Skip to main content
sharethis

คสรท. ร้องนายกฯ ช่วยลูกจ้างซันโคโกเซถูกนายจ้างปิดงาน-ใช้เหมาค่าแรงทำงานแทน เรียกร้องเจ้าหน้าที่รัฐเลิกเฝ้าติดตาม หยุดการควบคุมปิดกั้นกดดัน และให้ถอนกำลังออกจากที่ชุมนุมของคนงาน

19 ม.ค. 2559 เว็บไซต์ VoiceLabour รายงานว่า คณะกรรมการสมานฉันแรงงานไทย (คสรท.) นำโดย วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธาน คสรท.และสหภาพแรงงานกลุ่มต่างๆ ระดับสหพันธ์แรงงาน กลุ่มสหภาพแรงงานเกือบ 100 คน เข้ายื่นหนังสือเรื่อง ขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานกรณีนายจ้างปิดงานสหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทย และมีการจ้างคนงานเหมาค่าแรงเข้าไปทำงานแทนคนงานที่ถูกปิดงาน ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) โดยมี พรรณี ศรียุทธศักดิ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงานเป็นผู้รับหนังสือ

วิไลวรรณ กล่าวว่า ด้วย คสรท. ได้รับการร้องเรียนจากสหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกของ คสรท. กรณีมีข้อขัดแย้งในระหว่างยื่นข้อเรียกร้องกับบริษัท ซันโคโกเซ เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้ลูกจ้างได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

คสรท. จึงขอยื่นหนังสือเพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับสหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทย ตามที่มีการยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทและมีข้อพิพาทแรงงานในระหว่างยื่นข้อเรียกร้อง โดย บริษัท ซันโคโกเซ (เทคโนโลยี่) ประเทศไทย จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 64/20 หมู่ 4 นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นพลาสติกได้แก่ กันชน สปอยล์เลอร์ และชิ้นส่วนตกแต่งภายในรถยนต์ ส่งงานให้ลูกค้าที่ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย เช่น โตโยต้า, ฮอนด้า, มิตซูบิชิ, เจเนรัลมอเตอร์, นิสสัน, ฮีโน่, ซูซูกิ, อีซูซุ, ฟอร์ด, มาสด้า, มิโนะรุ, ทากาตะ, เดนโซ่, เอ็นเอชเค ฯลฯ

โดยในขณะนี้ บริษัท ซันโคโกเซฯ ได้ปิดงานมาตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2558 มาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ลูกจ้างจำนวนกว่า 600 คน ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากสภาพปัญหาทางครอบครัวที่ขาดรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีแรงงานหญิงตั้งครรภ์จำนวนหลายคน ส่งผลกระทบกับสภาพร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก รวมถึงสภาพปัญหาทางครอบครัวที่ขาดรายได้จากการปิดงานของบริษัทฯ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น

วิไลวรรณ กล่าวว่า  คสรท.จึงขอเรียกร้องให้ท่านเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ดังนี้

1. ให้บริษัทฯ รับลูกจ้างกลับเข้าทำงานโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่เอาความผิดใดๆ ทั้งทางแพ่งและอาญา

2. ให้บริษัทฯ จ่ายเงินโบนัสประจำปีให้กับพนักงานคนละ 0.6 เดือน บวกเงินเพิ่มพิเศษ 500 บาท และปรับค่าจ้างประจำปี 1 เปอร์เซ็นต์ บวกเงินเพิ่มพิเศษ 70 บาท ตามที่ได้มีการเจรจากันไว้เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559

3. สิทธิประโยชน์อื่นใดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้คงไว้ตามเดิม

4. การดำเนินกิจกรรมของสหภาพฯกลับถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐจนทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวไม่ปลอดภัย จนทำให้ส่งผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก รวมทั้งผลกระทบการขาดรายได้มานานนับเดือน

ดังนั้น คสรท. จึงขอเรียกร้องให้มีการยุติการกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐและให้ถอนกำลังออกจากการควบคุมการชุมนุมของคนงาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อเสนอที่ได้นำเรียนในวันนี้จะได้รับการพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาจากท่านโดยเร่งด่วน

“อยากขอร้องรัฐ ต่อประเด็นการติดตาม แม้ว่าจะบอกว่าไม่ได้คุกคาม ต้องการมาดูแลผู้นำก็ตาม แต่ในฐานะเป็นผู้หนึ่งที่ถูกติดตามรู้สึกว่ายิ่งไม่ปลอดภัย และหมดเสรีภาพ จะไปไหนมาไหนมีคนติดตามตลอดเวลาทั้งกลางวันกลางคืนส่งผลต่อการดำเนินชีวิต จึงขอร้องให้ระงับสั่งการติดตามได้แล้ว ให้ไปทำงานที่เป็นประโยชน์ เพื่อสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำ จงคืนความสุขให้กลับพวกเราเสียที และการที่เข้าไปแทรกแซงกิจกรรมของสหภาพแรงงานซันโคโกเซฯ การตรึงให้อยู่ในพื้นที่ และไม่ให้เขาเดินทางไปไหนมาไหนอย่างอิสระ คืนเสรีภาพ คืนความสุข ถออยออกจากพื้นที่การชุมนุมของลูกจ้างและหยุดติดตามแกนนำ ผู้นำแรงงานด้วย” วิไลวรรณกล่าว

