Skip to main content
sharethis

เครือข่ายไทยพุทธปัตตานีแถลงการณ์ประณามกรณีคนพุทธถูกยิง 10 รายในช่วง 2 เดือน เรียกร้องรัฐดูแลประชาชนทุกศาสนาอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะชุมชนพุทธและผสมมุสลิมเพราะเปราะบางหวันแตกแยก วอนผู้นำทุกศาสนาโปรดร่วมมือแก้ปัญหา สรุปเดือนมีนาฯแค่ 3 วันมี 8 เหตุการณ์ ตาย 6 คน มีทั้งพุทธมุสลิม
 

คนพุทธประณามเหตุร้ายถี่

เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ลานวัฒนธรรมเทศบาลเมืองปัตตานี เครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานี ประมาณ 10 คน ร่วมอ่านแถลงการณ์เรื่อง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชาวพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีชาวพุทธเสียชีวิตจากเหตุไม่สงบในพื้นที่กว่า 10 รายซึ่งทำให้พี่น้องชาวพุทธเสียขวัญอย่างมาก

โดยนายนุสนธิ์ เจื่อจันทร์ แกนนำเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานีเป็นผู้อ่านแถลงการณ์ว่า เครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานีขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและขอไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต และได้ประณามผู้ก่อเหก่อเหตูว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายผิดมนุษย์ ขอให้ผู้ก่อเหตุหยุดการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์นี้เสีย และหากการกระทำนั้นเพราะหวังผลทางการเมืองถือเป็นการกระทำที่เลยร้ายที่สุด

วอนปกป้องชุมชนพุทธและผสมมุสลิมเพราะเปราะบางที่สุด

นอกจากนี้ยังเรียกร้องไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) กองทัพและตำรวจ โดยขอให้ 1.นำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร่งด่วนที่สุด 2.ขอให้ร่วมพลังกับทุกฝ่ายและร่วมมือกับชุมชนปกป้องชีวิต ทรัพย์สิน ความเป็นอยู่ของพี่น้องอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะชุมชนชาวพุทธและชุมชนผสมชาวพุทธมุสลิมที่เป็นพื้นที่เปราะบางที่สุดในเวลานี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของผู้กระทำทุกฝ่าย และเพื่อป้องกันการบาดหมางและความแค้นที่อาจแปลงเป็นความรุนแรงต่อกันระหว่างคนพุทธและคนมุสลิม

3.ขอให้ทหาร ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี ไม่จับคนผิดตัว เพราะทุกครั้งที่จับกุมคนผิดมักมีการกล่าวอ้างว่าจับผิดตัวและหลังจากนั้นคนพุทธ เด็ก ผู้หญิง จะเป็นกลุ่มแรกที่ถูกทำร้ายคล้ายการเอาคืนเสมอ 4.ขอให้ ศอ.บต.และหน่วยงานพลเรือนดูแลจิตใจพี่น้องที่รับผลกระทบทุกครอบครัว โดยเฉพาะชาวพุทธเพราะเป็นกลุ่มเปราะบางที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมืองเป็นอันดับแรก

วอนผู้นำทุกศาสนาโปรดร่วมมือแก้ปัญหา

ขณะเดียวกันยังเรียกร้องไปยังผู้นำศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธด้วย โดยขอให้ 1.ผู้นำศาสนาอิสลามออกมาแสดงบทบาทป้องปราบให้สติแก่ศาสนิกตระหนักต่อคำสอนของศาสนาอิสลามและไม่ทำร้ายคนต่างศาสนิกและศาสนิกเดียวกัน 2.ผู้นำศาสนาพุทธ อันหมายถึงพระสงฆ์ ขอนมัสการให้ไม่ใช้สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพุทธไปในทางยั่วยุให้เกลียดชังระหว่างต่างศาสนิก อันอาจเป็นเหตุทำให้ปัญหาความรุนแรงบานปลาย 3.ผู้นำทุกศาสนาโปรดร่วมมือกันแก้ปัญหาโดยธรรมให้มากกว่าที่เป็นอยู่ การสานเสวนาระหว่างอนุศาสนาจารย์ควรมีบทบาทและมีส่วนคลี่คลายสถานการณ์มากกว่าปัจจุบัน

เหยื่อ 10 รายในรอบ 2 เดือน

ทั้งในแถลงการณ์ได้ระบุด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2557 - 2559 ข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ระบุว่า ความรุนแรงและความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6,543 ราย บาดเจ็บ 11,919 ราย ในจำนวนนี้พบว่าเป็นชาวพุทธเสียชีวิตร้อยละ 40 และบาดเจ็บร้อยละ 60 มีพระสงฆ์มรณภาพ 19 รูป และบาดเจ็บ 25 รูป

ในช่วง 2 เดือนของปี 2559 มีการสูญเสียของชาวพุทธกว่า 10 ราย และเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่ทำให้พี่น้องชาวพุทธเสียขวัญอย่างมาก เช่น กรณีการเสียชีวิตของนายชาและนางอ้อม มณีอร่าม สองสามีภรรยาขณะกรีดยางใน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กรณีนายสมศักดิ์ ดุษฎีพิริยะ เจ้าของอู่เพชรเกษมยางยนต์ อ.เมือง จ.ปัตตานีถูกปล้นรถไปติดระเบิดแล้วนำไปจุดระเบิดใน อ.เมืองปัตตานีจนมีผู้บาดเจ็บ 11 ราย กรณียิงใส่กลุ่มลูกจ้างเกี่ยวข้าว อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้นายจิรพล ศีรนอก อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมาเสียชีวิต กรณีนายฉัตรชัย แซ่ทอง อ.ยะหา จ.ยะลา ถูกยิงแล้วเผาเสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยาง กรณี พ.ต.อ.องอาจ ทองมา อายุ 82 ปี อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรยะรัง จ.ปัตตานี ถูกยิงเสียชีวิตและจุดไฟเผาทำลายศพ และกรณีนายสุทัศน์ ไกรวรรณ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปัตตานีถูกยิงเสียชีวิต

หลังจากนั้นเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานีได้เดินแจกเอกสารแถลงการณ์ของเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานี ร่วมกับแถลงการณ์ของเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี

เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพและสมาคมเด็กร่วมประณาม

นอกจากนี้เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพและสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หรือกลุ่มลูกเหรียง ได้ออกแถลงการณ์กรณีที่ชาวพุทธในพื้นที่ถูกยิงเสียชีวิตหลายรายด้วยเช่นกัน

โดยเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพมีข้อเรียกร้องคือ 1.ขอประณามบุคคล กลุ่มบุคคลที่ร่วมก่อการจนเกิดเหตุอันน่าสลดใจ เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิต 2.ให้มีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 3.เพิ่มมาตรการการตรวจค้น การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอย่างผิดกฎหมาย 4.ขอให้หน่วยรักษาความมั่นคงเข้มงวดกวดขันในการดูแลความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด

ส่วนสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หรือ กลุ่มลูกเหรียงมีข้อเรียกร้องคือ 1.ขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้ 2.ขอให้หาทางป้องกันปกป้องดูแลผู้บริสุทธิ์ 3.ขอให้เจ้าหน้าที่นำผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้โดยเร็วที่สุด

มีนาฯ 3 วัน 8 เหตุ ตาย 6 มีทั้งพุทธมุสลิม

ส่วนศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ศูนย์ปฏิบัติการร่วม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รายงานเหตุการณ์ในช่วงวันที่ 1-4 มีนาคม 2559 มีทั้งหมด 8 เหตุการณ์ เสียชีวิต 6 คนโดยเป็นราษฎร 4 คน ในจำนวนนี้ถูกยิงแล้วเผา 2 ราย ส่วนบาดเจ็บอีก 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ อส.ทั้งหมด รายละเอีดดังนี้

วันที่ 4 มีนาคม 2559 เวลา 08.10 น.เกิดเหตุลอบวางระเบิด ชป.รปภ.ครู ชคต.ตันหยงมัส แรงระเบิดทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 2 นาย ชื่อ 1.อส.ตรี ปรีชา มานะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.5 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และ 2.อส.โท อรรถพล เหมพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/4 ม.2 ต.ตันหยงมัส เหตุเกิดขณะรปภ.ครู โรงเรียนบ้านทำนบ ม.1 ต.เฉลิม อ.ระแงะ ริมถนนสาย 4107 ม.2 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ

วันที่ 3 มีนาคม 2559 เวลา 05.20 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ยิงนายฉัตรชัย แซ่ทอง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 5 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตและจุดไฟเผาศพ เหตุเกิดขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยางพารา เกิดเหตุบนถนนภายในหมู่บ้านซีเซะ หมู่ที่ 5 ต.บาโร๊ะ

เวลา 13.50 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงนายสุทัศน์ ไกรวรรณ อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าปัตตานี เสียชีวิตขณะเตรียมการเคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูงในบริเวณริมถนนสาย 410 บ้านชามู ม.1 ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

เวลา 18.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ยิง พ.ต.อ.องอาจ ทองมา อายุ 82 ปี ข้าราชการตำรวจเกษียณราชการ อยู่บ้านเลขที่ 15/12 ม.3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิตขณะกำลังปั่นรถจักรยานออกกำลังกาย เพียงลำพัง หลังก่อเหตุคนร้ายได้ราดน้ำมันและจุดไฟเผาเพื่อทำลายศพ เหตุเกิดริมถนนสายยะรัง-ยาบี บ้านกรือเซะ ม.1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

วันที่ 2 มีนาคม 2559 เวลา 22.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงคราม ยิง อส.ทพ.อานัส ดามูซอ อายุ 27 ปี สังกัด ร้อย.ทพ.4102 ฉก.ทพ.41 อยู่บ้านเลขที่ 53/1 ม.7 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเนินภูเขาบ้านเปาะยานิ ม.3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา

เวลา 07.30 น.คนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยิงนายอับดุลเลาะ วอลี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/6 ม.3 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะขับรถจักรยานยนต์ไปกรีดยางพาราที่สวนยางพารา บ้านบลูกาฮูลู ม.4 ต.บาตง โดยมีภรรยานั่งซ้อนท้ายมาด้วย ที่เกิดเหตุบนถนนทางเข้าสวนยางพารา บ้านบลูกาฮูลู ม.4 ต.บาตง

เวลา 21.30 น.คนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิง อส.ทพ.เปารี สือแม อายุ 35 ปี สังกัด ร้อย.ทพ.4603 ฉก.ทพ.46 อยู่บ้านเลขที่ 214/1 ม.1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาสได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะขับรถกระบะสี่ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดาตามถนนสายลาไม – ดุซงญอ โดยหลบหนีไปของความช่วยเหลือที่ด่านตรวจก่อนนาส่งโรงพยาบาล

เวลา 12.10 น.คนร้ายยิงนายอิบรอเฮ็ม ราแดง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.3 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตขณะขับรถจักรยานยนต์ไปกรีดยางพาราพร้อมภรรยาภายในสวนยางพาราบ้านบาซาลาแป บ้านย่อยบ้านสะปอง ม.3 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา

 

แถลงการณ์ฉบับเต็ม

แถลงการณ์เครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานี

ศักดิศรีความเป็นมนุษย์ของชาวพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

4 มีนาคม 2559

“ความเงียบที่ชายแดนใต้เมื่อคนพุทธถูกทำร้ายและเป็นเหยื่อของความรุนแรง”

ตั้งแต่ปี 2557-  2559 ข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ระบุว่า ความรุนแรงและความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6,543 ราย ได้รับบาดเจ็บ 11,919 ราย คิดเป็นร้อยละ พบว่า ชาวพุทธเสียชีวิตร้อยละ 40 และบาดเจ็บร้อยละ 60 มีพระสงฆ์ มรณะ 19 รูป และบาดเจ็บ 25 รูปในช่วง 2 เดือนของปี 2559 มีการสูญเสียของชาวพุทธกว่า 10 ราย  และมีกรณีเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ซึ่งทำให้พี่น้องชาวพุทธเสียขวัญอย่างมาก เช่น กรณี การเสียชีวิตของสามีภรรยา นายชา มณีอร่าม และนางอ้อม มณีอร่าม ขณะกรีดยางใน อ.โคกโพธิ์  จ.ปัตตานี กรณีนายสมศักดิ์ ดุษฎีพิริยะ เจ้าของอู่เพชรเกษมยางยนต์ อ.เมือง จ.ปัตตานี แล้วปล้นรถไปติดตั้งระเบิด แล้วนำไปจุดระเบิดใน อ.เมืองปัตตานี จนทำให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย กรณีการกระทำอันโหดร้ายป่าเถื่อนต่อเด็ก ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มลูกจ้างเกี่ยวข้าว ในทุ่งนา อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้นายจิรพล ศีรนอก อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมาเสียชีวิต กรณีนายฉัตรชัย แซ่ทอง อ.ยะหา จ.ยะลา ถูกยิงเสียชีวิตคาที ขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยาง โดยหลังก่อเหตุคนร้ายราดน้ำมันจุดไฟเผาทำลายศพ ก่อนหลบหนีไป กรณี พ.ต.อ.องอาจ ทองมา อายุ 82 ปี อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิตและจุดไฟเผาทำลายศพ และกรณีนายสุทัศน์ ไกรวรรณ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปัตตานีเสียชีวิต

ในฐานะเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานี ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและขอไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตทุกท่าน ขอให้ท่านไปสู่สุคติ และเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นเกิดขึ้นอีก จึงขอเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆ ดังนี้

เครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานีเรียกร้องดังนี้

1.ไม่ว่าคุณเป็นใคร ฝ่ายใด คุณโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ สมควรได้รับการประณามจากสังคม และขอให้กรรมที่คุณก่อไว้ได้รับโทษ อยู่อย่างทุกข์ทรมาน เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น กรรมติดตัวคุณไปทุกชาติทุกภพ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ทั้งในขณะเป็นมนุษย์และหลังความตายที่คุณไม่มีทางหนีพ้น

2.หยุดการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์นี้เสีย เพราะมนุษย์ผู้ยังมีหัวใจรักต่อเพื่อนมนุษย์ในทุกหย่อมหญ้า นับหมื่นนับแสน นับล้าน จะมีส่วนในการสาปแช่งการกระทำที่เลวร้ายของคุณ

3.หากการกระทำนั้น เพราะหวังผลทางการเมือง ถือเป็นการกระทำที่เลยร้ายที่สุดไม่สมควรเป็นเยี่ยงอย่างและต้องการกระทำเช่นนี้อย่างเด็ด เพราะคุณไม่มีทางได้ผลดีใดๆ มีแต่ความเกรียดชัง สิ้นศรัทธาและไม่มีทางได้มวลชนที่คุณการต้อง

ฝ่าย  ศอ.บต.กองทัพและตำรวจ

1.ขอให้มีการประสานงานกันเป็นพิเศษ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน การกระทำอันโหดเหี้ยมนี้ และนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร่งด่วนที่สุด โดยไม่มี่การยกเว้นและเห็นแก่ใครทั้งสิ้น

2.ขอให้จัดการดูแล ประสานงาน ร่วมพลังกันกับทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ และร่วมมือกับชุมชน ปกป้อง ป้องกันชีวิต ทรัพย์สิน ความเป็นอยู่ของพี่น้องอย่างเข้มงวด ในทุกชุมชนโดยเฉพาะชุมชนชาวพุทธและชุมชนผสมชาวพุทธมุสลิม ที่ถือเปราะบางที่สุดในเวลานี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของผู้กระทำของทุกฝ่าย และเพื่อป้องกันการบาดหมางและความแค้นที่อาจแปลงความรุนแรงต่อกันระหว่างคนพุทธและคนมุสลิม

3.ขอให้ทหาร ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี มีทั้งนิติธรรมและคุณธรรม ไม่จับคนผิดตัว เพราะครั้งที่ท่านจับกุมคนทำผิด มักจะกล่าวอ้างว่าจับผิดตัวและหลังนั้นคนพุทธ เด็ก ผู้หญิง จะเป็นกลุ่มแรกที่ถูกทำร้ายคล้ายการเอาคืนเสมอ

4.ขอให้ ศอ.บต. และหน่วยงานพลเรือนต่างๆ ดูแลจิตใจพี่น้องที่รับผลกระทบทุกครอบครัว โดยเฉพาะชาวพุทธที่ประสบเหตุร้ายในห้วงเวลาที่ผ่านมา เป็นพิเศษเพราะเป็นกลุ่มเปราะบางที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมืองเป็นอันดับแรก

ผู้นำศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ

1.ผู้นำศาสนาอิสลาม ต้องยอมรับได้ว่า คนทำผิดและคนที่ทำร้ายผู้อื่น ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม จึงเป็นหน้าที่ของท่านที่ต้องออกมาแสดงบทบาทบางอย่าง  เพื่อเป็นการป้องปราบ ให้สติแก่ศาสนิกของท่าน ให้ตระหนักต่อคำสอนอันดีงามของศาสนาอิสลาม ศาสนาสันติ และไม่ทำร้ายคนต่างศาสนิกและศาสนิกเดียวกันด้วย

2.ผู้นำศาสนาพุทธ อันหมายถึงพระสงฆ์ ขอนมัสการให้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพุทธไปในทางยั่วยุให้มีการเกลียดชังกันระหว่างต่างศาสนิก อันอาจเป็นเหตุทำให้ปัญหาความรุนแรงบานปลาย และร้อนระอุมากขึ้น ขอให้ใช้หลักเมตตาธรรมในการค้ำจุนสังคมที่เจ็บปวดนี้

