Skip to main content
sharethis
 
1 ก.พ. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 5/2559 เรื่อง มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. สั่ง ณ วันที่ 1 ก.พ. 59
 
โดยเนื้อหาระบุว่า โดยที่การปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการตามอํานาจหน้าที่ในกฎหมายและระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ ตลอดจนการขับเคลื่อนภารกิจสําคัญตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การอํานวยความสะดวกแก่ประชาชน การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาประเทศ ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และปราศจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นนโยบายสําคัญของ คสช. คณะรัฐมนตรี(ครม.) และสอดคล้องกับประเด็นปฏิรูปทั้งของสภาปฏิรูปแห่งชาติและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
 
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช 2557 หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช.เห็นควรกําหนดมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของบุคลากรภาครัฐเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดิน จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้
 
ข้อ 1 ให้มีการประเมินส่วนราชการ และข้าราชการพลเรือนในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารโดยยึดหลักการประเมิน ดังนี้
 
(1) ประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานประจําหรืองานตามหน้าที่ปกติ ได้แก่ งานตามกฎหมาย กฎมติคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล 
 
(2) ประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ นโยบาย หรือภารกิจที่มอบหมายเป็นพิเศษแก่บางหน่วยงานหรือข้าราชการบางตําแหน่งหน้าที่ เช่น ภารกิจในการปฏิรูปการสร้างความปรองดอง การแก้ปัญหาสําคัญเฉพาะเรื่อง
 
(3) ประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามพื้นที่หรือการบูรณาการการปฏิบัติงานหลายพื้นที่หรือหลายหน่วยงานเพื่อผลสัมฤทธิ์ร่วมกัน เช่น งานที่ต้องประสานและร่วมมือระหว่างจังหวัดระหว่างกรม หรือกระทรวง และงานตามนโยบายประชารัฐซึ่งภาครัฐพึงทํางานร่วมกับท้องถิ่น ภาคประชาชนหรือองค์กรสาธารณประโยชน์
 
ข้อ 2 การประเมินตามข้อ 1 ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้
 
(1) ผู้รับการประเมิน ได้แก่ ส่วนราชการระดับกรมและกระทรวง ข้าราชการพลเรือน ประเภทบริหารระดับสูง
 
(2) ผู้ประเมินให้มีผู้ทําหน้าที่ประเมินส่วนราชการหรือข้าราชการประกอบด้วย
 
2.1 นายกรัฐมนตรี รองนายกฯหรือรัฐมนตรีประจําสํานักนายกฯที่ได้รับมอบหมายหรือมอบอํานาจให้กํากับการบริหารราชการ และกํากับและติดตามการปฏิบัติราชการเขตตรวจราชการในภูมิภาค
 
2.2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
 
2.3 เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการในกรณีประเมินส่วนราชการระดับกรมและกระทรวง และเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในกรณีประเมินข้าราชการ การประเมินสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ให้ใช้ผลการประเมินของผู้ประเมินตาม 2.1 และ 2.2 ให้ผู้ประเมินตามข้อนี้ลงนามรับรองผลการประเมินด้วย
 
(3) แบบประเมิน ให้สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนร่วมกันจัดทําแบบประเมินส่วนราชการและแบบประเมินข้าราชการ ผู้รับการประเมินตามหลักการประเมินในข้อ 1 โดยให้มีการประเมินความรู้ ความสามารถ ทักษะและสมรรถนะ ความวิริยะอุตสาหะ การอุทิศเวลาแก่ราชการ ประสิทธิภาพในการให้บริการและอํานวยความสะดวกแก่ประชาชน การเบิกจ่ายงบประมาณตามเป้าหมาย การสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน การปฏิบัติงานเชิงรุกเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ ความคิดริเริ่ม ความซื่อสัตย์สุจริตการมีธรรมาภิบาล และความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการประกอบกัน
 
(4) แนวทางการประเมิน ในการประเมิน หากมีผลการประเมินจากหน่วยงานกลางเช่น สํานักงบประมาณ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือจากองค์กรภายนอกระบบราชการที่มีการประเมินประเทศในภาพรวมและเป็นที่ยอมรับทั่วไป และเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบส่วนราชการใด ให้ผู้ประเมินนํามาพิจารณาประกอบด้วย
 
(5) ผลการประเมิน ให้รองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรายงานผลการประเมินตามคําสั่งนี้ต่อนายกฯภายในสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายนและเดือนกันยายน เพื่อทราบ หรือประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้าย หรือพิจารณาความดีความชอบหรือลงโทษตามกฎหมายและระเบียบราชการในระหว่างเวลาดังกล่าว รองนายกฯอาจเสนอรายงาน ตั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่อนายกฯเพื่อกําหนดมาตรการเร่งด่วนได้
 
ทั้งนี้ ให้การดําเนินการทุกระดับมีความเป็นธรรม มิให้เกิดการกลั่นแกล้ง ในกรณีเมื่อมีการประเมินแล้วพบว่าข้าราชการผู้ใดทําผิดวินัยหรือกฎหมาย ให้ดําเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
ข้อ 3 การประเมินหน่วยงานและข้าราชการอื่นนอกเหนือจากข้อ 2 ให้ดําเนินการตามมาตรการในคําสั่งนี้โดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติปกติ ดังนี้
 
(1) การประเมินข้าราชการพลเรือนระดับต่ํากว่าข้าราชการตามข้อ 2 (1) ให้ผู้บังคับบัญชาจัดให้มีการประเมิน
 
(2) การประเมินหน่วยงานของรัฐในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร ได้แก่ รัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน ให้หน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการประเมิน
 
(3) การประเมินข้าราชการทหารและข้าราชการตํารวจ ให้กระทรวงกลาโหม และสํานักงานตํารวจแห่งชาติแล้วแต่กรณี จัดให้มีการประเมิน
 
ข้อ 4 ให้มีกรอบอัตรากําลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนจํานวนห้าสิบอัตรา เพื่อรองรับการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ประเภทอํานวยการระดับสูง หรือประเภทบริหารระดับต้น หรือข้าราชการอื่นที่มิใช่ข้าราชการพลเรือนแต่ดํารงตําแหน่งเทียบเท่าโดยนายกรัฐมนตรีมีอํานาจออกคําสั่งให้โอนหรือย้ายมา หรือเลื่อนให้ดํารงตําแหน่งสูงขึ้นในระดับดังกล่าวโดยขาดจากตําแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ไม่ว่าข้าราชการผู้นั้นจะมีความผิดหรืออยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบหรือไม่ก็ตาม
 
ในกรณีที่ส่วนราชการใดต้องการให้ข้าราชการตามกรอบอัตรากําลังชั่วคราวดังกล่าวไปปฏิบัติราชการที่ส่วนราชการนั้น รัฐมนตรีที่สั่งและปฏิบัติราชการส่วนราชการนั้นอาจเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อมีคําสั่งให้ข้าราชการดังกล่าวไปดํารงตําแหน่ง ณ ส่วนราชการนั้นก็ได้
 
เมื่อมีการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการผู้ใดตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนมอบหมายงานให้ข้าราชการผู้นั้นปฏิบัติ โดยคํานึงถึงความรู้ ความสามารถและความเหมาะสมตามหน้าที่ที่เคยปฏิบัติ หรืออาจมอบหมายให้ข้าราชการผู้นั้นไปปฏิบัติงานหรือช่วยราชการ ณ ส่วนราชการใดเป็นการชั่วคราวได้
 
ให้สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนกําหนดชื่อตําแหน่ง อัตราเงินเดือน เงินประจําตําแหน่งตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ และกําหนดวิธีปฏิบัติตามข้อนี้ ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขให้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนวินิจฉัย คําวินิจฉัยดังกล่าวให้เป็นที่สุดเมื่อหมดความจําเป็นแล้ว นายกรัฐมนตรีอาจมีคําสั่งให้ยุบเลิกกรอบอัตรากําลังชั่วคราวตามข้อนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้
 
ข้อ 5 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net