Skip to main content
sharethis

รมว.ยุติธรรมเผยยังไม่พึงพอใจผลสอบ พร้อมสั่งสอบเพิ่ม 4 ประเด็นอุทยานราชภักดิ์ ขณะที่ DSI เตรียมส่งหนังสือเรียกสมเด็จช่วงให้ปากคำ ปมรถเบนซ์โบราณ 'สุวพันธุ์' ยังไม่นัดถกคณะทำงานมส.เคลียร์ปมตั้งสังฆราช

24 ก.พ. 2559 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยเกี่ยวกับผลการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานการชี้แจงจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แล้ว ในเบื้องต้น ซึ่งตนยังไม่พึงพอใจในผลการตรวจสอบประมาณ 3-4 ประเด็นที่มีข้อมูลไม่เพียงพอที่ประชาชนมีข้อสงสัย โดยไม่ขอลงละเอียดว่ามีประเด็นใดบ้าง เนื่องจากต้องการให้คณะทำงานได้ไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้วนำกลับมารายงานใหม่ ตนจึงจะสามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ซึ่ง ศอตช.ไม่ได้มีหน้าที่ควบคุมหน่วยงานที่มาตรวจสอบ เป็นเพียงหน่วยงานหลายส่วนมาทำงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบ  เพื่อให้ชี้แจงข้อสงสัยกับประชาชน

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ตนยืนยันในคำพูด ตามเคยที่แถลงไปก่อนหน้านี้ในเรื่องของการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ พร้อมขอชี้แจงว่าตนไม่สามารถไปสั่งการและไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายการทำงานขององค์กรอิสระ ซึ่งต้องให้เวลาในการทำงานเพื่อหาข้อมูลมาชี้แจงให้กับประชาชน

DSI เตรียมส่งหนังสือเรียกสมเด็จช่วงให้ปากคำ

สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบรถเบนซ์โบราณ หมายเลขทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ และเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พล.อ.ไพบูลย์ เปิดเผยว่า อย่าเป็นห่วงเพราะได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยตนบอก พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ทำเหมือนคดีทั่วไปแต่ถ้าช้าสื่ออาจจะมีข้อซักถามและหน่วยงานอาจโดนเพ่งเล็ง ตนขอยืนยันว่าให้อิสระในการทำหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานและขอให้รายงานเข้ามาเป็นระยะแต่ไม่ใช่ก้าวก่ายการทำงาน ขอให้ทำตามนโยบายของรัฐบาล คือ การบังคับใช้กฎหมายและไม่เลือกปฎิบัติ  โดยขั้นตอนแรกของการตรวจสอบรถโบราณนั้นก็มีการทำหนังสือไปถึงสมเด็จช่วง รวมทั้งได้บอกอธิบดีดีเอสไอ ไว้แล้วว่าให้ไปกราบท่านที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หรืออาจจะเชิญมาที่กระทรวงยุติธรรมก็ได้ โดยเรื่องนี้ต้องให้ความเคารพนับถือและให้เกียรติกัน ซึ่งท่านอาจกำหนดว่าไปตรงไหนเพื่อความเหมาะสมและอธิบดีดีเอสไอควรชี้แจงขั้นตอนมีอะไรบ้าง แต่คดีความต้องว่าไปตามกฎหมาย
 
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า  สัปดาห์หน้าจะทำหนังสือไปถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อสอบถามว่าสะดวกเมื่อไหร่ก็จะกำหนดเดินทางเข้าพบอีกครั้งแต่ต้องขึ้นอยู่กับทางวัดด้วยว่ามีภารกิจสงฆ์หรือไม่ หากทำหนังสือกำหนดวันชัดเจนแล้วก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนทางวัดปากน้ำภาษีเจริญ หากมีการเปลี่ยนตัวทนายความจะดำเนินงานอย่างไรนั้น ทางดีเอสไอ ดูตามหลักฐานข้อเท็จจริงซึ่งได้มีอยู่ส่วนหนึ่งแล้วแต่ก็ต้องสอบถามสมเด็จช่วงอีกครั้งว่าท่านรับรถโบราณคันดังกล่าวมาจากไหน เรื่องลายมือเป็นชื่อท่านจริงหรือไม่ การครอบครองรถและการได้มาซึ่งหลักฐานเอกสารต่างๆ ต้องสอบถามกับตัวท่านโดยตรง  สำหรับประเด็นคำถามก็มีหลายประเด็นซึ่งพนักงานสอบสวนเตรียมไว้แล้ว และจะสอบถามไปยังพระรูปอื่นหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่ว่าท่านอ้างอิงพระรูปอื่นอีกหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบมี หลวงพี่แป๊ะ รูปเดียวที่เคยให้การมาก่อนหน้านี้
 
สุวพันธุ์ ยังไม่นัดถกคณะทำงานมส.เคลียร์ปมตั้งสังฆราช
 
ขณะที่ นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ว่า ขณะนี้พศ.กำลังรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เพื่อเสนอต่อนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทในฐานะกำกับดูแลพศ. ขณะเดียวกันนายสุวพันธุ์ได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกรณีการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาและการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีได้หารือกับกลุ่มนักวิชาการเปรียญธรรม 9 ประโยค หลังจากนั้นคาดว่าจะมีการหารือกับฝ่ายอื่นๆอีกโดยระยะเวลาการหารือจะนานเท่าใดนั้นทางพศ.ไม่ทราบเพราะเป็นการดำเนินการในส่วนของของนายสุวพันธุ์เอง อย่างไรก็ตาม  คาดว่าเมื่อรัฐมนตรีหารือทุกฝ่ายจนได้ข้อมูลที่เพียงพอก็คงจะสรุปข้อคิดเห็นทั้งหมดเสนอต่อรัฐบาล
 
ส่วนกรณีที่มหาเถรสมาคม(มส.)ได้ให้คณะทำงานซึ่งเป็นกรรมการมส. 3 รูป คือ พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม (ธรรมยุต) พระพรหมบัณฑิต   วัดประยุรวงศาวาส (มหานิกาย) และพระพรหมโมลี   วัดปากน้ำภาษีเจริญ(มหานิกาย) หารือกับนายสุวพันธุ์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการที่มส.เสนอรายชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 นั้น  ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้มีการนัดหมายกับคณะทำงานของมส.  และนายสุวพันธุ์ก็ยังไม่ได้มีคำสั่งใดๆเกี่ยวกับการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชมายังพศ. ขณะนี้การดำเนินการยังเป็นไปตามขั้นตอนตามปกติ

 

เรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net