ด้านนางสาวพรรณี ศรียุทธศักดิ์ อธิบดีกรมสวัสดิฯกล่าวว่า จากปัญหาแรงงานซันโคโกเซฯที่ถูกนายจ้างปิดงานทางกระทรวงฯไม่ได้นิ่งนอนใจซึ่งก็พยายามไกล่เกลี่ยเพื่อแก้ไขปัญหาอยู่ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (20ม.ค.) ก็จะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยอีกครั้งที่แรงงานจังหวัดระยอง ซึ่งจากการเข้าร่วมไกล่เกลี่ยก็เห็นถึงความพยายามของลูกจ้างในการที่แสดงความต้องการกลับเข้าทำงาน และยินยอมรับข้อเสนอจากนายจ้าง รู้สึกเห็นใจลูกจ้างอย่างมากหากดูจากการได้รับโบนัสที่ตกลงกันย้อนหลัง 5 ปี เคยได้โบนัสเกือบแสนบาทวันนี้นายจ้างเสนอให้ 0.6 เดือนบวก 500 บาท ประมาณเกือบหมื่นบาทน้อยกว่าที่เคยได้หลายเท่า แต่ลูกจ้างก็ยอมรับ เพื่อกลับเข้าทำงาน แต่นายจ้างยังคงยืนยันยังไม่รับกลับอีก ด้วยอ้างว่าต้องการคัดเลือกคนกลับเข้าทำงาน เพราะมีบางคนที่ทำให้เครื่องจักรเสียหาย ซึ่งตรงนี้นายจ้างจึงยังไม่รับคนงานกลับเข้าทำงาน ในฐานะตัวแทนภาครัฐก็พยายามแนะนำกรณีการใช้แรงงานเหมาค่าแรงมาทำงานแทนว่า ประสิทธิภาพการทำงานอาจไม่เทียบเท่าลูกจ้างและเสนอให้รับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและสั่งสินค้า ทภให้บริษัทมีรายได้ พรุ่งนี้ก็จะไกล่เกลี่ยอีกครั้ง

ส่วนนายยงยุทธ เม่นตะเภา ประธานสมาพันธ์แรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทอนิกส์ ยานยนต์ โลหะแห่งประเทศไทย (TEAM) กล่าวว่า จากการที่นายจ้างปิดงานลูกจ้าง และนำแรงงานภายนอกเข้าไปทำงานแทนนั้น ไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง และต่อกรณีที่นายจ้างอ้างขาดทุนนั้นก็ต้องการให้มีการตรวจสอบเพื่อการชี้ขาดว่าความจริงขาดทุนหรือไม่ เพื่อความชัดเจน วันนี้เพื่ออนาคตร่วมกันที่ดีลูกจ้างก็ยอมรับข้อเสนอทางนายจ้าง และขอให้นายจ้างถอนข้อเรียกร้องเพื่อขอสวัสดิการคืนออกไป แล้วรับลูกจ้างกลับทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข หากมีคนผิดตามที่อ้างว่าทำให้เครื่องจักรนายจ้างเสียหาย หากมีไม่ว่าจะจงใจหรือไม่จงใจ มีหรือไม่มีก็ไปพิสูจน์กันที่ศาล ไม่ใช่การใช้วิธีคัดเลือกโดยนายจ้างว่าจะให้ใครกลับเข้าหรือไม่ให้เข้า อย่างไรต้องมีความเป็นธรรมกับลูกจ้างด้วยเพราะเดิมไม่มีประเด็นนี้ มีเพียงการเจรจาไกล่เกลี่ยประเด็นข้อเรียกร้อง ตอนนี้จะมีข้อเสนอคัดเลือกคนคงไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง และเกรงว่าจะใช้เงื่อนไขมากลั่นแกล้งต่อรองแกนนำลูกจ้าง อีกประเด็นคือขอความกรุณาไกล่เกลี่ยกันแบบใช้คุณธรรม หลักการไม่ใช่การกดดันแบบทหาร เพราะว่าเท่าที่รู้มีการใช้ท่าทีรุกคุกคามต่อตัวแทนคนงานอย่างมาก

นอกจากนี้ ในงานเดียวกัน ยังมีการแจกแถลงการณ์ประณามการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยกลุ่มสหภาพแรงงานกลุ่มย่านรังสิตและใกล้เคียงด้วย โดยแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ใช้มาตรการทางกฎหมายกับนายบริษัทฯ ให้รับคนงานกลับเข้าทำงานทันที รวมถึงให้ฝ่ายความมั่นคงยุติการติดตามผู้ใช้แรงงานโดยอ้าง มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว และหยุดใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะกับประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบด้วย 


 แถลงการณ์ประณามการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน 
โดยกลุ่มสหภาพแรงงานกลุ่มย่านรังสิตและใกล้เคียงที่มีการแจกในครั้งนี้ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net