Skip to main content
sharethis

กรณีความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) อาจจะส่งผลต่อผู้ป่วยที่ต้องพึ่งพายาเนื่องจากการผูกขาดของบริษัทยาและการกำหนดราคาตามใจชอบ ทำให้มีคนประท้วงสมาคมเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้แต่ผู้ป่วยมะเร็ง 2 คนที่เข้าร่วมประท้วงกลับถูกตำรวจจับกุมข้อหาบุกรุก

7 ก.พ. 2559 กลุ่มนักเคลื่อนไหวรณรงค์ชื่อกลุ่มพับลิคซิติเซน (Public Citizen) ในสหรัฐฯ นำเสนอเอกสารข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกคนที่ต้องใช้ยา ในเอกสารข้อเท็จจริงดังกล่าวระบุว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมสัญญา TPP จากสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์แห่งสหรัฐอเมริกา (PhRMA) ซึ่งเป็นสมาคมเชิงการค้าให้อภิสิทธิ์กับบริษัทยายักษ์ใหญ่อย่างมากในระดับเกือบจะเป็นการผูกขาดและยังให้อภิสิทธิ์ในการตั้งราคายาด้วย

ทรูธเอาท์ (Truthout) สื่ออิสระที่เน้นเปิดโปงเรื่องความอยุติธรรมรายงานโดยอ้างอิงจากเอกสารดังกล่าวว่าในสัญญา TPP มีการบังคับให้ประเทศที่ร่วมลงนามในสัญญาต้องปรับกฎหมายของพวกเขาให้เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทยาข้ามชาติจนมีอำนาจในการผูกขาดเรื่องต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคและหน่วยงานสาธารณสุขต้องจ่ายค่ายาแพงขึ้น มีโอกาสทำให้คนไข้ไม่ได้รับการรักษาหรือต้องใช้เวลารักษานานขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องการต้องปรับกฎหมายให้บริษัทยาเหล่านี้ต่ออายุสิทธิบัตรยาเก่าได้เพิ่มขึ้นอีก 20 ปี และบังคับให้ประเทศกำลังพัฒนาต้องนำกฎหมายสิทธิบัตรแบบเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วมาใช้ซึ่งเป็นกฎหมายสิทธิบัตรที่เอื้อต่อการผูกขาดยา

ทั้งนี้ เอกสารข้อเท็จจริงของพับลิคซิติเซนยังระบุอีกว่า TPP อนุญาตให้เอกชนมีอำนาจบังคับใช้ข้อตกลงเหล่านี้โดยอาศัยกฎหมายหรือศาลสหรัฐฯ ในการฟ้องร้องเมื่อมีนโยบายหรือการตัดสินใจของรัฐบาลประเทศคู่สัญญาขัดผลประโยชน์ของพวกเขาแม้ในประเทศคู่สัญญาจะไม่ได้ทำผิดกฎหมายในประเทศพวกเขาเองก็ตาม ทำให้บริษัทเหล่านี้อ้างฟ้องร้องคดีเรียกเงินจากรัฐซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนประเทศนั้นๆ ได้

เรื่องนี้ทำให้มีการประท้วงที่หน้าสำนักงานสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์แห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันมะเร็งโลก ก่อนที่แผนการ TPP นี้จะได้รับการพิจารณาจากสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเสร็จสิ้นการพิจารณาในช่วงปลายปีนี้

อย่างไรก็ตามพับลิคซิติเซนเปิดเผยว่าในการประท้วงดังกล่าวมีผู้ป่วยเป็นมะเร็งสองราย ที่ได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้เข้าร่วมประท้วงถูกจับกุมหลังจากที่พวกเธอพยายามแสดงออกอย่างอารยะขัดขืนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของพวกเธอเอง

ผู้ประท้วงทั้งสองรายได้แก่ ซาฮารา เฮกเชอร์ อายุ 51 ปี ผู้กำลังอยู่ในระหว่างรักษามะเร็งเต้านมมาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว อีกรายหนึ่งคือ ฮันนาห์ เลออน อายุ 29 ปี ที่กำลังรักษามะเร็งปากมดลูก ทั้งสองคนร่วมกันคล้องแขนไม่ยอมออกไปจากห้องโถงของสำนักงาน PhRMA ในขณะที่มีผู้ประท้วงอีกหลายสิบคนยืนตะโกนคำขวัญประท้วงอยู่ข้างนอก

พวกเขาตะโกนว่า TPP จะกลายเป็น "คำสั่งประหาร" คนไข้โรคมะเร็งจำนวนมากโดยการทำให้พวกเขาเข้าถึงยาไม่ได้จากการตั้งราคาเอง จนกระทั่งผู้ประท้วงทั้งสองรายถูกตำรวจวอชิงตันดีซีจับกุมข้อหาบุกรุกสถานที่

เฮกเชอร์ กล่าวว่า การที่เธอประท้วงเพราะเกรงว่าคนไข้รวมถึงตัวเธอเองจะได้รับผลกระทบจากราคายาที่สูงขึ้นมาก ยาที่เธอใช้ในปัจจุบันอาจจะมีราคาที่ทำให้เธอต้องจ่ายถึงปีละ 118,000 ดอลลาร์ (ราว 4,200,000 บาท) ถ้าหากว่ายาไม่ได้อยู่ในช่วงทดลองวิจัยทางการแพทย์

โรเบิร์ต ไวสส์มาน ประธานกลุ่มพับลิคซิติเซนกล่าวเน้นย้ำว่า TPP กำลังให้ความสำคัญของบรรษัทเหนือการสาธารณสุข และสัญญาการค้านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นปัญหาการที่บริษัทยาที่มั่งคั่งซื้อข้อตกลงทางการค้าและซื้อตัวนักการเมืองผ่านการใช้อิทธิพลทางการเงินและการสนับสนุนด้านการหาเสียง ไวสส์มานชี้ว่าราคาของยาไม่ได้มาจากราคาการผลิตหรือราคาการวิจัยและพัฒนาเลย แต่เป็นเพราะบริษัทยาเหล่านี้ขึ้นราคาตามอำเภอใจ เนื่องจากไม่มีการแข่งขัน รวมถึงมีการใช้เงินล็อบบี้จำนวนมหาศาล


เรียบเรียงจาก

Cancer Patients Arrested for Protesting TPP's Big Pharma-Favoring Provisions, Truth Out
http://truth-out.org/buzzflash/commentary/us-cancer-patients-arrested-for-protesting-big-pharma-tpp-drug-price-and-patent-mandates

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net