วังพญา อ.รามัน ได้สร้างพื้นที่ปลอดภัยผ่านกิจกรรมฝึกอาชีพของชุมชน

พร้อมขยายอีก 60 ชุมชน
นางสาววรรณกนก เปาะอีแตดาโอ๊ะ นายกสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพแห่งชายแดนใต้ (กลุ่มลูกเหรียง) กล่าวว่า การจัดงาน “ขอพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กและเยาวชนเป็นของขวัญวันเด็ก” ครั้งนี้ เพื่อนำเสนอพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนตามที่สมาคมฯได้ดำเนินการโครงการ Peace Pleaseในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นของขวัญแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่

“พื้นที่ปลอดภัยในมุมมองของเราคือ ทุกส่วนในชุมชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ร่วมกันคิดและกำหนดพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนในชุมชนขึ้นมา เพราะหากมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนมากยิ่ง จะทำให้เด็กและเยาวชนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” นางสาววรรณกนก กล่าว

นางสาววรรณกนก กล่าวอีกว่า ปีนี้โครงการ Peace Please ขยายไปอีก 30 ชุมชน และในปีหน้าจะขยายอีก 30 ชุมชน ซึ่งโครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี

เด็ก “ขอปลอดภัยจากความรุนแรงและยาเสพติด
นางสาวยุสรี เยาะลีมา นักเรียนชั้น ม.4 ในฐานะสมาชิกสภาเด็กและเยาวชน ต.บาโงซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า ในฐานะเยาวชนในพื้นที่อยากให้มีพื้นที่ปลอดภัยให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ ไม่เฉพาะพื้นที่ปลอดภัยจากเหตุรุนแรงในพื้นที่เท่านั้น แต่รวมถึงปลอดภัยจากยาเสพติดและความรุนแรงในครอบครัวด้วย

“จากการที่ตำบลของตัวเองได้ดำเนินการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน ดิฉันคิดว่าอนาคตจะต้องมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีหลายหน่วยงานพยายามสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน โดยการให้ความรู้ที่เกี่ยวกับสิทธิเด็กและเยาวชน เพื่อให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้มีความรู้ในสร้างพื้นที่ปลอดภัย” นางสาวยุสรี กล่าว

นางสาวสุรีย์ กูเต๊ะ นักเรียนโรงเรียนมุสลิมศึกษา ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา กล่าวว่า ในวันเด็กปีนี้อยากให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ต้องมีพื้นที่ปลอดภัยจากเหตุการณ์ความรุนแรง ต้องมีพื้นที่ปลอดภัยจากยาเสพติด และต้องมีพื้นที่ปลอดภัยจากความรุนแรงในครอบครัว เพราะสิ่งเหล่านี้ ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ในอนาคต


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net