7 มี.ค.ตรวจพยานหลักฐาน112 คดีที่สอง ‘ปิยะ’กรณีส่งเมลตัดพ้อมีคนบังคับเขียนหมิ่น

เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2559 ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดพร้อมสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานคดี 112 ที่นายปิยะ (สงวนนามสกุล) ตกเป็นจำเลยจากกรณีส่งอีเมลเข้าข่ายหมิ่นไปยังอีเมลธนาคารกรุงเทพและเว็บไซต์อื่นๆ

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ทนายความ กล่าวว่า จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากอัยการติดธุระด่วนทำให้มาศาลไม่ได้ ศาลจึงเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานไปเป็นวันที่ 7 มี.ค.2559 และไม่ได้สั่งพิจารณาคดีลับ ส่วนสภาพของจำเลยเมื่อต้องขึ้นศาลคดีที่สองนั้น หน้าตาจำเลยดูหมองคล้ำกว่าเดิม และบิดาของจำเลยที่มาศาลก็ร่ำไห้

คดีนี้นับเป็นคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์คดีที่สอง ก่อนหน้านี้ในคดีแรกศาลอาญาเพิ่งพิพากษาจำคุกเขา 9 ปีแต่เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษให้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอัยการติดภารกิจสำคัญไม่สามารถมาได้ทำให้ต้องเลื่อนนัด

ข้อมูลจากเพจiLaw ระบุว่า ระหว่างถูกคุมขังในคดีแรก วันที่ 28 มกราคม 2558 พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าแจ้งข้อกล่าวหาในคดีที่สองให้ปิยะทราบที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยหนึ่งในข้อหาที่ถูกแจ้งคือ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 ปิยะส่งอีเมล์โดยใช้ชื่อว่า จุ๊บ (Vincent Wang) มีเนื้อหาทำนองตัดพ้อว่า ถูกคนกลุ่มหนึ่งบังคับให้เขียนอีเมล์หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ เพื่อแลกกับชีวิตภรรยา จึงต้องพยายามเมาเหล้าก่อนเขียน และรู้สึกเสียใจมาก โดยได้ยกข้อความส่วนหนึ่งของอีเมล์ที่ถูกบังคับให้เขียนมาเล่าไว้ด้วย ข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาลักษณะหมิ่นประมาทสมเด็จพระพี่นาง และสมเด็จย่า และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึงข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ อีเมล์ฉบับนี้ส่งไปยังผู้รับคือ Info BangkokBank

ในคดีแรกเขาถูกแจ้งความหลังมีผู้พบเห็นบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “นายพงศธร บันทอน” ซึ่งมีรูปลักษณะคล้ายปิยะเป็นรูปภาพประจำตัว เผยแพร่ข้อความเข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ผู้พบเห็นนำเรื่องไปกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

กระทั่งปิยะถูกจับกุมและควบคุมตัวที่บ้านพักย่านลาดพร้าว วันที่ 11 ธันวาคม 2557 และถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาวันที่ 13 ธันวาคม 2557 โดยปิยะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา เลือกสู้คดีและศาลพิจารณาคดีเรื่อยมา จนกระทั่ง 20 มกราคม 2559 ศาลอาญาพิพากษา จำคุกปิยะในคดีแรก 9 ปี ลดเหลือ 6 ปี ทั้งนี้โจทก์มีเพียงภาพแคปเจอร์จากมือถือมาเป็นหลักฐาน โดยไม่มีหลักฐานอื่นๆ ทางคอมพิวเตอร์ และศาลเลือกเชื่อถือปากคำพยานคนหนึ่งที่มาแจ้งความ โทษของปิยะถือว่าสูงเป็นสถิติใหม่ของศาลพลเรือน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท