จอห์นนี เดปป์ ร่วมแสดงภาพยนตร์ล้อเลียน โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีหนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปีนี้ โดยใช้เวลาถ่ายทำเพียง 4 วันเท่านั้น
11 ก.พ. 2559 สำหรับภาพยนตร์ดังกล่าว "ฟันนีออร์ดาย" (Funny or Die) เว็บไซต์และบริษัทผลิตรายการภาพยนตร์โทรทัศน์แนวตลกเป็นผู้วางแผนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยวางตัวเจเรมี คอนเนอร์ ผู้มีผลงานซีรีส์ตลก 'ดรังค์ ฮิสตอรี' (Drunk History) เป็นผู้กำกับ เรื่องนี้เขียนบทโดยโจ รานดาซโซ นักเขียนจากเว็บไซต์ข่าวเชิงล้อเลียนเสียดสี 'ดิ ออร์เนียน' (The Onion) ทั้งนี้ตามรายงานของบิสซิเนส อินไซเดอร์
ที่มาของภาพประกอบ: YouTube/Funny of Die
ภาพยนตร์ดังกล่าวมีชื่อว่า "Funny or Die Presents: Donald Trump's The Art of the Deal: The Movie" หรือ "ศิลปะการต่อรองแบบโดนัลด์ ทรัมป์" ความยาว 50 นาที (ชมตัวอย่างภาพยนตร์ที่นี่) มีงานภาพคล้ายถ่ายทำด้วยม้วนวิดีโออนาล็อกแบบวีเอชเอส (VHS) เป็นเรื่องราวแนวล้อเลียนทรัมป์ในยุคคริสตทศวรรษที่ 1980 ซึ่งมีการสื่อถึงวัฒนธรรมยุค 80s โดยมีเดปป์รับบทของมหาเศรษฐีบ้าอัตตาผู้ที่กล่าวเหยียดผู้หญิงและชนกลุ่มน้อยทุกครั้งที่มีโอกาส
คอนเนอร์กล่าวชื่นชมการแสดงและความทุ่มเทของเดปป์ผู้รับบทโดนัลด์ ทรัมป์ จากการที่เขาต้องประชุมกับอดัม แมคเคย์ ผู้ร่วมก่อตั้งฟันนีออร์ดายก่อนหน้าการถ่ายทำหลายเดือน และต้องแต่งหน้าทำผมเป็นเวลา 2-4 ชั่วโมง ก่อนการถ่ายทำทุกวันเพื่อแปลงโฉมเขาให้กลายเป็นทรัมป์
บิสิเนส อินไซเดอร์ ระบุอีกว่าถึงแม้เหล่าดาราตลกในเรื่องนี้จะแสดงแบบด้นสดกันมากแต่ก็มีการอ้างอิงในเชิงล้อเลียนถึงหนังสือชื่อ "The Art of the Deal" (มีการถอดความเป็นภาษาไทยในชื่อ "เส้นทางชีวิต สู่ธุรกิจ พันล้าน") ซึ่งเป็นหนังสือที่ทรัมป์มักจะนำมาโฆษณาตัวเองในช่วงหาเสียง เช่นฉากที่นักแสดงร็อบ ฮูเบล ผู้เล่นบทเป็นเจ้าของเลอคลับของพวกอวดร่ำอวดรวยขอร้องให้ทรัมป์สัญญาว่าอย่าไปหลับนอนกับภรรยาของสมาชิกคลับคนอื่นๆ เป็นช่วงที่มีระบุไว้ในหนังสือเล่มนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอในเว็บไซต์ฟันนีออร์ดายเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคอนเนอร์กล่าวว่าเขากังวลว่าเมื่อนำเสนอวิดีโอออกไปแล้วจะเป็นช่วงที่ทรัมป์เริ่มถอยออกจากการชิงชัยประธานาธิบดีพอดี คอนเนอร์ยังบอกอีกว่าภาพยนตร์ล้อเลียนนี้คงไม่ทำให้ทรัมป์รู้สึกประหลาดใจและคงไม่ส่งผลอะไรต่อเขามากนัก
โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นนักการเมืองที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการที่เขาต้องการระงับสิทธิเลือกตั้งชนชั้นแรงงาน กล่าวโจมตีผู้อพยพ มีแผนสั่งห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศสหรัฐฯ จนทำให้คู่แข่งของทรัมป์มองว่าเขาเป็นพวกแบ่งแยก เป็นพวกที่ไม่จริงจัง หรือไม่ก็เป็น "พวกข่มเหงรังแกคนอื่น"
นักวิจารณ์ภาพยนตร์ในเดอะการ์เดียนปีเตอร์ แบรดชอว์ วิจารณ์ภาพยนตร์ล้อเลียนเรื่องนี้ว่าถึงแม้จะเต็มไปด้วยบทพูดที่เยี่ยมยอด แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวจริงเองก็เหมือนกับสิ่งที่เสียดสีตัวเองในตัวอยู่แล้ว
เรียบเรียงจาก
How Johnny Depp's epic Donald Trump spoof movie was made in just 4 days, Business Insider, 11-02-2016 http://www.businessinsider.com/how-the-funny-or-die-donald-trump-spoof-was-made-2016-2
Donald Trump’s The Art of the Deal — the Movie review: Johnny Depp aces it, but is Trump beyond parody?, Peter Bradshaw, 11-02-2016 http://www.theguardian.com/film/2016/feb/11/donald-trumps-the-art-of-the-deal-the-movie-review-johnny-depp-funny-or-die-adam-mckay
ข้อมุลเพิ่มเติมจาก