เล็งแก้กฎหมายอาญาไม่จำกัดอายุความ

เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเผยเตรียมแก้กฎหมายอาญาไม่จำกัดอายุความ หลังมีแนวโน้มจำเลยหลบหนีคดี ไม่มาฟังคำพิพากษา
 
31 ม.ค. 2559 ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่านายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึง ปัญหาการดำเนินงานของศาลยุติธรรมว่า ส่วนใหญ่มีเรื่องปริมาณคดีที่มีมาก โดยในปี 2558 มีคดีในศาลชั้นต้น กว่า 1,404,199 คดี พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว กว่า 1,215,734 คดี หรือ ร้อยละ 86.58 คดีคงค้าง 188,465 คดี ขณะที่ศาลอุทธรณ์ มีคดี 51,201 คดี พิจารณาแล้วเสร็จ 42,954 คดี คิดเป็นร้อยละ 83.89 มีคดีคงค้าง 8,247 คดี ส่วนศาลฎีกา มีคดี 27,746 คดี พิจารณาแล้วเสร็จ 14,061 คดี คิดเป็นร้อยละ 56.82 มีคดีคงค้าง 10,685 คดี อย่างไรก็ตามจากสถิติดังกล่าวจะเห็นว่า ศาลได้แก้ไขปัญหาคดีคงค้างได้มากขึ้น
       
นายอธิคม กล่าวต่อว่า อีกปัญหาคือเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนกับการบังคับใช้กฎหมาย เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอแก้ไขกฎหมายการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาและจำเลย เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน กับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในปี 2558 มีจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำกว่า 300,000 คน ซึ่งประมาณ 1 ใน 4 คน เป็นผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้ต้องหาและจำเลยกว่า 27,000 คน ที่ถูกปล่อยชั่วคราวแต่หลบหนี ซึ่งหากไทยมี Court Marshall หรือตำรวจศาลเหมือนเช่นต่างประเทศ อาจจะสามารถลดปัญหาดังกล่าวได้ แต่ปัจจุบันสำหรับไทยอาจจะเป็นไปได้ยากเพราะต้องใช้งบประมาณสูงมาก ที่ผ่านมาจึงใช้มาตรการออกหมายจัับ ปรับนายประกันและ ขณะนี้ยังได้แก้กฎหมายให้นำกำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EM มาใช้กับผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกปล่อยชั่วคราวเพื่อป้องกันการหลบหนีและให้ติดตามตัวได้ง่ายขึ้น ซึ่งต้องได้รับการยินยอมจากผู้ต้องหาและจำเลยด้วย แต่หากผู้ต้องหาและจำเลยไม่ยินยอมจะให้ใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ ก็จะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาปล่อยชั่วคราวที่อาจจะไม่ได้รับการประกันตัว อย่างไรก็ดีขณะนี้ก็พยายามจะเสนอแก้กฎหมายในส่วนของประมวลวิธีพิจารณาความอาญาในส่วนเรื่องของการนับอายุความ ที่จะให้เหมือนการพิจารณาคดีค้ามนุษย์ ที่จะไม่ให้อายุความสิ้นสุดแม้จำเลยจะหลบหนี
       
นอกจากนี้ นายอธิคม ยังกล่าวว่าเตรียมจะจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภายหลังผ่านการพิจารณาร่างกฎหมายจัดตั้งศาลของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือน ต.ค.59 นี้ โดยจะเป็นศาลที่ใช้ระบบไต่สวน ในการพิจารณาคดีสำหรับข้าราชการทุกระดับ แต่ในส่วนนักการเมืองนั้นยังคงเป็นอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
       
นายอธิคม กล่าวถึง การดำเนินคดีกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่บุกรุกเว็ปไซด์สำนักงานศาลยุติธรรมจนเกิดความเสียหายในระบบ เมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เว็ปไซด์สามารถใช้งานได้แล้วบางส่วน แต่ศาลจะต้องตรวจสอบระบบต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดข่องโหว่ที่จะให้ใช้ในการโจมตีอีก และสำนักงานศาลยุติธรรมได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปรามการกระความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าทางคดีจากตำรวจ
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท