ชาวเลยื่นหนังสือเชิญบิ๊ก ธ.กรุงเทพ เจรจาเรื่องทางสาธารณะหาดราไวย์

หลังเหตุชายฉกรรจ์นับร้อยปะทะชาวเล หาดราไวย์ รวมทั้งใช้รถบรรทุกเทหินปิดถนนเข้าออกหาด ล่าสุดบริษัทผู้ดำเนินการยอมเปิดทางสัญจรชั่วคราว 2 เมตรและถอนกำลังชายฉกรรจ์ออก ด้านชาวเล หาดราไวย์ ยื่นจดหมายเชิญบิ๊ก ธ.กรุงเทพ เจรจาหาข้อยุติความขัดแย้ง - ชาวบ้านย้ำที่ดินริมหาดชุมชนใช้ประโยชน์มายาวนานและเป็นทางเข้าออกสู่หาด

28 ม.ค. 2559 กรณีที่เมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) ชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คน ทำร้ายชาวเล ที่ชุมชนหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเปิดทางให้รถบรรทุกเทหินและแท่งปูนเพื่อปิดทางเข้าออกถนนเลียบหาดราไวย์ ซึ่งเอกชนอ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครอง ส่วนชาวบ้านอ้างว่าเป็นที่ดินที่ชุมชนใช้ประโยชน์ยาวนาน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้านี้), (ชมคลิป)

ล่าสุดหลังเกิดเหตุมีตำรวจ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต และทหารเรือที่ 13 กองทัพเรือภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบและควบคุมความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดการปะทะกันอีก

 

บริษัทผู้ดำเนินการยอมเปิดทางสัญจรชั่วคราว รอเจรจารอบใหม่ที่ศาลากลาง 2 ก.พ.

ขณะที่ตั้งแต่เวลา 22.30 น. คืนวานนี้ (27 ม.ค.) รายงานใน ผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า บริษัทที่ดำเนินการปิดทางเข้าหาดยินยอมให้เปิดทางสัญจรชั่วคราวเป็นระยะทาง 2 เมตร ตามข้อเรียกร้องของชุมชน และยอมถอนกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เฝ้าที่ดินออก หลังจากที่มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมที่ สภ.ฉลอง

ทั้งนี้จะมีการหารืออีกครั้งว่าจะให้เปิดเส้นทางถาวรหรือไม่ ในวันที่ 2 ก.พ. นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยเป็นการหารือระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เจ้าของที่ดิน และตัวแทนกลุ่มชาวไทยใหม่อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 2 ก.พ.2559 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

 

ชาวเลยื่นหนังสือเชิญบิ๊กธนาคารกรุงเทพเจรจา

ตัวแทนชาวเล หาดราไวย์ ยื่นหนังสือถึงผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อ 28 ม.ค. 2559 (ที่มาของภาพ: Facebook/Maitree Jongkraijug)

ต่อมาวันนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวเล หาดราไวย์ ได้ยื่นหนังสือถึงผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ใน จ.ภูเก็ต เพื่อขอให้ช่วยประสานงานให้เจ้าของที่ดิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับนายชาลี โสภณพานิช บุตรชายนายชาตรี โสภณพานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ มาช่วยเจรจากับชาวบ้าน โดยเนื้อความในจดหมายระบุว่า

"เนื่องจากชาวเลราไวย์ ทราบข่าวว่า บริษัทที่เข้ามาดำเนินการแล้วใช้ความรุนแรง ทุบตีชาวเลระหว่างวันที่ 25-27 มกราคมนี้ เป็นของบุตรชายนายชาตรี โสภณพานิช และเป็น (อ่านลายมือไม่ออก) ในธนาคารของท่าน เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ชาวเลจึงต้องการให้ท่านช่วยประสานงานกับบริษัทที่มีนายชาลี โสภณพานิชเป็นเจ้าของ เพื่อให้มาเจรจาหาทางยุติความรุนแรงและหาทางออกตามหลักประวัติศาสตร์ทางวิชาการที่ถูกต้อง แทนการใช้ความรุนแรงให้เกิดขึ้นอีก

ชาวเลราไวย์หวังว่าจะได้รับความกรุณาจากท่านเพื่อเห็นแก่ความสงบสุขของทุกคน

จึงเรียนมาเพื่อขอความร่วมมืออย่างเร่งด่วน"

ด้าน นิรันดร์ หยังปาน ผู้ประสานงานชาวเล ราไวย์ กล่าวถึงความจำเป็นของการใช้พื้นที่ของชุมชนว่า ที่ดินดังกล่าวเดิมชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นพื้นที่สาธารณะ เป็นพื้นที่เข้าถึงหาดที่ชาวเลใช้จอดเรือประมง เอาปลาขึ้นจากเรือ และวางเครื่องมือประมง เป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมของชุมชน ใกล้เคียงกันนั้นยังเคยใช้เป็นสถานที่ฝังศพทารกที่เสียชีวิตด้วย นอกจากนี้ในพื้นที่ยังมีบ่อน้ำที่ชุมชนเคยใช้สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังเป็นทางเดินเดียวที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเพื่อเข้าถึงชายหาด

ทั้งนี้ชาวบ้านคาดหวังว่าเจ้าของที่ดินจะเข้ามาหารือพูดคุย ในวันที่จะมีการหารือระหว่างส่วนราชการ  ชาวบ้าน และเจ้าของที่ดิน ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต วันที่ 2 ก.พ. นี้

 

บริษัทเคยขอ มทบ.41 นครศรีธรรมราชเข้าพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ดำเนินการโครงการในที่ดินดังกล่าวคือ ผู้แทนบริษัทบารอน เวิลด์เทรด จำกัด ซึ่งได้นำเครื่องจักรกลเข้ามาในพื้นที่เพื่อเตรียมปรับไถสำหรับโครงการก่อสร้างวิลล่าจำนวน 17 ห้อง บนเนื้อที่ 33 ไร่ แต่ก็ถูกชุมชนขัดขวางเรื่อยมา โดยที่ผ่านมามีการเจรจาหลายครั้งแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปี 58 นายชาตรี หมาดสตูล ผู้แทนบริษัทบารอน เวิลด์ เทรด จำกัด เคยทำหนังสือถึงผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 จ.นครศรีธรรมราช ให้นำกำลังทหารเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาท

ทั้งนี้ในหนังสือที่ยื่นถึง ผบ.มทบ.41 ระบุว่าทางบริษัทมีเอกสารสิทธิ์บนที่ดินดังกล่าว ที่ผ่านมาศูนย์ดำรงธรรม จ.ภูเก็ต เคยเป็นคนกลาง และรังวัดที่ดินโดยสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต เมื่อ 13 ส.ค. 58 เป็นที่มาของการนำกำลังทหารจาก มทบ.41 เข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ก่อนที่หลังเหตุชายฉกรรจ์ปะทะชาวบ้านเมื่อ 27 ม.ค. 59 ตำรวจ สภ.ฉลอง และทหารเรือจากกองทัพเรือภาค 3 ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จึงเข้ามารักษาสถานการณ์เพื่อไม่ให้มีการปะทะแทน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท