สน.นางเลิ้งยันหลังชาวบ้านอุทธรณ์ จะชุมนุมค้านปลดล็อคผังเมืองต้องขอหัวหน้า คสช.

25 ก.พ.2559 ที่สน.นางเลิ้งเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งของสน.นางเลิ้งที่ห้ามเครือข่ายชุมนุมคัดค้าน คำสั่ง คสช.ที่ 3/2559 และ 4/2559 อันมีผลยกเลิกกฎหมายผังเมืองในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเครือข่ายระบุเหตุผลในการอุทธรณ์ว่า กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ สน.นางเลิ้งตัดสินใจ ตำรวจมีหน้าที่เพียงเตรียมการและดูแลความปลอดภัย หลังจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ.สน.นางเลิ้งได้ออกหนังสือคำสั่งไม่อนุญาตให้ทางเครือข่ายชุมนุม (อ่านที่นี่)

วันเดียวกัน สน.นางเลิ้งมีคำสั่งยืนยันว่า คำสั่ง คสช.ดังกล่าว ถือเป็นกฎหมายตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว การชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมาย

“หากท่านประสงค์จะจัดการชุมนุมดังกล่าว เห็นควรให้ยื่นเรื่องขออนุญาตต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งทางรัฐบาลได้กำหนดให้มีช่องทางการยื่นเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เห็นควรให้ติดต่อ ติดตาม เรื่องได้ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ” หนังสือคำสั่ง สน.นางเลิ้งระบุ  

ที่ 168/129 หมู่ที่ 2 ตำบลบางละมุง

อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559

เรื่อง    อุทธรณ์คัดค้านหนังสือสรุปสาระสำคัญการชุมนุมสาธารณะ

เรียน    ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง/ผู้รับแจ้ง

อ้างถึง  หนังสือสรุปสาระสำคัญการชุมนุมสาธารณะ ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559

                 ตามที่ท่านในฐานะผู้รับแจ้งการชุมนุมสาธารณะในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งได้ทำหนังสือสรุปสาระสำคัญการชุมนุมสาธารณะว่า การจัดการชุมนุมของเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในวันที่ 25 – 28 กุมภาพันธ์ 2559 นั้น สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งไม่สามารถอนุญาตให้มีการชุมนุมดังกล่าวได้ เพราะเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายถือเป็นการชุมนุมทางการเมืองขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 3(4) รายละเอียดแจ้งแล้วนั้น

                   ทางเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขออุทธรณ์คัดค้านหนังสือดังกล่าวด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.      เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธโดยถือได้ว่าเป็นสิทธิเสรีภาพที่ชนชาวไทยเคยได้รับการคุ้มครองต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนานตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่แล้วโดยได้รับความคุ้มครองตามนัยของ มาตรา 4 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557

2.      พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 กำหนดให้ผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุมต้องแจ้งก่อนการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงเพื่อความสะดวกในการจัดการและการดูแลความปลอดภัยมิใช่ระบบที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนการชุมนุม โดยมาตรา 11 กำหนดให้ท่านซึ่งเป็นผู้รับแจ้งสรุปสาระสำคัญในการชุมนุมสาธารณะอันเป็นการแจ้งสิทธิและหน้าที่ให้ผู้ชุมนุมทราบแต่มิได้กำหนดอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตหรือไม่อนุญาตการชุมนุมตามที่ท่านกล่าวอ้างในหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด

3.      การแจ้งการชุมนุมของเครือข่ายฯ ในครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมเพื่อเสนอให้รัฐบาลและ คสช.ทบทวนการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2559 และ ที่ 4/2559 ซึ่งเป็นการยกเว้นการใช้บังคับกฎหมายผังเมืองอันส่งผลกระทบต่อสิทธิชุมชน สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ และมิใช่การชุมนุมทางการเมืองตามนัยของประกาศ คสช. ที่ 7/2557 และคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ตามที่ท่านให้ความเห็นประกอบไว้ในหนังสือดังกล่าว การตีความเรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองอย่างกว้างขวางถึงขนาดว่าผู้ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง คสช. ไม่ว่าเรื่องใดแล้วจะเป็นเรื่องชุมนุมทางการเมืองไปเสียทุกเรื่องนั้น เป็นการตีความบังคับใช้กฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลจนเกินสมควร และจะทำให้การชุมนุมแสดงความคิดเห็นต่อคำสั่งหรือนโยบายของ คสช. และรัฐบาลไม่สามารถกระทำได้โดยสิ้นเชิงอันเป็นการกระทบกระเทือนสาระสำคัญของเสรีภาพการชุมนุมตามกฎหมายอย่างร้ายแรงและไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาของสังคมในระบอบประชาธิปไตย

4.      ประกาศ คสช.ที่ 7/2557 ที่ท่านอ้างถึงตามหนังสือนั้นปัจจุบันไม่มีผลบังคับใช้แล้ว เนื่องจากมีการออกคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 มาใช้บังคับแทน

ด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าว เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขอยืนยันว่าการการชุมนุมครั้งนี้มิใช่การชุมนุมทางการเมืองตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 โดยเครือข่ายฯ มีความประสงค์ดังต่อไปนี้

1.      ขอใช้เสรีภาพในการชุมนุมตามวัน เวลา สถานที่ ตามที่ได้แจ้งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้น

2.      ขอให้ท่านได้ทบทวนปรับแก้หนังสือสรุปสาระสำคัญการชุมนุมสาธารณะให้ถูกต้องตามหลักการและช่วยดูแลความปลอดภัยของประชาชนและผู้ชุมนุมตามอำนาจหน้าที่ต่อไปด้วย

 

ขอแสดงความนับถือ

 

( นายสมนึก จงมีวศิน )

ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท