Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา รายงานข่าวจาก ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) แจ้งว่า เมื่อเวลา 13.30 น. พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าจากกรณีเหตุการณ์ เมื่อ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดหน้าร้านมิตติ้ง เป็นเหตุให้ฐานปฏิบัติการตะวันของ มว.ฉก.11 บ้านงาแม ม.4  ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ได้เสียหายไปกับเปลวไฟที่เกิดจากแรงระเบิด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ  โดย พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบในขั้นต้นพบว่าก่อนเกิดเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 27 ก.พ.59 เวลา 09.30 น. ได้มีคนร้ายปล้นรถฮอนด้าแจสหลังก่อเหตุคนร้ายได้ หลบหนีไปเหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถ ใต้สะพานสูงตะลุโบะ หน้าร้านเพชรเกษม ยางยนต์  บ.ตะลุโบะ ม.7 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี จากนั้นในเวลา 12.35 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์(คาร์บอมบ์) หน้าร้านอาหารมิดติ้ง ซึ่งตั้งอยู่ติดกับจุดพักคอยการเข้าเวร  พื้นที่ บ้านงาแม่ ม.4  ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานีมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย จากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์คันที่ใช้ในการก่อเหตุ (คาร์บอมบ์) เป็นรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า  รุ่นแจ๊ส สีขาว ซึ่งคนร้ายได้ปล้นจากราษฎรไปเมื่อ 09.30ของวันเดียวกัน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าของชี้แจงผลการปฏิบัติดังนี้

1. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะเห็นได้ว่า คนร้ายไม่สามารถเข้าไปก่อเหตุในเขตเมืองเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการปฏิบัติตามนโยบายการรักษาความปลอดภัยเขตเมืองหลัก ของ พล.อ.ธีรชัย  นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่เน้นให้ทุกหน่วยวางมาตรากรเข้มในการป้องกันการก่อเหตุในเขตเมืองหลัก ประกอบกับ พล.ท.วิวรรธน์ ได้มีแนวทางในการปฏิบัติงานด้านการสร้างพื้นที่ให้ปลอดภัย โดยเฉพาะเขตเมืองเศรษฐกิจ ทั้งนี้ในขณะเกิดเหตุหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแผนพิทักษ์ ปัตตานี ด้วยการจัดชุดลาดตระเวนแบบใยแมงมุมกระจายกำลังใน 16 จุดตรวจ 13 เส้นทางเสี่ยง 26 จุดเสียง และได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 15 ชุด ออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตเมือง พร้อมประสานกล้องวงจรปิดในส่วนที่เกี่ยวข้อง และ ประสานกำลังภาคประชาชนให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดทุกพื้นที่ ทำให้กลุ่มก่อเหตุรุนแรงไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถดังกล่าวไปก่อเหตุในเขตเมืองได้

2. จากการตรวจสอบคาดว่าลักษณะระเบิดเป็นการตั้งเวลา เมื่อเจ้าหน้าที่มีมาตรการเข้มในการรักษาเขตเมืองคนร้ายจึงไม่สามารถลงมือวางระเบิดในเขตเมืองได้ จึงได้นำระเบิดไปวางในจุดดังกล่าว ซึ่งจะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์เพียงเล็กน้อย

3. การควบคุมพื้นที่ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วแค่เพียง 3 นาที ทุกฝ่ายโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถเข้าไปช่วยเหลือการดับได้ทันเวลาไม่ก่อเหตุให้เกิดการลุกลามเพราะปฏิบัติตามแผนป้องกันเมือง

ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคลี่คลายคดีได้เร่งรัดตรวจสอบภาพจากเครื่องวงจรปิด (CCTV) เพื่อให้สามารถระบุตัวบุคคล หรือกลุ่มเครือข่ายที่เข้ามาก่อเหตุในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้ในไม่นานนี้ นอกจากนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปทำการซักถามจำนวน 1 ราย

สรุปเส้นทางการเข้ามาก่อเหตุคาร์บอมย์ของ ผกร.  คนร้ายได้นำรถยนต์ที่ปล้นมา หลบหนี ไปตาม ถนนสายรองตามหมู่บ้าน บ.ตะลุโบะ หมู่ 7 ต.ตะลุโบะ ฯ มุ่งหน้าไป ร.ร. ปะการิมาบุโละฯ  ซึ่งกล้อง CCTV สามารถจับภาพรถยนต์คันดังกล่าวไว้ได้ จากนั้นได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่า พบเห็นรถยนต์คันดังกล่าวขับผ่าน บ.จือแรนิบง ม.4 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองฯ เวลาประมาณ 09.50 ซึ่งคาดว่าคนร้ายนำระเบิดมาประกอบในรถยนต์ ก่อนจะนำไปวางไว้ที่ร้านอาหารมิตตติ้งใกล้จุดพักคอยเพื่อเข้าเวรยามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net