3.ผู้นำศาสนาทุกศาสนา โปรดร่วมไม้ร่วมมือกันแก้ปัญหาโดยธรรม ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ การสานเสวนาระหว่างอนุศาสนาจารย์ ควรมีบทบาทและมีส่วนคลี่คลายความร้องแรงของสถานการณ์ในพื้นที่มากกว่าปัจจุบัน

ชาวพุทธในพื้นที่ ขอให้ท่านออกมาแสดงบทบาทของคนพุทธในพื้นที่อย่างมีศักดิ์ศรี  เพื่อไม่ให้การตาย การบาดเจ็บ และการสูญเสียของชาวพุทธเงียบงันเหมือนที่ผ่านและส่งเสียงให้สังคมได้เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิพลเมืองของคนพุทธในพื้นที่ ขอให้ร่วมแสดงบทบาทใดๆ ที่ท่านเห็นควร เพื่อร่วมเยี่ยวยาสังคม แก้ปัญหาความรุนแรงและมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพร่วมกับกลุ่มคนอื่นๆ ในสังคม

 

แถลงการณ์เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ

กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 3 มีนาคม 2559

คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงราษฎรไทยพุทธเสียชีวิตและเผา นายฉัตรชัย แซ่ทอง อายุ 55 ปี ที่อยู่ 55 ม.5 ต.บาโระ อ.ยะหา จ.ยะลา ขณะกรีดยางพารา

พบศพราษฎรชายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ อส.ทพ.อานัส ดามูซอ อายุ 26 ปี สังกัด ฉก.ทพ.41 นอนเสียชีวิตอยู่ริมเชิงเขาในป่ารกข้างทาง สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ลำตัวหลายนัด ม.3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา

คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนลอบยิ่งเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ทราบชื่อ นายสุทัศน์ ไกรวรรณ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ม.2 บ้านบาซาเวาะเซ็ง ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง พ.ต.อ.องอาจ ทองมา อายุ 82 ปี (ข้าราชการ ตร.เกษียณ อดีต ผกก.ยะรัง) ที่อยู่ 15/12 ม.3 ต./อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิตและเผา ขณะปั่นจักรยานออกกำลังกาย เหตุเกิด บ.กรือเซะ ม.1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสของการพูดคุยสันติสุข ที่กำลังเดินหน้า และอาจจะส่งผลให้บรรยากาศของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสียไป

เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม และมากกว่าการสร้างสถานการณ์ จึงมีข้อเรียกร้องมายังผู้รับผิดชอบดังต่อไปนี้

1.ขอประณามบุคคล กลุ่มบุคคลที่ร่วมก่อการจนเกิดเหตุอันน่าสลดใจ เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิต

2.ให้มีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

3.เพิ่มมาตรการการตรวจค้น การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอย่างผิดกฎหมาย

4.เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ขอเรียกร้องให้หน่วยรักษาความมั่นคงเข้มงวดกวดขันในการดูแลความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด

เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ

4 มีนาคม 2559

 

แถลงการณ์สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้

เรื่องประณามการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2559 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงราษฎรไทยพุทธเสียชีวิตและเผา 1 ราย ขณะกรีดยางพารา ทราบชื่อ นายฉัตรชัย แซ่ทอง อายุ 55 ปี ที่อยู่ 55 หมู่ที่ 5 ต.บาโระ อ.ยะหา จ.ยะลา เหตุเกิด หมู่ที่ 5 ต.บาโระ อ.ยะหา จ.ยะลา เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่งต่อประชาชนทั่วไป

สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้(กลุ่มลูกเหรียง) ขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุ ความรุนแรงอันเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมขาดเมตตา ไร้มนุษยธรรมที่ผิดต่อกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน ทางสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้(กลุ่มลูกเหรียง) ขอวิงวอนต่อผู้ที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ดังต่อไปนี้

1.ขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้

2.ขอให้หาทางป้องกันปกป้องดูแลผู้บริสุทธิ์

3.ขอให้เจ้าหน้าที่นำผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้โดยเร็วที่สุด

สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้(กลุ่มลูกเหรียง) ขอปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ ยอมรับการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสันติสุข และขอแสดงความเสียใจและความห่วงใยเป็นอย่าง ยิ่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ครั้งนี้และเชื่อมั่นว่าสันติภาพที่ยั่งยืนไม่อาจเกิดขึ้นได้หากผู้บริสุทธิ์ยังคง ถูกคุกคามและสังคมอย่างไรซึ่งความมั่นคงปลอดภัย

สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้(กลุ่มลูกเหรียง)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net