'ทนายจูน' ให้การเพิ่มเติมคดีค้นรถ ยืนยันการไม่อนุญาตค้นรถชอบด้วยกฎหมาย

'ศิริกาญจน์ เจริญศิริ' ทนายหนึ่งในคณะทำงานคดีขบวนประชาธิปไตยใหม่ เข้าให้การเพิ่มเติมในคดีค้นรถ ยืนยันว่าการไม่อนุญาตค้นรถชอบด้วยกฎหมาย
 
 
ทนายความศิริกาญจน์ เจริญศิริ และ ทนายความกฤษฎางค์ นุตจรัส
(ที่มาภาพ: ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน)
 
5 มี.ค. 2559 เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าทนายความศิริกาญจน์ เจริญศิริ หนึ่งในคณะทำงานคดี 14 ขบวนประชาธิปไตยใหม่ (New Democracy Movement – NDM) ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้การและยื่นเอกสารเพิ่มเติมในคดีซึ่งพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าศิริกาญจน์กระทำผิดฐานทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติตามและซ่อนเร้นพยานหลักฐานตามมาตรา 142และ 368 ประมวลกฎหมายอาญา จากการไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ค้นรถโดยไม่มีหมาย รวมถึงทนายความกฤษฎางค์ นุตจรัสหัวหน้าคณะทำงานทนายความคดี 14 NDM ได้เข้าให้การในฐานะพยานซึ่งอยู่ร่วมเหตุการณ์ โดยหลังให้การเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวนขอเลื่อนส่งตัวผู้ต้องหาให้อัยการไปก่อนจากนัดเดิม 9 มี.ค.59
 
นางสาวศิริกาญจน์ ได้ให้การเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ตน และเพื่อนทนายความได้ติดตามผู้ต้องหาจำนวน 14 ราย ตั้งแต่ในชั้นจับกุมและควบคุมตัวที่สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง จนมีการส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยังศาลทหารกรุงเทพเพื่อทำหน้าที่ทนายความในการคัดค้านการขอฝากขังผู้ต้องหาดังกล่าว โดยตนนำรถเข้าไปจอดในบริเวณหน้าศาลทหารได้ภายหลังแสดงบัตรประจำตัวทนายความต่อเจ้าหน้าที่ทหารเพราะในเวลาดังกล่าวบุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าไปในบริเวณศาลได้ ทำให้ผู้ต้องหาทั้ง 14 รายต้องฝากทรัพย์สินไว้กับทนายความเมื่อทั้งหมดต้องถูกควบคุมตัวและเมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอทำการตรวจค้นรถโดยอ้างว่าน่าจะมีโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา 14 คน อยู่ในรถยนต์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีหมายค้นมาแสดงและไม่สามารถตอบได้ว่าโทรศัพท์มือถือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอย่างไร ดังนั้นเมื่อการจะขอตรวจค้นดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนทั้งไม่มีเหตุจำเป็นตามกฎหมาย คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วยการค้นตามมาตรา 92(4) ซึ่งจะค้นโดยไม่มีหมายเมื่อมีเหตุอันควร ตนจึงไม่อาจยินยอมให้มีการค้นรถในเวลาดังกล่าวได้
 
ด้านทนายความกฤษฎางค์ นุตจรัส ได้ให้การว่าตนอยู่ร่วมระหว่างที่ผู้ต้องหาทั้ง 14 รายถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลพระราชวังและได้ไปทำหน้าที่คัดค้านการฝากขังในศาลทหารกรุงเทพ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ตนอยู่ในเวลาดังกล่าวพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี 14 NDM ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไม่ได้แสดงความต้องการหรือเรียกให้ผู้ต้องหาส่งมอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาทั้ง 14 รายแต่อย่างใด โดยทนายกฤษฎางค์สรุปว่าการที่ผู้กล่าวหาขอตรวจค้นรถของนางสาวศิริกาญจน์ ในเวลา 01.00 น.ของวันที่ 27 มิ.ย.58 โดยไม่มีหมายค้นของศาลที่มีอำนาจนั้น ย่อมกระทำไม่ได้ตามกฎหมาย เพราะรถยนต์ดังกล่าวจอดอยู่ในที่จอดรถของศาลทหาร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลพื้นที่อยู่ และอนุญาตให้จอดรถยนต์ไว้ และไม่มีความผิดซึ่งหน้าซึ่งเป็นเหตุอันสมควรที่จะตรวจค้นได้ ทั้งเป็นเวลาวิกาล ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีที่กล่าวมาทั้งหมด การขอตรวจค้นของเจ้าหน้าที่จึงไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และไม่มีอำนาจตรวจค้นได้
 
ทั้งนี้ระหว่างการให้การได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอยู่ร่วมระหว่างการสอบสวนและถ่ายภาพคณะทำงานตลอดเวลาการให้การ นอกจากนี้นางสาวศิริกาญจน์ ยังขอให้สอบพยานของผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้แก่นายอานนท์ นำภา และนางสาวไอดา อรุณวงษ์ซึ่งอยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วยในวันดังกล่าวโดยทั้งสองจะเข้าให้การในวันที่ 7 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 10.00 น. อย่างไรก็ตามภายหลังจากการให้การของนางสาวศิริกาญจน์และทนายกฤษฎางค์เสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนแจ้งว่าเมื่อมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมน่าจะสรุปความเห็นสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องไม่ทันกำหนดนัดส่งตัวให้อัยการในวันที่ 9 มีนาคม 2559 ซึ่งนัดไว้เดิม และหากไม่ทันระยะเวลาดังกล่าวการจะฟ้องคดีนี้พนักงานอัยการจำเป็นต้องขออนุญาตฟ้องต่ออัยการสูงสุดตามมาตรา  7 ประกอบมาตรา 9 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะแจ้งนัดส่งตัวนางสาวศิริกาญจน์ไปยังพนักงานอัยการให้ทราบภายหลังอีกครั้งหนึ่งเมื่อสรุปสำนวนเสร็จสิ้น
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท